หลังจากที่นักร้องลูกทุ่งสาว เจี๊ยบ เบญจพร อาร์สยาม เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะเดินหน้าฟ้องหย่าสามีอายุ 22 ปี ซึ่งมีอายุน้อยกว่า 27 ปี และสาวคนใหม่ พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหายหลายล้านบาท เพราะจับได้ว่าสามีคบซ้อนและไปขอสาวใหม่แต่งงาน ทั้งที่เพิ่งแต่งงานกับตน จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมาแล้ว

เจี๊ยบ เบญจพร อาร์สยาม ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก เจี๊ยบ เบญจพร
เจี๊ยบ เบญจพร อาร์สยาม ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก เจี๊ยบ เบญจพร

ล่าสุด สามีของนักร้องลูกทุ่งสาว ก็โพสต์ภาพหวานกับสาวคนใหม่ลงเฟซบุ๊กสตอรี่ของตัวเอง ก่อนจะลบทิ้งในเวลาต่อมา แต่ชาวเน็ตแคปภาพไว้ได้ทัน ก่อนจะเผยแพร่ในโซเชียล จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง

ซึ่ง เจี๊ยบ เบญจพร อาร์สยาม ได้เปิดใจกับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งบอกว่าตอนนี้เตรียมฟ้องสามีตนเองเพิ่มอีก 1 คดี คือคดีลักทรัพย์ พระเลี่ยมทอง ซึ่งเป็นของที่มีก่อนจดทะเบียนสมรสกับฝ่ายชาย โดย เจี๊ยบ เบญจพร และทนายความ จะเดินทางไปขึ้นศาลในวันที่ 18 มี.ค. 2563 ที่ศาลจังหวัดชุมพร เวลา 09.00 น. ด้วย

...

ถามถึงความรู้สึกหลังเห็นภาพของสามีและสาวคนใหม่?
สุดค่ะ ไม่มีวิจารณญาณทั้งสองคนเลย โอเคความรักอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน ทั้งรักทั้งหลง

พี่เจี๊ยบไม่อยากใช้คำว่าเสียใจเพราะมันไม่ถึงจุดนั้น แต่รู้สึกว่ามันบอกถึงสมองของเขาทั้งคู่ เขาบรรลุนิติภาวะแล้ว เขาอายุ 22 กับ 24 เขาไม่ได้เด็ก แต่เขาเด็กกว่าพี่เท่านั้นเอง แต่สมองไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ทำมันไม่สมควร คุณเชิดชูผู้หญิงคนใหม่ แล้วนี่คุณใช้ความคิดกันแล้วเหรอคะ มันเป็นเรื่องที่คุณควรเซฟตัวเองกับพ่อแม่คุณมั้ย

มันไม่ได้รู้สึกว่าอกหัก มันเลยจุดนั้นไปแล้ว มันมีความรู้สึกว่าใช้อะไรคิดกัน แล้วด้วยความที่ผู้หญิงพยายามเปิดตัวตลอด ก็มีน้องๆ ส่งมาให้ดูว่าเขาหลอกด่าพี่สารพัด

ประมาณว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ผิดอะไรเลย มันเป็นเรื่องของคนที่รักกัน ซึ่งก่อนหน้านี้สามีพี่เจี๊ยบอยู่ด้วยกันปกติจริงๆ แต่หายไป 3 วัน โผล่มาอีกทีคือมีข่าวไปแต่งงาน แต่น้องเขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ย้อนแย้งไปหมด

พี่เจี๊ยบเจ็บตรงไหนรู้มั้ย วันที่ไปขึ้นศาลครั้งที่ 2 ซึ่งมันเป็นไฟต์บังคับว่าทุกคนต้องไปหมด รู้มั้ยว่าเขาไปด้วยกัน ผู้หญิงไม่มีพ่อแม่ไปสักคนนะ แต่ไปกับพ่อแม่ฟลุคและก็ฟลุค

