ถูกกระแสวิจารณ์เรื่องเสียงมาตลอด สำหรับนางแบบ-เน็ตไอดอลดัง ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา ภรรยาสุดแซ่บของนักร้องหนุ่ม กวินท์ ดูวาล เพราะตั้งแต่เจ้าตัวเริ่มทำคลิปวิดีโอลงโซเชียล ก็มักจะถูกหาว่าทำเสียงแอ๊บเวลาอยู่กับสามี แต่เพราะความเป็นคนตรงๆ โนสนโนแคร์ ทำให้เจ้าตัวออกโรงโต้กลับชาวเน็ตที่คอยคอมเมนต์แซะแบบเผ็ดร้อน แถมยังแต่งเพลงแซ่บๆ  “มึงมีผัวปะล๊า” ที่เจ้าตัวบอกว่าได้แรงบันดาลใจจากความสงสัยของชาวเน็ต 

บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ชวนเจ้าตัวเล่าถึงความรู้สึกหลังถูกกระแสบูลลี่เรื่องเสียง ซึ่งเจ้าตัวยืนยันชัดๆ ว่าเสียงเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว พร้อมทั้งบอกว่าโนสนโนแคร์กับคำวิจารณ์ เพราะเขาไม่ใช่เจ้านาย ไม่ได้มาหาให้กิน ก็ไม่ได้ให้ค่าหรือต้องเดือดร้อนอะไรขนาดนั้น

ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา ขอบคุณภาพจากไอจี @pantipa.a
ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา ขอบคุณภาพจากไอจี @pantipa.a

...

ถามถึงเรื่องทำยูทูบ เห็นว่าแต่ละคลิปคนดูเยอะมาก หลักล้านวิวหลายคลิปเลย?
“ก็ตกใจเหมือนกัน คือปุ้ยไม่รู้ว่ามันเยอะหรือว่ามันน้อย เพราะว่าปกติปุ้ยไม่ได้เป็นคนที่เล่นยูทูบมากเท่าไหร่ค่ะ หมายถึงว่าเปรียบเทียบกับคนอื่น เราไม่ได้มีข้อมูลตรงนี้เลย เรารู้สึกแค่ว่าอยากทำคลิป แล้วก็บ่อยไปแค่นั้น ก็มีคนดู ทั้งดีใจและตกใจค่ะ (หัวเราะ) แต่ว่าเท่าที่คุยกับยูทูบเบอร์คนอื่น เขาก็บอกว่าเขาก็ใช้เวลากว่าจะมีคนดู ไม่ได้มีตั้งแต่คลิปสองคลิปแรกเลย คือที่ผ่านมาส่วนมากปุ้ยจะเป็นภาพนิ่งค่ะ พอมาทำเป็นภาพเคลื่อนไหว คนก็เลยอยากรู้ว่าเราเป็นคนยังไง ก็เลยมีคนเข้ามาดูค่ะ”

ชื่อคลิปรายการ "หน้าหวาน กร้านโลก" มาได้ยังไง?
“คือคนเห็นภาพเรา ปุ้ยว่าเค้าน่าจะคิดว่าปุ้ยเป็นคนแบบแบ๊วๆ เป็นพริตตี้แบ๊วๆ แต่จริงๆ เราเป็นคนที่ค่อนข้างหยาบคาย (หัวเราะ) เป็นคนห้าวๆ พูดตรง”

ทำคลิปแรกๆ พอทำออกมาคนพูดถึงเราในแง่ไหนบ้าง?
“คนก็ตกใจ แต่ส่วนใหญ่คนจะว่าเราเรื่องเสียงว่าเสียงเป็นอะไร (หัวเราะ) แต่จริงๆ โดนเรื่องเสียงมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ที่โรงเรียนหรือว่าเริ่มทำงาน เราก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไม เราก็คิดว่ามันเป็นปกติของเรา เหมือนเราก็ไม่ได้รู้ตัวว่าเสียงเราเป็นแบบไหน เพราะเราก็ไม่ได้ไปโฟกัสกับมัน คือคนส่วนใหญ่จะคิดว่าทำไมต้องดัดเสียง ทำไมต้องแอ๊บเสียง คือมันเป็นไปเอง เราไม่ได้คิดว่านี่คือการดัด เราไม่ได้ตั้งใจที่จะพยายามให้เสียงมันเป็นแบบนี้”

