สร้างกระแสจิ้นฟินเฟ่อร์แรงสุดในขณะนี้สำหรับ พี่เธียร กับ น้องเมย จากละคร “อกเกือบหักแอบรักคุณสามี” ทางช่อง 3 ความดีความชอบใหญ่ที่สุดต้องยกให้ผู้จัดละคร แอน ทองประสม
วันนี้มาเปิดอกบอกเล่าถึงที่มาที่ไปของละครลำดับที่ 6 กัน
“เรื่องนี้เป็นละครรักโรแมนติก รักใสๆ เป็นโปรดักชันที่เล็กรองจากละครเรื่องแรกของแอนคือปัญญาชนก้นครัว ซึ่งปัญญาชนจะเป็นโปรดักชันที่เล็กสุด ส่วนเรื่องอกเกือบหักแอบรักคุณสามีก็จะเป็นละครที่มีความฟีลกู๊ดดีๆ”
ทำไมเลือกบทประพันธ์เรื่องนี้ มาทำ
“แอนเห็นเสน่ห์ของตัวละครน้องเมยกับพี่เธียร แล้วก็เห็นความน่ารักของครอบครัว แล้วก็กลุ่มเพื่อนเค้า แล้วก็เส้นรักของเค้าที่ดูน่าสนใจ ดูเหมือนเป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงใสๆ ดูติงต๊องไม่มีอะไร แต่จริงๆแล้วมีอะไรเยอะมาก ดูร่วมสมัยดี ก็เลยชอบและรักนวนิยายเรื่องนี้ อยากทำค่ะ”
เป็นผู้จัดละครมาเป็นเรื่องที่ 6 แล้ว ยังตื่นเต้นอยู่มั้ย
“ถ้าในเรื่องของการทำงาน เรื่องที่ 6 นี้แอนตั้งรับในเรื่องของการจัดการได้ดีกว่าหลายๆเรื่องที่ผ่านมา แต่เรื่องความตื่นเต้นเมื่อละครออกอากาศยังเป็นทุกเรื่อง นี่ก็นั่งลุ้นมาทุกตอนนะ (หัวเราะ) ทุกเรื่องจะเหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่ ว่าคนจะดูมั้ย ช่วงโควิดคนอยู่บ้านทำอะไรกัน อยากให้เค้าดู เพราะเราก็เหนื่อยมาเป็นปีๆ อยากให้ดูแล้วมีความสุข อมยิ้ม”

...
>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<
นิยามความรักของแอนคืออะไร
“ความรักคือน้ำหล่อเลี้ยงในหัวใจ ที่เราต้องมีกับทุกเรื่องในชีวิต รักในหน้าที่การงาน รักในครอบครัว รักในด้านชู้สาว รักเพื่อน รักเพื่อนร่วมโลก รักสัตว์ อยากเห็นคนที่เรารักได้ดีมีความสุข ถ้าเค้าเจ็บปวดเราจะรู้สึกไปกับเค้าด้วย ไม่ใช่รักแบบเสน่หาคนคนนี้ อยากให้เค้าเป็นในแบบที่เราต้องการ เราต้องเกื้อกูลกัน เราต้องลดราวาศอกกันได้ ส่งเสริมกันได้ แต่สุดท้ายความรักต้องโอบอ้อมอารี และซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน”
เรื่องทำละครนี่เป็นสิ่งที่รักมากล่ะสิ
“แอนชอบเล่นละคร และชอบทำละคร มันสนุก เป็นอาชีพที่ทำแล้วมีความสุข อะไรที่ไม่รัก ไม่อยากทำ และแอนมีละครกำลังเตรียมเปิดเรื่องใหม่ พอเรื่องโควิดจบก็เตรียมเปิดเรื่องใหม่”
ผันมาทำงานเบื้องหลังเต็มตัว แตกต่างจากงานเบื้องหน้ายังไง