ตอนที่นั่งอยู่กับทนายก็หันไปมองเขา เขานั่งคู่กันสองคนค่ะ พ่อแม่เขานั่งอยู่ข้างหลัง พี่ก็คิดในแง่บวกว่าในเมื่อโดนฟ้องทั้งคู่ ก็อาจจะใช้ทนายคนเดียวกัน อาจจะอ้างอิงได้ว่ามาด้วยกัน แต่จริงๆ คนก็จะมองว่ามากันคนละคันก็ได้ ให้เกียรติศาลก็ได้ ถ้าไม่ให้เกียรติเมีย

แต่ที่เจ็บคือตอนกลับ ผู้หญิงมองซ้ายมองขวากระโดดขึ้นรถ ตอนมาจอดอยู่คนละมุม ก็อุตส่าห์ขับมาจอดรถเทียบกับรถของพี่เจี๊ยบ คือรถพี่เจี๊ยบจอดหน้าศาลคู่กับรถทนายของพี่ ส่วนตัวเขาไปจอดอีกมุมนึงของลานจอดรถ

แต่พอจบเรื่องเขาถอยกลับมาเสียบเพื่ออะไร เจ้าหน้าที่ คนติดตาม ก็ยืนมองด้วยความงงงวย จนผู้จัดการโทรมาบอกว่าทำไงดี เขากับผู้หญิงคนนั้นและพ่อแม่เขาที่นั่งอยู่ในรถ มาจอดรถเทียบ พี่เลยให้ผู้จัดการขับรถมาที่หน้าศาล

พี่ก็ยืนอยู่ตรงบันได ยังไม่ทันลงมา พี่ก็ยืนคุยโทรศัพท์ ผู้จัดการก็ถามว่าจะลงมาเลยมั้ย ยังไม่ทันสิ้นคำพูด เขาก็ขับจ่อตูดมาเลย และเบิ้ลเครื่องเสียงดังบรื้นๆๆ อยู่หลังรถพี่ตรงทางขึ้นบันไดศาล แล้วพ่อแม่เขานั่งอยู่ในรถ ไม่ห้ามลูกสักคำเลย

นี่ขนาดอยู่ในศาลยังข่มขวัญนะ พี่ไม่ลงเลย ไม่ใช่กลัวนะ แต่กลัวจะสติแตก จนทนายเตือนว่าอยู่ตรงนี้ อย่าลงไป ดูซิจะเอายังไง นี่มันหน้าศาลนะ เขาก็บรื้นๆ อยู่สักพักจนรู้สึกกระดาก หรือเห็นพี่ยืนนิ่งไม่ยอมลงมา เขาก็เลยแซงไป แต่ก่อนไปเขาก็บรึ้นอีก มาเทียบเลยตรงคนขับแล้วชะโงกมองพี่แล้วออกไป

ส่วนน้องคนนั้นก็โพสต์ว่าอีแก่รังแกเด็ก นี่คือคนจบปริญญาตรี มีความคิด พี่ไม่อยากจะพูด มีแต่คนส่งมาให้ดู พี่โชคดีมีแฟนเพลงเยอะ เขาเห็นอะไรก็ส่งมา

คนหลงในรักมักมองไม่เห็น พี่เข้าใจทุกอย่าง แต่แมนๆ กันหน่อยสิ พี่เจี๊ยบสร้างเรือนหอจริง ถ้าไม่จริงพี่เจี๊ยบจะกล้าฟ้องมั้ย หลักฐานแน่นเปรี้ยะ เขาแค่เด็กกว่าพี่ทั้งคู่

จบปริญญาตรีอายุ 24 ปี มีข่าวแย่งผัวรุ่นป้าน่ะ อายมั้ย คุณบอกไม่รู้เรื่อง แล้วภาพที่ออกมาแปลว่าอะไรคะ

หลอกด่าอีแก่อย่างนั้นอย่างนี้ แล้วยังไงคะ สวยสาวนักทำไมต้องเอาผัวอีแก่ไปแ-กเหรอคะ สรุปตบมือข้างเดียวไม่ดัง แต่พวกคุณควรมีสามัญสำนึกกันหน่อย พี่เหมือนคนเสียโง่อย่างรุนแรงยามบั้นปลายชีวิตเลย เหมือนโดนเด็กตบหน้า ตังค์ก็เสีย เสียศักดิ์ศรี เสียชื่อเสียง ใครไม่เป็นพี่ไม่รู้เลย

เจี๊ยบ เบญจพร อาร์สยาม ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก เจี๊ยบ เบญจพร
เจี๊ยบ เบญจพร อาร์สยาม ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก เจี๊ยบ เบญจพร

...

