เจออุบัติเหตุกลางกองถ่ายละคร ทำเอาหลายคนเป็นห่วง สำหรับ แอฟ ทักษอร ที่ลื่นล้มหัวฟาดพื้นขณะถ่ายเลิฟซีน จนโดนกระเบื้องในสระว่ายน้ำบาดที่หัวเข่า จนเย็บไป 3 เข็ม เมื่อเจอ แอฟ มาร่วมงาน GRAND OPENNING ณ Shop ic!berlin สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ว่า
ถามเรื่องอุบัติเหตุในกองล้มหัวฟาดพื้นเลย?
“มีแต่คนเป็นห่วง ก็โดน 2 เรื่องในคืนเดียว เริ่มจากลื่นล้มก่อน จริงๆ วันนั้นก็ยังแซวกันอยู่เลยว่า ไม่สงสัยเหรอ ใครแช่งแอฟ วันนั้นถ่ายฉากเลิฟซีนครั้งแรก สงสัยมีคนอยากจะเสียบ (หัวเราะ)”
วันนั้นพลาดได้อย่างไร?
“วันนั้นก็ลื่นล้มปกติเลย ทำตัวเองทั้งหมด ตอนแรกเหมือนขึ้นมาจากสระว่ายน้ำแล้วตัวเปียก ก็เลยลื่นล้มแบบหงายไปเลย ก็รู้ว่าเจ็บ รู้ตัวว่าช้ำ”
ฮีโร่คนแรกที่เข้ามาช่วยคือใคร?
“น้องต่ออยู่ในสระว่ายน้ำขึ้นมาไม่ทัน ก็เป็นพี่ที่กอง วันนั้นก็รู้สึกประทับใจที่เทคแคร์เราดี ทุกคนเป็นห่วงเข้าชาร์จอย่างเร็ว แต่นั่นเป็นตอนแรก คือหลังจากนั้นเราก็ลงไปถ่ายต่อ ก็โดนกระเบื้องในสระว่ายน้ำบาดที่หัวเข่า ก็แปะพลาสเตอร์แล้วลงไปถ่ายต่อ จริงๆ วันนั้นต่อก็เตือนแล้ว ว่าระวังนะพี่กระเบื้องมันคม เขาเองก็โดนเหมือนกัน แต่แอฟโดนลึก”

...
ทำไมเลือกถ่ายต่อ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นไปโรงพยาบาลก็ได้?
“เอาจริงๆ นะตอนนั้นคิดว่าก็แค่เป็นแผล ก็ปิดพลาสเตอร์แล้วถ่ายต่อหลังจากนั้นนั่งทานข้าว ให้สัมภาษณ์เบื้องหลัง แล้วก็กลับบ้านปกติ ก็มีแวะโรงพยาบาลไปล้างแผล ไปถึงก็บอกคุณหมอว่ามาล้างแผล คุณหมอก็พาเข้าห้องผ่าตัด เราก็งงว่าทำไมเพราะแผลมันเล็ก แต่คุณหมอบอกว่าต้องเย็บเพราะมันลึก ไม่งั้นแผลก็ไม่ติดกัน โดนไป 3 เข็ม เช้าก็ระบมเพราะเราล้มดวย”
ปีชงหรือเปล่า?
“ไม่ชงแล้วปีนี้ปีดี”
ต้องระวังมากขึ้นไหม?
“เราระวังอยู่แล้ว ส่วนปีใหม่ก็สนุกเลย เขาได้ช่วยล้างแผลให้คุณแม่ทุกวัน เขาก็จะเป็นคุณหมอ ลูกชอบใจ ลูกก็เป็นห่วงแค่พี่หมอนี่แหละ คือตอนนี้เขารู้หมด ตอนเราถ่ายละคร เขาก็จะให้พี่เลี้ยงเฟซไทม์มาดูว่าทำอะไร ถ่ายอะไร อยู่กับใคร เขาก็เช็กหมด ตอนนี้ปีใหม่รู้จักทุกคน รู้จักผู้กำกับแล้ว มีอะไรก็พูดกับพี่สันต์แล้ว”
น้องปรับตัวได้หรือยัง เพราะก่อนหน้านี้ต้องตัวติดกันกับเราตลอด?
