รายการ “แฉ” ทางช่อง GMM25 โดย 3 พิธีกรดัง มดดำ คชาภา, น็อต วรฤทธิ์, เอมมี่ มรกต พูดคุยกับ 2 แม่ลูกวงการบันเทิง แม่ป๋อง พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา และ ดีเจแมน พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา ถึงวันวานที่กว่าจะเป็น ดีเจแมน ในทุกวันนี้ เจ้าตัวเคยเกเรหนัก แข่งรถซิ่ง ติดยาหนักจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ชีวิตเปลี่ยนเพราะแม่และการบวช ซึ่งเหตุผลที่เจ้าตัวตัดสินใจมาเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจ

โดย แม่ป๋อง พิมพ์แข เล่าว่า ลูกแม่เกือบตาย 2-3 รอบ คิดเสมอว่าไม่รู้ว่าลูกจะตายเมื่อไหร่ ปลงวันที่ลูกเข้าไปไอซียู อันนั้นแรงสุด ชาจนไม่รู้จะคิดอะไรแล้ว เพราะหมอให้เซ็นแล้วว่าถ้าเป็นอะไรไปก็ต้องยอมรับ วันนั้น ณ โรงพยาบาล แม่นึกว่าลูกจะไปนะ ด้วยอาการเหมือนคนดิ้นรน ถีบบนเตียง เรียกแม่ตลอด แม่สวดมนต์ตลอด ตอนนั้นลูกยังไม่ได้เป็นดีเจ เป็นนักแสดงบ้างประปราย มีรายการไปออกบ้าง
...
เมื่อถามว่าตอนเด็ก ดีเจแมน เป็นคนยังไง แม่ป๋อง พิมพ์แข เล่าว่า ก็เฮี้ยวมาแต่เด็ก แต่เขาเป็นคนอารมณ์ดีนะ เป็นคนพูดตลก ไม่รู้ว่าได้มาจากใคร ตอนนั้นสัก 10 ขวบ ไปร้านอาหารที่เซ็นทรัลลาดพร้าว คนต่อคิวกันยาวมาก แมนก็เดินเข้าไปถามว่าที่นี่แ-กฟรีเหรอ คนถามว่าหนูหน้าตาน่ารักจังเลย อยู่ ป. อะไร มันบอก ป.กุ้งเผา เป็นคนกวนๆ ตั้งแต่เด็ก
พอมาถึงช่วงวัยรุ่น มีวันนึงแม่เคยไปถ่ายละครช่อง 3 ที่พัทยา ตอนนั้นไป 3 วัน ก็มีโทรศัพท์มากลางดึก เขาแอบเอารถแม่ไป ตอนนั้นอายุประมาณ 15-16 เขาแอบเอารถแม่ไปรับเพื่อนแล้วไปงานวันเกิดเพื่อน แล้วเอารถไปชน รถพังยับเยิน เพื่อนนี่เข้าไอซียูเลยนะ แล้วรุ่งขึ้นแม่ยังต้องอยู่ถ่ายละครต่อตอนเช้า ก็รีบถ่ายแล้วรีบกลับมา แต่ตอนนั้นโทรศัพท์ให้คุณยายกับพ่อเขาเป็นคนจัดการเรื่องเอาเพื่อนเขาเข้า รพ. เอารถไปเข้าโรงพัก แล้วรถคันนั้นเป็นรถป้ายแดงด้วย ดีที่เขาไม่เป็นอะไร แต่ตอนนั้นเขาคิดว่าเขาจะตายเพราะเห็นเพื่อนเลือดอาบ

ด้าน ดีเจแมน เล่าเสริมว่า ตอนนั้นนึกว่าเราตายไปแล้ว เพราะพอหันไปแล้วเขาร้องโอย แล้วเลือดออกแบบเหมือนเปิดก๊อก หน้าเต็มไปด้วยกระจก แล้วสปอยเลอร์รถเมล์อยู่ตรงหน้าผม แล้วชนตรงๆ ด้วยนะ แต่เราก็ไม่เป็นอะไร แค่เจ็บหน้าอก ก่อนจะเล่าต่อว่าเคยแข่งรถแถวเลียบทางด่วนวิภาวดี กลับมาก็มีรูกระสุน มีหลายครั้งที่ขับปาด ยิงกัน แต่ตอนนั้นอะดรีนาลีนเราหลั่ง ถ้าตอนนี้เราคงไม่ทำเพราะมันเสี่ยง ตายอย่างนี้ไม่ได้ เพราะมีหลายอย่างต้องดูแล ก็เลยจะมีทั้งคนเกลียดและคนรัก