ถามถึงคดีที่ฟ้องอยู่ปัจจุบันจะขึ้นศาลอีกทีเมื่อไหร่?
พี่เจี๊ยบฟ้องอีกคดีนึง ซึ่งไม่เกี่ยวกับคดีชู้สาว อันนี้เป็นคดีอาญา พี่จะไปเอาของพี่กลับทุกอย่าง วันนั้นพี่ย้ายเอาของกลับมาหมด พอพี่ถามถึงพระเลี่ยมทองของพี่ซึ่งมี 3 องค์ ที่เขาเอาไปใส่ ซึ่งพี่ไม่เคยอนุญาตนะ ใส่ที่ไรก็ทะเลาะกันทุกที มันหาว่าพี่งก

พี่บอกว่าพี่หวงเพราะว่าพี่ชายให้และหายาก คือมีลูกแก้วหลวงปู่สรวง ทิดหมอนพ่อท่านคล้าย และก็เสด็จกรมหลวงรุ่นลูกระเบิด ทุกอย่างเลี่ยมทองหมด ไม่รวมหินลูกปัดสีซึ่งหายาก นั่นเป็นสมบัติที่มีก่อนสมรสกับฟลุค พอพี่ถามถึง เขาก็บอกว่าเอาไปจำนำแล้ว

แต่เขาคุยกับน้องชายพี่ ซึ่งก็มีคนยืนฟังอยู่ด้วยว่าไม่ให้ เขาไม่มี เขาบอกไม่รู้อยู่ไหน ปวดประสาทมั้ยล่ะ พี่เลยไปแจ้งความ 

แล้วพอไปย้ายจริงๆ ก็ได้ของไม่ครบ บางอย่างพี่ไม่ติดใจหรอก แต่ที่ติดใจคือพระเลี่ยมทอง เพราะมันมีค่าทางจิตใจ และมันเลี่ยมทอง แล้วมันเป็นรุ่นที่หายาก มันมีความหมายเพราะพี่ชายเป็นคนให้มา 10-20 ปีแล้ว ทุกอย่างมีหลักฐานหมด ทั้งรูปที่เขาใส่ และรูปที่พี่เจี๊ยบใช้ถ่ายมานานแล้ว

พอพี่ไปแจ้งความแล้วเขาไปรับทราบข้อกล่าวหา กลายเป็นเขาบอกว่าเขาไม่รู้เรื่อง เขาไม่ได้เอาไป เลยต้องฟ้องเป็นคดีอาญา ซึ่งจริงๆ เขาใส่อยู่ตลอด และพี่เจี๊ยบไม่เคยอนุญาตนะ ซึ่งของทั้งหมดมีมูลค่ารวมกันประมาณ 140,000 บาท ถ้าพี่จำไม่ผิดนะ

เจี๊ยบ เบญจพร อาร์สยาม ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก เจี๊ยบ เบญจพร
เจี๊ยบ เบญจพร อาร์สยาม ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก เจี๊ยบ เบญจพร

...

ทั้ง 2 คดีที่ฟ้องไป เราคาดหวังว่าจะชนะทั้งหมด?
พี่มั่นใจในบุญกรรมนะ ถ้าพูดแบบนั้นก็จะกลายเป็นพี่ไม่ให้เกียรติศาล แต่เชื่อในบุญกรรม พี่เชื่อในความจริงที่มันมีหลักฐานด้วย ของพี่หายไปจริง และไม่ใช่สินสมรสด้วย ที่สำคัญที่สุด พี่ทำทุกอย่าง พี่ประคองครอบครัว ไม่ใช่ 3 วันมีเมียใหม่ แล้วมาทำกับพี่แบบนี้