ด้วยเนื้อเสียงเราเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว?
“ค่ะ คือเป็นอย่างงี้เลย แต่ว่าเป็นคนมีอินเนอร์ มีอรรถรสในการพูด เหมือนเราคุยกับหมา เราไม่ได้ดัดมันเป็นไปเอง คุยกับแม่ก็จะเป็นอีกเสียงหนึ่ง คุยกับเพื่อนก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ไม่ได้ตั้งใจจะดัด มันเป็นไปเอง คือเราไม่ได้โฟกัสว่า ฉันจะต้องให้มันเป็นประเด็นให้คนจะต้องทักว่าอุ๊ย เสียงน่ารักจังเลย ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นอย่างนั้น”

ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา ขอบคุณภาพจากไอจี @pantipa.a
ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา ขอบคุณภาพจากไอจี @pantipa.a

ส่วนตัวถือว่าเป็นการบูลลี่เรามั้ย ทำไมคนต้องมาโฟกัส จับผิดเสียงเรา?
“ไม่ได้รู้สึกค่ะ เพราะว่าโดนมาตั้งแต่เด็ก เวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อน แต่เดี๋ยวนี้เขาอาจจะเรียกว่าบูลลี่ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้รู้สึกว่าเราถูกบูลลี่ เพราะว่าเราไม่รู้ตัวเลย ที่คนอื่นพูด เสียงเป็นไรอะๆ เราไม่รู้ว่านี้คือการบูลลี่ไง เราเข้าใจว่าเขาถามเราเฉยๆ แล้วเขาสงสัย แต่ทุกคนเข้าใจว่าเราแอ๊บนั่นแหละ แต่เราก็เพิ่งมารู้ตอนนี้ว่าเขาว่าเรา (หัวเราะ)”

เคยเจอคอมเมนต์ที่แรงสุดๆ รู้สึกว่ารับไม่ได้มั้ย?
“ส่วนใหญ่แรงก็แรงเลย เราจะไม่มีลิมิตว่าอันนี้คือแรงเกินหรืออะไรไม่แรงเกิน คือถ้าเป็นในแนวลบหรือแนวว่าเรา เราก็ตอบกลับอยู่แล้วค่ะ ถ้าเราเห็น เราจะตอบกลับไปเลย เราจะไม่รู้สึกว่าด่าแค่นี้นะ หรือว่ามีลิมิตให้กับมัน ถ้าเรารู้สึกว่ามึงด่ากู ก็คือกูก็ด่ามึง (หัวเราะ)”

...

ตอนที่อยู่กับกวินท์ คนก็จะวิจารณ์ว่าอยู่กับแฟนจะต้องทำเสียงอย่างงี้เหรอ เราเฟลมั้ย ทั้งๆ ที่จริงๆ ก็คือชีวิตปกติเรา?
“ก็มี ยอมรับว่าก็แอบคิดบ้าง แต่ว่าแป๊บเดียวก็ลืมแล้ว คือมันจะไม่คิดเลยก็เป็นไปไม่ได้ แต่เวลาที่ปุ้ยโดน ปุ้ยจะไม่คิดว่าทำไมเขามาว่าเรา พอเวลามีคนพิมพ์ติเราหรือด่าเรา ว่าเรา เราจะคิดแล้วว่าเราเป็นแบบนั้นรึเปล่า แล้วเสียงเรามันผิดปกติยังไง เราก็ไปย้อนดูคลิปของเราว่ามันผิดปกติเหรอ หรือมันเป็นยังไง แต่ด้วยความที่เราอยู่กับมันทุกวัน หมายถึงเสียงเรา เราก็ว่ามันไม่ได้ผิดปกติ เราก็คิดแค่นั้นค่ะ”

ล่าสุดมีทำเพลงออกมา เหมือนทำออกมาตอบโต้ชาวเน็ต กลายเป็นคนก็แชร์กันเยอะมาก?
“(หัวเราะ) อันนี้คือทำขำๆ ไม่ได้แบบว่าแค้น คือปุ้ยเหมือนพูดตอบกลับในสตอรี่ไอจีก่อน แล้วปรากฏว่าเหมือนมีพวกเพจที่มีคนติดตาม เพจข่าว หลายเพจเอาไปลง แล้วคนแชร์เยอะมาก คลิปในสตอรี่ค่ะ เราก็เลยคิดไอเดียว่ามันทำเป็นเพลงได้เหรอ เลยมาทำเป็นเพลง ก็มีน้องมิลลี่ที่ร้องเพลง "พักก่อน" มาช่วย แต่ส่วนใหญ่เป็นคนคิดคำเอง ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ มิลลี่จะช่วยคำที่เป็นภาษาอังกฤษ แล้วมิลลี่เหมือนจะช่วยจับวางจังหวะ แล้วก็จริตในการร้องให้เรานิดๆ หน่อยๆ แต่หลักๆ ก็คือเราค่ะ 