“ก่อนหน้านี้ก็แอบกังวลว่าปีใหม่จะโอเคไหม แต่พอเราเริ่มปรับวิธีให้เขารู้ว่าเราทำอะไร อยู่ที่ไหนกับใครเขาก็สบายใจ ไม่ตามแล้ว”
ปีใหม่ไปกองบ่อยไหม?
“ไปครั้งเดียว คือครั้งนั้นไปให้รู้ ว่าคุณแม่อยู่กับใคร เขาจะได้ไม่ห่วง พอเขาไม่ห่วง เขาจะได้มีสมาธิทำอย่างอื่น”
ทักเฟซไทม์บ่อยแค่ไหน?
“หลังเลิกเรียนก็มาแล้ว ตอนหลังที่ตลกคือเขาจะคุยกับพี่สันต์ ผู้กำกับ เขาก็กล้าคุย”
เขามีแววสนใจงานด้านนี้ไหม?
“เขาน่าจะสนใจว่าคุณแม่ทำอะไรอยู่ แต่ก็ไม่มีภาพในหัวว่าละครคืออะไร เพราะเขาก็ไม่เคยดูละคร เขาก็จะคอยตาม คอยถามว่าเหลืออีกกี่ฉากคะ แม่ไม่ว่างรับเขาก็คุยกับพี่สันต์”
ถามเรื่องแมสก์เด็กที่ตอนนี้เด็กๆ ต้องใส่ น้องปีมีปัญหาไหม?
“ปีใหม่ใส่แมสก์ตลอดตั้งแต่มีปัญหาฝุ่น PM 2.5 แล้ว ก็ต้องขอบคุณทางโรงเรียนด้วย เหมือนโรงเรียนก็ฝึกให้ทุกคนใส่ แอฟคิดว่าเด็กๆ ค่อนข้างง่ายถ้าทำตามๆ กัน คือถ้าเพื่อนส่วนใหญ่ใส่เขาก็จะยอมใส่ ตอนนี้มีไวรัสอีกเขาก็ต้องใส่ เวลาเขาไปโรงเรียนเราก็เป็นห่วง เป็นห่วงตั้งแต่ฝุ่นแล้ว แต่เราก็ค่อนข้างวางใจโรงเรียนว่า ถ้าฝุ่นเยอะ เขาก็จะไม่พาออกมาทำกิจกรรมนอกโรงเรียน ทานอาหารก็จะทานในห้อง”
เราสอนน้องเซฟตัวเองอย่างไร?
“ก็สอนให้เขาล้างมือบ่อยๆ พยายามไม่จับอะไร แต่ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า เด็กๆ ควบคุมตัวเองยาก เดี๋ยวก็กับจมูก จับปาก จับแมสก์เลื่อนไปมาก็ต้องพยายามฝึกๆ กันไป แต่ก็ต้องปรับตัว ตอนนี้ทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็กก็ค่อยๆ ปรับตัวกันไป”
ไม่ถึงขนาดว่าไม่อยากให้ออกจากบ้าน?
“ตอนนี้ก็ยังออกอยู่ แต่เราก็เลือกสถานที่ เลือกกิจกรรม อย่างตอนนี้แอฟยังให้ไปโรงเรียนปกติ เพราะยังเชื่อมั่นในมาตรการของโรงเรียนที่จะคัดกรองเด็กที่ไม่สบายไม่ให้มาโรงเรียน วางใจในสมาคมผู้ปกครองว่าเขามีความรับผิดชอบต่อสังคม ถ้าเกิดมีคนในบ้านหรือลูกป่วยเขาก็จะไม่พามาโรงเรียน
ตรงนี้เราวางใจก็เลยยังให้ไปโรงเรียนปกติ ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ถ้าเป็นกิจกรรมที่เด็กมีจำนวนเยอะก็ให้ปีใหม่หยุดก่อน ถ้าเรียนพิเศษบางอัน เรียนแค่ 2-3 คนก็ยังให้เขาไปอยู่ อย่างบัลเล่ต์เด็กไปเรียนน้อยลง ปีใหม่เป็น 1 ใน 3 คน จากที่เมื่อก่อนเป็นสิบคน แอฟคิดว่ามันอาจจะไม่ได้มีคำตอบตายตัวว่าเราจะห้ามทุกกิจกรรมไหม คงดูเป็นจังหวะว่าช่วงไหนมันรุนแรงหรือไม่รุนแรง แต่ละกิจกรรมมันเยอะน้อยขนาดไหน”
เราก็ได้มีการอธิบายถึงสถานการณ์ต่างๆ ให้น้องฟัง ทั้งฝุ่น ทั้งไวรัส?