ผู้หญิงคนนั้นมากี่วัน คุณรับผิดชอบเขาแล้ว 2 แสน พี่เจี๊ยบเป็นเมียเขา กว่าจะได้อยู่กินกันใช้เวลา 5-6 ปี อยู่กินกันปีกว่า แล้วคุณถีบออกมาแต่ตัวแบบนี้ คุณต้องมีบทเรียน ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชาย ยินยอมหย่าให้ และขอของคืนตามจริง ผู้หญิงคนนี้ผมขอรับผิดชอบ แต่เขาไม่เคยสำนึกเลย

พี่ขอสินสมรส คือบ้านที่พี่ไปสร้างคืน เราไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็ตกลงกันว่าทางเขาให้ที่ดิน ทางเราเอาเงินไปสร้าง ถึงแม้เขาจะช่วยบ้างก็ยิบย่อยแล้ว บ้านหลังนั้น 80 เปอร์เซ็นต์คือพี่เจี๊ยบอยู่แล้ว

เพราะบ้านใช้เป็นเรือนหอ เห็นตั้งแต่ยังเป็นดินจนขึ้นเป็นเสา เป็นบ้าน จนกระทั่งใช้ในวันพิธีแต่งงาน จนกระทั่งอยู่ทำมาหากิน แล้วมาพูดได้ยังไงว่าไม่ได้อยู่ฉันสามีภรรยากับเขา

หาว่าพี่มีชู้ด้วย หาว่าพี่เลี้ยงต้อยตั้งแต่อายุ 15 จนอายุ 21 ถึงบังคับให้เขาแต่งงานจดทะเบียน ซึ่งเขาไม่ได้คิดเลยว่าหลักฐานมันมีหมด พี่เลยพูดไปว่ามันมีไทม์ไลน์อยู่นะคะ เขาบอกว่าไทม์ไลน์ทำเองก็ได้ ซึ่งเฟซบุ๊กน่ะ ลงวันไหนก็คือวันนั้นแหละค่ะ พี่ไลฟ์สดแทบทุกวัน ไปออกทะเลพี่ก็ไลฟ์สดบอกแฟนคลับตลอดว่าทำอะไรบ้าง

แล้วที่เขาเอาทอง 10 บาทไปขอผู้หญิงน่ะทองปลอม มันมาจากข่าวนะ ไม่ได้มาจากพี่

เขาทั้งคู่ไม่มีจิตสำนึกเลย ยังมาโยนความผิดให้คนอื่นอีก พี่จะเอาจนถึงที่สุด เอาให้เป็นบทเรียน เอาให้ยกมือไหว้ว่าไม่ทำแล้วครับ ผมขอโทษ พูดสิว่าขอโทษอะ ลูกผู้ชายลูกผู้หญิงน่ะ นี่คือสิ่งที่พี่อยากได้ยิน แต่เขาไม่เคยขอโทษ ไม่เคยยอมรับผิด

...

เจี๊ยบ เบญจพร อาร์สยาม ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก เจี๊ยบ เบญจพร
เจี๊ยบ เบญจพร อาร์สยาม ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก เจี๊ยบ เบญจพร

เพราะฉะนั้นพี่ต้องใช้ทุกวิถีทางที่ถูกต้อง เพื่อทำให้เขามีความสำนึกผิด และขอโทษให้ได้ และต้องขอโทษจากใจด้วย ซึ่งพี่รู้ว่ามันไม่มี พี่ฟันธงว่าไม่มี เพราะเขาถือว่าผิดก็ผิด ผิดแล้วยังไง ผิดแล้วจะเอาอะไร เขาไม่มีสมบัติอะไร ทำไมเหรอ เพราะเขายังเด็กน่ะ ไม่มีรายได้

เขาจะพูดอะไรก็ได้ แต่เขาไม่เด็กแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว พี่จะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าถูกกระทำจริง คนผิดต้องมีความสำนึก รู้จักขอโทษ แต่เมื่อเขาไม่ทำ เราก็ว่ากันไปตามกฎหมายค่ะ.