เมื่อถูกถามว่าเคยถลำลึกเรื่องติดยาเสพติดมาแล้ว ดีเจแมน พัฒนพล เล่าว่า ผมถลำลึกมาตั้งแต่เรียน ม.2 แล้ว โดยเริ่มจากสิ่งเสพติดที่หาได้ง่ายในตอนนั้นคือยาม้า ตอนนั้นแพร่กระจายมากในยุคนึง มันหาง่าย เริ่มจากตามเพื่อน แล้วคราวนี้มันหยุดไม่อยู่ อารมณ์ฉุนเฉียวขึ้น จากที่เคยเป็นนักกีฬาโรงเรียน ผมว่ายน้ำได้ที่ 1 เหรียญทองตลอด เริ่มพังลงไปเรื่อยๆ ต้องไปบำบัดที่คล้ายๆ คุกที่มีคนที่มีคดีฆ่า คดียาเสพติด แต่เป็นเยาวชน ซึ่งแม่เป็นคนส่งไป ทุกครั้งผมได้ยินเสียงสวดมนต์แล้วรู้สึกว่าถ้าไม่มีใครเบรก เราต้องแย่แน่ แม่ป๋อง พิมพ์แข เล่าเสริมว่า ตอนนั้นสวดมนต์ให้ลูกทุกวัน ส่วนสาเหตุที่รู้ว่าลูกติดยาเพราะกิริยาเปลี่ยนไป ดูโทรมมาก ตอนที่เขาติดหนักๆ ก็มาคุยปรึกษา
ดีเจแมน เล่าต่อว่า ที่เล่าให้แม่ฟังเพราะรู้สึกว่าพอเวลาขาดมันไม่ได้ มันจะสูญเสียหลายอย่างมาก แม้กระทั่งสุขภาพจิตผม คนรอบข้าง อารมณ์ความรู้สึก ผมจะถามตัวเองตลอดว่าเฮ้ย กูเป็นคนยังไงวะ ทำไมกูต้องมาอยู่อะไรแบบนี้ แต่ทุกครั้งที่เวลาฤทธิ์ยามันต้องการ เราจะเปลี่ยนเลย เราก็จะไปอีก เพราะฉะนั้นมีทางเดียวคือบอกแม่ว่าทำยังไงก็ได้ แม่ต้องช่วยผม ผมไม่ไหวแล้ว ทำยังไงก็ได้ให้ผมเลิก
...

แม่ป๋อง พิมพ์แข เผยว่า ตอนที่พาลูกไปเลิกยา แม่ก็วางแผนกับน้องสาวและน้องเขยที่เป็นตำรวจว่าให้มีตำรวจมาที่บ้านเลย และขอมาเจอตัวแมนเลย แล้วเอารถตู้มาจอดหน้าบ้าน เขาก็ตกใจวิ่งขึ้นไปหาแม่ ตำรวจก็มาพูดดีๆ ว่าไปบำบัดเถอะ เขาก็ยอมขึ้นรถไปด้วยกัน พอขึ้นรถไปเขาไม่ยอมมองหน้าแม่เลย ไม่พูดกับแม่สักคำตั้งแต่จากบ้านจนถึงที่บำบัด พอลงจากรถไปก็มีพี่เลี้ยงมารับไปเลย แล้วไม่หันกลับมามองแม่ด้วย
ซึ่ง ดีเจแมน บอกว่า ตอนนั้นไม่ได้โกรธ แต่กำลังเตรียมตัวว่าจะเจออะไรบ้าง ก็คิดมากไปหมด เราไม่เคยต้องมาอยู่ที่แบบนี้ ก็ลำบากมากจริงๆ วันดีคืนดีนั่งกินข้าวอยู่ คนที่เสพยาเยอะแล้วสติไม่ดีเอามีดแทงคอกัน ตอนที่เข้าไปอยู่ในนั้นต้องใช้สมองมากกว่ากำลัง เพราะไม่มีทางจะอยู่รอดวันต่อวันได้โดยใช้กำลัง ก็เข้าไปอยู่ในนั้น 8 เดือน ซึ่งเขาห้ามติดต่อกับแม่จนกว่าจะทำตัวดีขึ้น มีครั้งนึงเคยคิดจะหนี แต่ผมบอกตัวเองว่าถ้าผมออกไป แล้วผมยังเหมือนเดิม ผมไม่หนีดีกว่า ถ้าเราหนีก็แพ้ใจตัวเอง มันไม่ตาย ถ้าตายก็ตายตั้งแต่วันแรกแล้ว
...
