รายการ “แฉ” ทางช่อง GMM25 3 พิธีกร มดดำ คชาภา, ดาด้า วรินดา, บุ๊คโกะ ธนัชพันธ์ พูดคุยกับคู่รักดัง มาวิน ทวีผล และ ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์ ที่ชีวิตความรักยิ่งกว่าละคร เพราะคบมาราธอนยาวนานกว่า 10 ปี แต่เพิ่งจะได้เข้าไปพบครอบครัวฝ่ายหญิงเมื่อตอนคบมา 8 ปี
โดย มาวิน เล่าถึงวันที่ได้คุยกับ ตู่ ปิยวดี เป็นงานครอบครูช่อง 3 ซึ่งคืนก่อนที่จะไปนอนดึก ดื่มสังสรรค์ ตื่นมาสติไม่เต็มร้อย พอได้เจอกับตู่ ปิยวดี เลยบอกรุ่นน้องว่าชอบมาก สวยมาก ซึ่งตนก็รู้ว่าเขานามสกุลมาลีนนท์ แต่ตอนนั้นแค่ซุบซิบกันเฉยๆ ตอนนั้นคุณตู่มาทาบทามเล่นละครให้เขาเรื่อง “วนาลี” ก็เลยคิดว่าถ้าโอกาสนี้ไม่ชวนเขาคุย ก็ไม่มีโอกาสคุยแล้วนะ สมัยนั้นใช้บีบีอยู่ ก็เลยขอแลกพิน
ซึ่งตอนนั้นเลยชวนคุยเรื่องทำฟันเพราะทำฟันที่เดียวกัน เพราะแอบส่องเขาตั้งแต่ร้านทำฟันแล้ว ตนแอบถามหมอว่าคนนี้ใคร เขาเลยตอบว่าคุณตู่ลูกนายไง ก็แอบส่องมาตลอด ไม่กล้าคุย ด้าน ตู่ ปิยวดี บอกว่า มีวันนึงเดินสวนกันตรงบันไดตรงที่ไปหาหมอฟัน เราเดินลงมาแล้วเขาขึ้นไปพอดี ก็เลยสวนกัน แต่เราจำเขาไม่ได้ แต่มาวินบอกว่าตนจำเขาได้แม่น
...
ตู่ ปิยวดี บอกว่าไม่เคยคิดว่าจะมีแฟนเป็นดารานายแบบ เพราะแฟนคนก่อนๆ เป็นคนนอกวงการ แต่พอมาวินมาจีบ ดารามาจีบเยอะมาก ฮอตมาก แถมดาราบางคนเป็นเพื่อนกับมาวินด้วย ยังงงจนถึงทุกวันนี้ แต่ก็คุยกับทุกคนแบบเพื่อนพี่น้อง
ซึ่งตอนที่ขอพินบีบี ตอนนั้นตนบอกเขาว่าเดี๋ยวจะติดต่อไปให้มาแคสติ้งละคร แล้วมาวินถามว่าจะติดต่อกันยังไง ก็เลยแลกพินกัน ด้าน มาวิน บอกว่าตอนนั้นอยากทำความรู้จักกันมากกว่านี้ อยากให้เขาจำเราได้ก่อน และตอนนั้นถ่ายรูปคู่กัน มาวินก็บอกว่าให้ส่งรูปคู่มาด้วย เขาก็ส่งมาให้
เมื่อมดดำถามว่าอะไรที่ทำให้มาวินมั่นใจ อยากได้เขาเป็นแฟน มาวินบอกว่า “เขาก็น่ารักกับผม เขาคุยดีครับ เลยคิดว่าโอเค” ตู่รีบบอก “ก็คุยดีกับทุกคน จริงๆ มดดำรู้จักวินมาก่อนอีก ต้องรู้ความเฟี้ยวฟ้าวของเขา”
มดดำ เม้าท์อีกว่า มาวินเป็นหนุ่มฮอต เป็นนายแบบที่ห้องเสื้อต้องการ เขี้ยวเล็บเยอะ ลูกเศรษฐีหลายตระกูลมาชอบเยอะ ทำไมอยู่ดีๆ มายอมแพ้ผู้หญิงคนนี้ มาวินตอบว่า “ตัวจริงเขาน่ารักมากครับ เขาเติมเต็มให้เราได้ เวลาเราเข้าหาคนอื่น เหมือนเราต้องคอย Push เขา แต่คุณตู่ Push เราเยอะมาก ให้กำลังใจเยอะมาก ซึ่งเราไม่เคยได้จากใคร”
พอมีข่าวหลุดไปว่ามาวินมาจีบ ตู่ ปิยวดี เล่าว่า “มีผู้หญิงคนเก่าโทรมาเยอะมากจนต้องถามว่าเธอมีอีกไหม คือเขาโทรมาเล่าเรื่องวินให้ฟัง แต่ไม่ทันเพราะเขาเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังหมดแล้ว คือใช้เวลา 3 วันเล่าชีวิตตั้งแต่มัธยม จนกระทั่งถึงปัจจุบันว่าก่อนหน้านี้ทำอะไรมาบ้าง
คือเรื่องที่ผู้หญิงเล่าให้ฟัง เรารู้หมดแล้ว ตอนนั้นคิดว่าถ้าเราเลือกจะเชื่อเขา เราก็เลิกรับโทรศัพท์ผู้หญิงเหล่านั้นได้แล้ว ก็เลยไม่ฟังแล้ว ตอนนั้นคิดว่าถ้าเราพลาดจริงๆ เราก็แค่โง่ ไม่ตายหรอก”
ซึ่งตอนที่คบกัน 3 ปีแรก เราต่างกันมาก วิธีคิดก็ต่างกัน ใช้ชีวิตต่างกันมาก ก็คิดว่าจะคบกันยังไง ช่วงนั้นก็คุยกันเยอะ เราสองคนเป็นคนที่ไม่เก็บ มีอะไรก็คุยกัน ซึ่งมาวินเป็นผู้ชายติดดินมาก ในขณะที่ตู่ ปิยวดี เป็นลูกคุณหนู
เมื่อถามว่าฝ่าด่านบ้านเขามาได้ยังไง วันที่ไปเจอครอบครัวของตู่ ปิยวดี เป็นไงบ้าง มาวินบอกว่าต้องใช้เวลาถึง 8 ปี กว่าจะได้เข้าบ้านฝ่ายหญิง ตอนนั้นเป็นงานตรุษจีนที่บ้าน เกร็งหมด พูดยังมือเย็นอยู่เลย แต่โชคดีที่มีพวกเป็นหลาน ลูกพี่สาว เขาหลอกหลานเล่นเกม
...