ซึ่งอันนั้นคือทำวันเดียวค่ะ รวมถ่ายเอ็มวีแล้ว คือปุ้ยไม่ว่างเลยช่วงนั้น เพลงนี้เหมือนเราแต่งเนื้อกันตรงนั้นเลย แล้วอัดเลยตรงนั้นเลย แล้วไปถ่ายเอ็มวี ก็คือต้องใช้เวลาประมาณ 6 โมงเย็นถึง 4 ทุ่มก็เสร็จ (ทุกอย่างจบในวันเดียวเลย?) ใช่ ประมาณ 4-5 ชั่วโมง งงเหมือนกัน (หัวเราะ) ก็ถ่ายเสร็จแล้วรอตัดต่อ ก็ปล่อยเลย ภายใน 3 วัน ยอดวิวในยูทูบประมาณ 2 ล้าน ในเฟซบุ๊ก 3 ล้านค่ะ คนก็มีแซวสมแล้วที่เป็นแฟนแร็ปเปอร์ (หัวเราะ)”

...

ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา ขอบคุณภาพจากไอจี @pantipa.a
ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา ขอบคุณภาพจากไอจี @pantipa.a

กลายเป็นว่าคนชอบเพลงนี้ รู้สึกยังไงบ้าง?
“ก็รู้สึกดีค่ะ ถ้ามีคนชอบ แต่หลักๆ แล้วปุ้ยไม่ได้สนอยู่แล้ว เพราะว่าปกติงานที่ปุ้ยทำไม่ได้พึ่งกระแสคนอื่นสักเท่าไหร่ค่ะ คือปุ้ยมีหลักการคิดว่าถ้าเค้าไม่ได้เป็นเจ้านายเรา หรือว่าไม่ได้มาหาให้เรากิน เราก็ไม่ได้ให้ค่าอะไรขนาดนั้นค่ะ ไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับเราสักเท่าไหร่ (หัวเราะ)”

กวินท์น่าจะได้เห็นก่อนที่จะออกไป เขาได้ฟังก่อนมั้ย?
“เขาอยู่ช่วยเราอยู่แล้วค่ะ คือตอนแรกเขาไม่อยากให้ทำสักเท่าไหร่ เขากลัวโดนกระแสตีกลับ แต่ว่าเราเป็นคนโนสนโนแคร์อยู่แล้ว เราจะทำ จะช่วยไหม เขาก็แบบก็ได้ (หัวเราะ) ก็คือทำอะไรก็ทำ ก็ไปอยู่ด้วย อย่างตอนกดบีท กวินท์ก็ไปทำบีทให้ ก็คือทำบีทใหม่เลยค่ะ และช่วยกำกับคนกดบีทว่าทำอย่างงี้ พอออกมากระแสดีแล้ว เขาบอกว่าจะเอาไปร้องเวลาทัวร์คอนเสิร์ต (หัวเราะ)”

...

เขาเคยเอาไปร้องบ้างรึยัง?
“ไม่ค่ะ เวลาไปดูกวินท์ทำงาน เค้าก็จะมีเปิดเป็นเสียงปุ้ยตอนด่าเข้ามาก่อนเปิดคอนเสิร์ต คนก็จะเฮ้ยๆ ปุ้ยมาเหรอ แต่เค้าก็ยังไม่ได้ร้องแบบจริงๆ จังๆ เพราะว่ามันจะดูสาวไปหน่อยมั้ยถ้าให้กวินท์มาร้อง (หัวเราะ)”

มีคิดไว้มั้ยจะไปแจมในคอนเสิร์ต เปิดเพลงเราเลย?
“มีเดือนหน้าไปเล่นคอนเสิร์ตกับกวินท์ค่ะ มีคนจ้างนะ จ้างไปร้องเพลง (หัวเราะ) แถวๆ ทองหล่อค่ะ จริงๆ มีคนจ้างหลายงานแล้วค่ะ แต่ต้องดูคิวกวินท์ด้วย อย่างเขาไปรับงานอื่นไว้ เราก็ไม่สามารถไปต่างจังหวัดได้ เราก็เลยต้องแคนเซิลงานไป แต่ถ้าสมมติมีคิวว่างตรงกันก็ไป แต่หลักๆ แล้ว มีคนจ้างมาอยู่ 2-3 งาน แต่คิวไม่ได้ ไม่ตรงกันก็ไม่ได้รับ (หัวเราะ) ปุ้ยงงนะ ได้เหรอ ไปร้องเพลงเดียว (หัวเราะ)”.