พัง! พัง! พัง! พิษโควิด-19 COVID-19 ร้ายแรงกว่าที่คิดเยอะ แต่หนังไทยยังไม่ตายนะ ยังมีวี่แววดีอยู่ หนังไทยยังโตได้อยู่ ถ้าทำออกมาได้เด่นโดนใจ โปรโมตให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย
ดูแล้วใช่! ชอบ! คนดูรีบแชร์ต้องบอกต่อ! ก็โกยเงินรวยเละกันเลย ไม่ใช่ดีมโน ดูชัดๆ ที่ตัวเลขยอดรายได้รวมกันไปเลย ช่วงนี้อาจจะแย่ เพราะพิษโควิด-19 COVID-19 จนต้องปิดโรงหนังนานถึง 14 วัน โดยก่อนจะปิดโรงหนัง ปกติคนก็เข้าดูในโรงหนังน้อยอยู่แล้ว เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ราคาค่าตั๋วแพงด้วย
แน่นอนว่าหนังไทย ก็ได้รับกระทบไปด้วย จากที่มีการวางโปรแกรมฉายเอาไว้อย่างดีหลายเดือนแล้ว พอเจอพิษโควิด จึงต้องรีบเลื่อนไปยาวๆ ก่อน ถ้าสถานการณ์หลัง 14 วันเอาอยู่ หนังไทยน่าจะดีหลายเรื่อง ก็จะทยอยกันออกมาให้ได้ดู แต่ถ้าโควิดยังระบาดต่อ หนังไทยหลายเรื่องก็ต้องเลื่อนยาวไป เพราะต้องดูสถานการณ์เป็นวันต่อวันด้วย
หนังไทยเลื่อนฉาย 3 เรื่องรวด
3 หนังไทยน่าจะฮา ต้องเลื่อนแล้ว วางโปรแกรมฉายใหม่ไว้ดังนี้
เดิมฉาย 2 เมษายน เลื่อนเป็น 1 เมษายน พจมานสว่างคาตา นำโดย แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ ที่กล้าฉีกบทบาทอย่างแรง หันมาพูดหยาบ เล่นตลกรั่วหลาย แบบไม่แคร์ภาพลักษณ์นางเอกแถวหน้า
...
เดิมฉาย 26 มีนาคม เลื่อนเป็น 7 พฤษภาคม มนต์รักดอกผักบุ้ง เลิกคุยทั้งอำเภอ คว้านักร้องดัง ลิลลี่ นารีนาถ เชื้อแหลม มาเล่นหนังครั้งแรกในชีวิต หลังจากที่ดังสนั่นจากเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว จะดังหรือเดี้ยง เดี๋ยวได้รู้กันชัดๆ
เดิมฉาย 8 เมษายน เลื่อนเป็น 2 กรกฎาคม อีเรียมซิ่ง ดึงนางเอกเป๊ะ เบลล่า ราณี กะมาระเบิดความเปรี้ยงในหนัง เน้นขายขำไม่ยั้ง จะโดนใจมหาชานแค่ไหน ต้องรอดูกัน
ประกาศปิดโรงหนังป้องกันโควิด-19 ระบาด!! สองค่ายสูญเงิน 50 ล้าน
หลังจากที่รัฐบาล สั่งให้ปิดโรงหนัง เพราะคาดว่าโรงหนังที่มีคนเข้ามาดูหนังเยอะๆ น่าจะเป็นจุดกระจายของไวรัสโควิด-19 COVID-19 สองค่ายโรงหนังใหญ่ เมเจอร์ Major ปิดหมดทุกสาขาทั่วไทย โดยก่อนจะปิดโรงทางเมเจอร์ ก็มีการแจกบัตรดูหนังฟรี ให้แฟนหนังด้วย แต่ต้องจ่ายเงินอีก 30 บาท
ส่วนเอสเอฟ SF ปิดเฉพาะที่กรุงเทพและปริมณฑลชั่วคราว แฟนหนังต่างจังหวัดยังไปดูกันได้อยู่ในบางโรงบางจังหวัด ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์อีก ถ้าเชื้อระบาดคาดว่าจะปิดทุกสาขาทั่วไทย ประเมินคร่าวๆ ทั้งสองค่ายโรงหนังใหญ่ น่าจะสูญเสียรายได้รวมไปมากกว่า 50 ล้าน ตั้งแต่ 18-31 มีนาคม ส่วนแฟนหนังต่างจังหวัด ยังมีโรงหนังให้ดูกันอยู่ เพราะยังเปิดอยู่
2562 หนังไทยสถานการณ์กระเตื้อง เปิดฉาก 2563 เจอโควิด-19 หวั่นซบเซายาว
หาย้อนดูข้อมูลลึกๆ แบบละเอียดทุกบาท ยอดรายได้รวมของหนังไทยฮิตในปี 2562 ถือว่าไม่ขี้เหร่
ทำเงินสูงสุดคืในปี 2562 คือตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค Tootsies and The Fake ส่วนเรื่องอื่นก็อีกหลายเรื่องที่โกยเงินเยอะ
รวมเงินรวยจริง หนังฮอตฮิต
140,160,072 ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค Tootsies and The Fake
131,081,861 ระวังสิ้นสุดทางเพื่อน Frined Zone
...