ตู่ ปิยวดี เล่าว่า วันนั้นที่บ้านบอกว่าให้พาเขามา เพราะเห็นว่าคบกันมานานมากแล้ว ก็เลยบอกว่าให้ชวนมากินข้าว เลยชวนเขาไป เราไม่ค่อยตื่นเต้น เขาตื่นเต้นมากกว่า มาวินเล่าต่อว่าที่ฝ่าด่านมาได้ด้วยการใช้ความตลก แต่เราก็จริงใจ เป็นตัวเอง ซึ่งแม่ของคุณตู่ชอบมาก เข้ากับครอบครัวได้ดี
มดดำถามต่อว่าแล้วมาวินเปลี่ยนชีวิตคุณหนูของตู่ ปิยวดี เป็นผู้หญิงติดดินได้ยังไง มาวินบอกว่า “ผมว่าผมโชคดีอย่างที่พี่มดดำพูดเลยว่าเขาแมนมาก อยากเรียนรู้ชีวิตคน เมื่อเขาเป็นเจ้านายในกองถ่าย เขาก็อยากให้ลูกน้องรู้ว่าเขาห่วงใย เขาใส่ใจนะ เขาเลยลดตัวเองลงมาอยู่ข้างล่าสุด ถ้ากองกินอะไรเขาก็กินตาม ผมสอนเขากินปลาร้า สอนกินทุกอย่าง เขาก็ยอม สนุกตาม ใช้ชีวิตมินิมอลมาก”
...
จากนั้น ตู่ ปิยวดี เล่าว่า ช่วงแรกที่คบเขา เขาไม่ค่อยมีตังค์ ไม่มีถึงขั้นที่คิดให้เขาเลยว่าอาทิตย์นี้เธอใช้เงินได้ 1000 บาท มื้อนึงจะกินเท่าไร ช่วง 2 ปีแรก เราไม่ไปกินข้าวกับเพื่อนเลย เพื่อนบางทีกินมื้อนึง 2-4 พันบาท เขาไม่ไหวหรอก
ซึ่งเวลาไปกินข้าวตนไม่เคยออกเงินให้ คือเขาไม่ต้องออกให้เราก็ได้ แต่เขาจะต้องออกของเขาเอง กินข้าว 100-200 ก็ได้ ก็อิ่มเหมือนกัน อร่อยด้วย มีความสุขดี ยอมรับว่ามาวินเปลี่ยนชีวิตเรามาก เปลี่ยนความคิดหลายอย่าง เราเข้าสังคมไม่เป็น เราทำงานกองถ่าย มีคนหลากหลาย เขาทำให้เราคุยกับคนเป็นมากขึ้น คบกันมา 10 ปี แทบไม่ทะเลาะกันเลย คุยกันหาทางออกมากกว่า
กับคลิปขอแต่งงานที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการเซอร์ไพรส์ที่เรียบง่ายมาก ตู่ ปิยวดี บอกว่า ก่อนหน้านี้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไกลมาก ก่อนที่เขาจะทำเรื่องอาหาร ยังคิดว่าเป็นไปได้ยากจริงๆ ตอนนั้นยังคิดว่าไม่น่ามีงานแต่งงานด้วยซ้ำไป
...
มาวินเล่าต่อว่า เคยเกริ่นๆ กันไว้ว่าถ้าอยากแต่งต้องรีบแต่ง แต่เขาไม่ได้พูดว่าต้องแต่งงานกัน แต่ผมรู้สึกว่าถ้าเขาพูดแบบนี้เขาเปิดทางแล้ว ต้องหาเวลาทำเซอร์ไพรส์ให้ได้ ก็เลยหลอกล่อไปที่ร้านจนได้ เพราะธรรมดาเขาไม่มาแน่นอน (ชมคลิป คลิกที่นี่).