“เหนื่อยกว่าเยอะ ลุ้นกว่าเยอะ ท้าทายกว่าเยอะ แอนเล่นละครมา 30 ปี เข้าใจกล้ามเนื้อมันแล้ว งานผู้จัดคือเริ่มเรื่องใหม่ ล้างกระดานใหม่หมดเลย เราทายใจคนดูไม่ถูกด้วย คนทำละครก็เหมือนคนทำอาหาร ชอบอาหารแบบไหน รสชาติแบบไหน ความสนใจคนสั้นลง เราต้องปรับตัว เราต้องทำเรื่องที่เราเห็นภาพ รู้สึก และอินกับมันด้วย คนจะดูด้วย 3 อย่างรวมกัน”
ทำแต่งานแล้วเมื่อไหร่จะมีข่าวดี
“ยังหรอกค่ะ แอนไม่รู้ว่าท้ายสุดแอนจะจบลงแบบไหนเลย เส้นทางนี้ปล่อยแอนไปเถอะ (หัวเราะ) คิดซะว่าแอนเป็นผู้หญิงโสด เดี๋ยวถ้ามันใช่ก็ใช่เอง”
ยังหวงชีวิตโสด
“ไม่ได้หวงอะไรเลย แค่บางอย่างยังจัดสรรไม่ได้ค่ะ”
มองชีวิตครอบครัว แผนอนาคตตัวเองยังไงบ้าง
“ครอบครัวแอน แอนดูแลอย่างดีเยี่ยมแล้ว ตอนที่แอนไม่มี แอนก็พยายามหาเพื่อให้ครอบครัวเราได้มี ตอนนี้แอนสบายใจที่ให้ลุงหยุดทำงาน เราเลี้ยงเค้า มีบ้านให้แม่อยู่แบบสบายใจ เลี้ยงหลาน ครอบครัวแอนไม่ได้ฟู่ฟ่า เด็กๆมีเงินเดือนหมื่นกว่าบาทเองแต่ก็อยู่กันได้ แม่แอนก็เป็นคุณยาย อยู่เฝ้าบ้านรอหลานกลับมา แอนถือว่าโชคดีที่เค้าไม่เกเรกัน หลังบ้านแอนถือว่าเสถียรแล้ว แอนหมดห่วงแล้ว ถ้าเกิดแอนเป็นอะไรไป หันกลับไปมองไม่ห่วงแล้ว แอนวางไว้ให้หมดแล้ว ที่เหลือให้เค้าเดินเอง แต่รับรองว่าไม่ลำบากมีที่ซุกหัวนอน ที่เหลือปล่อยไปตามวิถีใครวิถีมัน แอนว่าแม่มีความสุขแล้ว ชีวิตแอนเหลือแค่ลุงกับแม่ และน้องชาย หลานๆ”
ชีวิตลงตัวทั้งงานและครอบครัว
“เรื่องครอบครัวลงตัว เรื่องงานถือว่าโชคดีที่ได้ทำงานที่เรารักตั้งแต่เด็กคือเป็นนักแสดง จนได้มาจับงานผู้จัด แต่อาจจะมาเจอจังหวะที่ตลาดละครมีกระท่อน-กระแท่นบ้าง แต่แอนก็ยังมีแรงใจ เราไม่ได้โดนคนเดียว คนอื่นก็เจอเหมือนกันหมด เราต้องปรับตัว ไม่ได้ท้อแท้ เราต้องสู้ ถอยไม่ได้ ชีวิตคู่ส่วนตัวอาจจะไปได้ถึงดวงดาวช้ากว่าเรื่องอื่นๆ แต่ก็เป็นชีวิตที่แอนเลือกเอง แอนก็ต้องยอมรับมัน เมื่อแอนทุ่มเทกับบางอย่างมากไป สมดุลมันเสีย ชีวิตส่วนตัว การแต่งงานมันดีเลย์ไปหมด แอนเอาทุกอย่างไม่ได้ แต่พอเราสี่สิบกว่าแล้ว มันช้าไปแล้ว มันช่วยไม่ได้ แอนต้องไปต่อ ต้องอยู่ให้ได้ แอนชอบชีวิตตอนเช้ามาก 6-10 โมง เป็นเวลาดูแลตัวเองของแอน ออกกำลังกาย ดูมือถืออัปเดตโลก กินข้าว หลังจากนั้นก็ดูงาน ดูซีรีส์ เช็กงาน แต่ถ้ามีกองก็ไปอยู่กับกอง แค่นี้ก็ยุ่งแล้ว นี่แอนสบายขึ้นกว่าแต่ก่อน เมื่อก่อนชีวิตยุ่งกว่านี้อีก แอนไม่ใช่เด็กที่น่าอิจฉาหรอก แอนทำแอนก็ได้ แอนไม่ทำแอนก็ไม่ได้ ไม่ได้เป็นคนลักกี้ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา ทุกอย่างก็ต้องเรียนรู้ ประสบการณ์มากขึ้น ความเสียหายก็น้อยลงค่ะ”.
...