เป็นอีกหนึ่งศิลปินตลกที่โดนสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อมีคลิปขู่เผาบ้าน ราดน้ำมัน และด่าทอภรรยาออกมา สำหรับ จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม รุนแรงจนอดีตภรรยาต้องฟ้องร้องตัดขาดสถานะความเป็นผัวเมีย อีกทั้งยังเจอคำแรงว่าเป็นแมงดาเกาะภรรยากิน ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเกิดมาจากความโมโหขาดสติทั้งหมด ล่าสุดเจ้าตัวมาเล่าถึงบทเรียนราคาแพงครั้งนี้ในรายการ "คุยแซ่บ SHOW" ทางช่อง One31 ที่มี ชมพู่ ก่อนบ่าย และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร

สภาพจิตใจหลังโดนมรสุม?
จั๊กกะบุ๋ม : หลังจากที่มีข่าวผมใช้ชีวิตปกติ ไม่ใช่ไม่รู้สึก ผมรู้สึกเพียงแต่เราไม่ทำตัวเองให้ไปตามข่าว เพราะถ้าเราทำไปตามนั้นก็จะทำอะไรต่อไม่ได้ ค่อยๆ แก้ไขทุกอย่างที่เกิดขึ้นทีละข้อๆ ครับ

ในวันนั้นอะไรเกิดขึ้น?
จั๊กกะบุ๋ม : วันนั้นมันเป็นเหตุที่เป็นเรื่องราวของสามีภรรยาทะเลาะกัน ความที่ผมเป็นคนเจ้าอารมณ์ อารมณ์ร้อน เวลาที่โมโหอะไรที่ใกล้มือผมทุบทำลายหมด มันเกิดมาจากความอัดอั้นตันใจทุกสิ่งทุกอย่าง ในวันนั้นน้อยใจภรรยาทำไมอยู่ด้วยกันแล้วไม่เข้าใจเราเลย เราเลยเลือกที่จะใช้กำลังในการทุบทำลายข้าวของที่ขวางหน้าในตอนนั้น

...

ทะเลาะกันเรื่องอะไร?
จั๊กกะบุ๋ม : ก็เข้าใจผิดกันครับ ภรรยาเขาคิดว่าผมเป็นคนแบบนี้ ผมพยายามอธิบายให้เขาฟังว่าผมไม่ได้ทำแบบที่เขาคิด แต่เขายังไม่เชื่ออยู่ แต่เราไม่ได้อธิบายด้วยเหตุผล เราอธิบายด้วยอารมณ์ ภรรยาไม่ฟัง อารมณ์เราก็ปะทุๆๆ เราก็ขึ้น เริ่มต้นจากการทุบผนังกำแพงห้องนอนเราก่อน ใช้เหล็กทุบ แล้วก็มาเรื่อยๆ ทุกอย่างที่อยู่ในห้อง ก็เป็นเรื่องหึงหวง ผู้หญิงทุกคนมีสิทธิ์หึงหวงหมด แต่มันแฝงไปด้วยการทำงานด้วยธุรกิจของเราด้วย เรื่องรับคนใหม่เข้ามาทำงานมันเปลืองค่าใช้จ่าย บวกกับที่เราเข้าใจภรรยาเราผิดด้วยว่าพูดกับเราเรื่องผู้หญิงมันมาจากความหึงหวงหรือเปล่า

ทำไมต้องราดน้ำมันเผา?
จั๊กกะบุ๋ม : ตอนนั้นมันเป็นภาวะของคนที่ไม่รู้จะระบายอะไร ตอนนั้นอะไรที่อยู่ตรงหน้าผมสามารถทำลายได้หมด เราราดไปแล้วแต่ไม่ได้ตั้งใจจะเผาใคร จะเผาบ้านตัวเอง รู้สึกแค่ว่าทำไมมึงไม่เข้าใจกู โมโห หลังจากที่ราดน้ำมันผมก็นอนที่บ้านหลังนั้นข้างน้ำมันนั่นแหละ

ทำแค่ขู่?
จั๊กกะบุ๋ม : ใช่ครับแค่ขู่

เรื่องของทำร้ายร่างกาย?
จั๊กกะบุ๋ม : เรื่องนี้เป็นประเด็นมาก คนมาด่าผมมากมาย ผมขออนุญาตอธิบายในเรื่องแผลที่เห็นหรือข่าวหรือสื่อที่ออกไปว่าผมทำร้ายผู้หญิงหรือภรรยาตัวเองอันนี้ไม่เป็นความจริง ถ้าลองเข้าไปดูในไทม์ไลน์มันเป็นรูปเก่าเมื่อหลายปีที่แล้ว มันเป็นอุบัติเหตุ ตอนนั้นผมทะเลาะกันทำลายข้าวของ แล้วมันกระเด็นไปโดนเขา คนละช่วงเวลากันครับ

ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กแต่อารมณ์ยังค้างอยู่?
จั๊กกะบุ๋ม : แน่นอนคนมันโมโห มันมีอารมณ์ทุกอย่างที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจ และไม่สามารถควบคุมสติของตัวเองได้ ผมมีอะไรพูดหมด อะไรที่ไม่ดี มันต้องด่าอะไรที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้เจ็บแสบผมพูดหมด โดยที่ไม่ได้คิดอะไร ใช้อารมณ์และโทสะของตัวเองเป็นตัวนำหมดเลย

ตอนนั้นไม่สนใจ พูดทุกอย่างให้เขาดูไม่ดี เรื่องในบ้าน เรื่องบนเตียง ผมเป็นคนเลวนะ เพราะว่าตอนนั้นผมโมโห อะไรที่ทำให้ผู้หญิงดูไม่ดีผมพูดหมด ถ้าวันนั้นอยู่ใกล้ๆ ตายนะผมบอกเลย วันนั้นไม่มีสติแล้ว หลังจากจบไลฟ์โดนด่าเยอะ เพราะมีคนมาเล่าให้ผมฟัง แต่ผมเป็นคนที่ไม่ดูคอมเมนต์ของโซเชียล

...

รู้ซึ้งแล้วว่าทำไมคนด่าทั้งเมือง?
จั๊กกะบุ๋ม : ครับ เพราะผมใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ขาดการยับยั้งชั่งใจทำทุกอย่างหมด มีคำด่าเจ็บๆ เยอะ มีคำว่าแมงดา ก็แฟนผมเป็นคนมีฐานะ มันก็ถูกมองว่าผมเกาะผู้หญิงกิน ช่วงมีปัญหาเราทำร้านอาหารด้วยกัน ตอนที่ลงทุนผมพูดตรงๆ แบบลูกผู้ชายเงินส่วนหนึ่งก็มาจากภรรยา แต่ในตัวผมไม่ได้คิดอะไร ผมไม่ได้คิดว่าจะเอาเงินจากผู้หญิงคนนี้มาสร้างให้ตัวเองดูยิ่งใหญ่ มันเป็นการลงทุนทำงานเป็นสามีภรรยาในครอบครัว

ถูกคนตัดสินไปแล้ว?
จั๊กกะบุ๋ม : ผมต้องแคร์เขาไหมล่ะ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวผมเองหรอก ถ้าเป็นแมงดาแบบผมเลิกเป็นเถอะเกาะผู้หญิงแล้วไม่รวย สูบเงินจากผู้หญิงคนนั้นจนผมมีทุกอย่างเป็นชื่อผม แล้วผู้หญิงคนนั้นหมดตัวนั่นแหละเรียกแมงดา แต่ในวันนั้นที่ผมออกมา ผมมีเงิน 317 บาท ผมไม่มีตังค์ แสดงว่าอาชีพแมงดาผมเป็นแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ ผมเลยเลือกที่จะไม่สนใจคำด่า กลับมาทำอะไรอีกอย่างเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าผมไม่ได้สนใจอะไรที่พวกคุณด่าผมเลย มันกลับเป็นแรงบันดาลให้ผมสร้างอะไรใหม่ๆ เพื่อพิสูจน์ให้เห็น

ขาดสติบ่อยไหม?
จั๊กกะบุ๋ม : ก่อนหน้านี้บ่อย เหตุการณ์นี้ถือร้ายแรงมากที่สุด ในภาวะตอนนั้นถ้าผมเจอคนข้างๆ ไม่ดี ผมจะไปอีกแบบนึงเลย แต่ยังโชคดีอย่างคนใกล้ๆ ตัวผมที่เข้ามาอยู่ข้างๆ ผม ส่วนนึงเป็นคนที่ดึงผมกลับมา คือเพื่อนนอกวงการของผม

คิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนได้ไหม?
จั๊กกะบุ๋ม : ไม่มีใครเปลี่ยนตัวเราเองได้ นอกจากตัวเราเอง ผมเปลี่ยนตัวเองได้เสมอ ตอนนี้ผมมั่นใจในตัวเองด้วยว่าผมเปลี่ยนได้ เริ่มต้นคือค่อยๆ มานั่งแก้ไขในสิ่งที่ผ่านมาทีละข้อ อารมณ์ร้อนจะปิดหูสักข้างปิดตาสักข้าง มันยังสามารถดึงตัวเองให้เย็นลงได้ ภรรยาฟ้องร้องผม ตอนนั้นผมโมโหผมก็ฟ้องเขากลับ แต่พอผมกลับมาคิดก็แอบไปถอนฟ้องเขาทั้งหมด ผมว่าถ้าฟ้องกันไปมาไม่จบไม่สิ้น

...

เหตุการณ์นี้มีผลกระทบกับงานไหม?
จั๊กกะบุ๋ม : โชคดีที่โควิดช่วยชีวิตผมไว้ มันจะกระทบเรื่องภาพลักษณ์ผมมากกว่า

ผู้ใหญ่เรียกไปคุย?
จั๊กกะบุ๋ม : ล่าสุดก่อนมีเรื่องพี่เป็ดเรียกไปคุยตอนงานแต่งชมพู่ เขาก็สอนเบาได้เบา เอาจริงๆ ผมไม่อยากให้มันเกิด มันเป็นเพราะผมเองที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ผมเสียใจที่ทำให้นามสกุลเชิญยิ้มในชื่อของผมมีแต่เรื่องไม่ดี ผมกราบขอโทษครูบาอาจารย์ทุกท่านตระกูลเชิญยิ้มทุกท่าน ผมจะปรับปรุงและทำทุกอย่างให้ดีขึ้น

ฝากอะไรถึงคุณผู้ชม?
จั๊กกะบุ๋ม : ผมไม่โกรธที่ทุกท่านเกลียดผม หรือคอมเมนต์ด่าโน่นนี่ ผมเลือกที่จะอภัยและไม่สนใจ ผมเลือกที่จะมานั่งมองตัวเองดีกว่า ถ้าเราทำดีเขาไม่ด่าเราหรอก โทษตัวเอง และทำยังไงต่อไปไม่ให้เขาต้องมานั่งคอมเมนต์ด่าเราแบบนี้ ก็ต้องเริ่มเปลี่ยนตัวเอง ปรับปรุงตัวเอง ใครเห็นแต่เราเห็น แล้ววันนึงทุกคนจะกลับมามองในสิ่งที่เราตั้งใจ

ผมคิดว่าสังคมไทยยังคงเป็นสังคมที่ให้โอกาสคนทำผิดเสมอ ผมขอกราบขอบคุณทุกเสียงที่วิพากษ์วิจารณ์ แฟนคลับที่ยังเมตตา ผมจะขอยืนยันว่านับจากนี้ต่อไปผมจะขอทำในเรื่องดีๆ อะไรที่มันผิดพลาดผมก็ต้องขอกราบประทานอภัยมา ณ ที่นี่ด้วยครับ

...

กับภรรยาตอนนี้?
จั๊กกะบุ๋ม : เลิกอย่างสิ้นเชิงครับ ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยู่กับผู้ชายที่ทำแบบนี้ได้หรอกครับ เรื่องทั้งหมดมันมาจากผมไม่ได้มาจากเขา เรื่องราวทั้งหมดผมขอรับผิดไว้ผู้เดียว ถามว่ายังรักไหม ยังรักครับ ความรู้สึกผมอยากเจอ อยากขอโทษ อยากทำทุกอย่างที่จะขอโทษผู้หญิงคนนึงที่เราทำมาทั้งหมด อยากจะขอโทษ

ถ้าเขาอยู่ตรงหน้าเราตอนนี้?
จั๊กกะบุ๋ม : โดยส่วนตัวรักนะ ผมไม่อยากร้องไห้ออกทีวีเดี๋ยวคนจะหาว่าบีบน้ำตาง้อภรรยา ส่วนตัวเลยคือผมรู้สึกผิด ยินดีที่จะแก้ไขทำทุกอย่างในสิ่งที่ไม่ดีกับเค้า ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ดีมากๆ เราต่างหากที่เป็นคนทำลาย ถ้ามีโอกาสได้เจออยากให้รู้ว่ารัก ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา เรื่องจะกลับมามันเป็นเรื่องของอนาคต แต่สิ่งที่ทำสำนึกแล้ว และอยากจะบอกว่าขอโทษครับ (ชมคลิป คลิกที่นี่)