แต่พอออกมาแล้วก็เลิกยาตัวนั้น แต่พอเข้าวงการมันมียาอีกตัวนึงซึ่งกินได้นอนหลับ แต่ใช้แค่ตอนทานเหล้า ซึ่งไม่ได้ติดงอมแงม ปรากฏว่าต้องเข้าไอซียูเพราะว่าโอเวอร์โดส พักผ่อนน้อย ดื่มเยอะ กินยานอนหลับเพราะเป็นคนหลับยาก รวมกับสิ่งต่างๆ ที่สะสมมาด้วย มันก็เลยทำให้ต้องเข้าไอซียู แต่วันนั้นก็เป็นอีกวันนึงที่เปลี่ยนชีวิต เพราะตอนบำบัดอายุ 18-19 ส่วนตอนที่เข้าไอซียูอายุ 26 ตอนนั้นแม่ต้องเซ็นรับทราบว่าอาการ 50-50 หากเป็นอะไรก็ไม่สามารถฟ้อง รพ. ได้

ส่วนเรื่องที่บวช มาจากตอนที่อาการหนัก หัวใจเต้น 200 นอนอยู่บนเตียงแล้วดิ้นพล่าน มันเหมือนจะดับแล้ว ทุกอย่างมันขึ้นฮีตมาก แต่ตอนนั้นเหมือนได้ยินเสียงสวดมนต์ เห็นห้องพระ เห็นสิ่งที่คุณแม่ทำมาตลอด ก็อธิษฐานในใจว่าถ้าพุทธศาสนามีจริง ผมขอรอดในวันนี้ ผมขออยู่ต่อ ผมจะเลิกยาเสพติดทั้งหมด ผมจะทำเพื่อคนอื่นและพุทธศาสนา แล้วผมจะบวช จากนั้นประมาณ 5 นาทีก็กลับมาเป็นปกติ หมอก็งงเพราะหัวใจกลับมาเต้นปกติ ส่วนแม่นั่งสวดมนต์อยู่ข้างนอกโดยที่เขาทำใจว่าผมต้องเสียชีวิต
...
หลังจากหายดีผมก็บวช ก็เจอเรื่องแปลกๆ เยอะ เลยรู้สึกว่าเขามีจริง สิ่งที่ผมมองไม่เห็นมีจริง พุทธศาสนาคือวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ด้วย ไม่ใช่แค่ฟังจากเรื่องเล่า เพราะฉะนั้นชีวิตเปลี่ยนหลังจากที่บวชจริงๆ ซึ่งก่อนหน้าจะบวชก็หยุดมานานแล้ว แต่แค่ติดละครและหาเวลาบวชที่เหมาะที่สุด เพราะอยากบวช 30 วัน ด้าน แม่ป๋อง พิมพ์แข บอกว่า ชีวิตเขาเปลี่ยนไปเลย รับผิดชอบทุกอย่างในบ้าน นิสัยเปลี่ยนไปเลย เดี๋ยวนี้สวดมนต์ยิ่งกว่าแม่อีก
นอกจากนี้ ดีเจแมน บอกว่า ที่อยากเล่าเพราะว่าเผื่อเด็กที่ดูอยู่จะกลับตัวได้ ผมเคยเป็นหนักกว่าเยอะ วันนี้กล้าพูดได้เต็มปากว่า 8-9 ปีที่ผ่านมาไม่แตะสิ่งเสพติดเลย ยกเว้นดื่มบ้างเวลาละครปิดกล้อง ไปเที่ยวกับแก๊งฮาร์เล่ย์ ทุกวันนี้ไม่แตะอะไรทั้งนั้นเลย (ชมคลิป คลิกที่นี่ ตั้งแต่นาทีที่ 27 เป็นต้นไป).