54,516,009 ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ Happy Old Year
53,674,202 พี่นาค Pee Nak
39,467,233 แสงกระสือ Inhuman Kiss
35,507,912 ไบค์แมน 2 Bike Man 2
26,309,260 ขุนแผนฟ้าฟื้น
23,099,793 จอมขมังเวทย์
18,930,023 ออนซอนเด
18,317,177 ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก รักมั้ยลุง Heartbeat
จากยอดรายได้รวมหนังดังทั้ง 10 เรื่องนั้น จะสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่า ค่ายเดิมจีดีเอช GDH ยังครองแชมป์ได้อยู่ ต้องยกให้เลย เพราะหนังแต่ละเรื่อง ผ่านกระบวนการปิดประตูเจ๊งไว้เกือบทุกทาง
เริ่มตั้งแต่เรื่องบท ที่คิดแล้วคิดอีก แก้แล้วแก้อีกให้เป๊ะ ก่อนจะถ่ายทำ การคัดเลือกดาราก็เน้นอีก ต้องดังเด่นดึงดูดคนดูได้มาก พอทำเสร็จกระบวนปั่นกระแสให้คนอยากดู ก็จะทุ่มงบอีกหลายสิบล้าน เพื่อให้คนแห่มาดู ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค Tootsies and The Fake เป็นอีกตัวอย่างที่ดีเลย ของการใช้พลังของดาราได้เกินคุ้ม!
...
ส่วนค่ายหนังเก่าแก่ ห้าดาว ไฟว์สตาร์ Five Star ระยะหลังๆ จริงจังหากินกับหนังแนวผีค่อนข้างเยอะ เพราะโกยเงินจริงทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุดส่งหนังภาคต่อ พี่นาค 2 ก็โกยรายได้น่าปลื้มปริ่มอยู่ โชคดีเก็บเงินไปก่อนแล้ว เข้าฉายก่อนโควิด-19 จะระบาดหนัก เนื้อหาหนังเน้นขายขำ
แสงกระสือ Inhuman Kiss ตำนานกระสือไทยๆ เรื่องนี้น่าสนใจมากๆ น่าชื่นชมที่กล้าเสี่ยงทำออกมา เพราะตีความกระสือได้สมจริงสุดสะพรึงมาก ไม่ต้องเน้นขายดาราดัง แต่พิถีพิถันในด้านโปรดักชั่น และบทที่รัดกุม เกลาจนน่าเชื่อ ขยี้ดราม่าได้สาแก่ใจ จนกลายเป็นเวอร์ชั่นกระสือเวอร์ชั่นยอดเยี่ยม ที่หลายคนยกใจให้เลย
จากยอดหนังไทยปี 2562 เราจะได้เห็นแนวโน้มของหนังไทยในปี 2563 น่าจะพอไปได้ไม่ถึงกับฟุบ แต่แค่เปิดศักราชใหม่ได้ไม่นานก็ต้องเจอโจทย์อย่างโควิด-19 มาคว้าดูสถานการณ์แล้วปีนี้อาจจะบอกได้เลยว่ารายได้หนังไทยปีนี้น่ารวยริน.