“เขาเข้าใจค่ะ ที่โรงเรียนค่อยข้างให้ข้อมูลเยอะมาก วันนึงเขากลับมาบ้านเขามาบอกว่ามามี๊เขาเปลี่ยนชื่อแล้วนะ แอฟก็ว่าอะไรเปลี่ยนชื่อ อ่อ โคโรนา เปลี่ยนชื่อเป็นโควิด-19 เราก็ตลกว่าทำไมลูกต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วย เด็กๆ เขาก็จะมีอะไรขำๆ”
...
เรื่องกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือล่ะ?
“เรื่องนี้เราสอนเป็นเรื่องของมารยาทอยู่ตั้งแต่เขาเล็กๆ แล้วว่า เวลากินอาหารร่วมกับผู้อื่นต้องใช้ช้อนกลาง ในแง่ของมารยาทเราสอนมาแต่เด็กอยู่แล้ว แต่พอมามีสถานการณ์นี้ก็เลยถือโอกาสสอนเขาอีกว่า เห็นไหมว่ามันไม่ใช่เรื่องของมารยาทอย่างเดียว มันเป็นเรื่องของสุขอนามัย เราจะได้ไม่ติดโรคอะไรก็แล้วแต่ เราสามารถป้องกันได้ด้วยวิธีนี้เหมือนกัน”

แมสก์สำหรับเด็กตอนนี้หายาก?
“ตอนนี้ที่บ้านก็ยังมีอยู่ แต่ตอนนี้ก็เตรียมแมสก์ผ้าไว้ จะได้ช่วยกันประหยัดด้วย เพราะว่าพอใช้มาสักพักนึงตอนนี้ก็มีคนตระหนักว่ามันจะเป็นขยะเยอะไหม แอฟคิดว่าแมสก์ผ้าก็น่าจะช่วยได้”
แพทมีคนคุยใหม่แล้ว วันก่อนที่เขาพูดในรายการ เราเองก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เหมือนกัน?
“เซอร์ไพรส์ค่ะ แอฟไม่ค่อยรู้เรื่องคนอื่น ก็จะรู้พร้อมคุณผู้ชม เราก็ถามเขานะ เราก็รู้อยู่แล้วว่าทุกคนไม่ใช่จะเริ่มคุยกับใครแล้วจะมาเล่าให้เพื่อนฟังทันที คงจะต้องศึกษากันสักพักนึง เมื่อเขามั่นใจว่านี่คือคนที่คุยด้วยเขาถึงจะเปิดเผย”
พอเราถามเขาไป เขาว่าไงบ้าง?
“เขาก็แฮปปี้ สำหรับพวกเราในทีมพิธีกรแชร์ข่าวสาวสตรองอะไรก็ได้ที่เห็นน้องแฮปปี้”
ก็จะทำงานกับคนอินเลิฟ?
“ไม่เป็นไร แอฟมีอาตุ่ยเป็นเพื่อน (หัวเราะ) แอฟมั่นใจว่าอาตุ่ยจะอยู่เป็นเพื่อนแอฟ ก็ปลอบใจตัวเองอยู่”
ของเราล่ะ เราคิดไหมว่าวันนึงเราก็อาจจะมีฉากนี้ของเราบ้าง?
“คงไม่ง่ายเหมือนแพทหรอก หมายถึงสำหรับแอฟนะคะ”
ต้องผ่านด่านปีใหม่?
“หลายอย่างค่ะ เรื่องทั้งหมดมันแล้วแต่จังหวะเวลา เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเกิดขึ้นไหม เมื่อไหร่ ยังไง เราไม่ได้ไปคาดหวังอะไรจากมัน เราก็เปิดใจแต่ไม่ได้เปิดไปเจอใครเลยนะ วันๆ อยู่กันอย่างนี้ ไม่มีใครเข้ามา
...
วาเลนไทน์ไม่มีดอกไม้ คือเราไม่ได้คิด มันมีเข้ามาเมื่อไหร่แล้วค่อยคิดแล้วกัน ตอนนี้มันคือเรื่องลูก เรื่องงาน เรื่องครอบครัว ที่แค่นี้ก็ตื่นเต้นทำอะไรไม่ทันแล้ว ก็รู้สึกแฮปปี้กับตรงนี้มากแล้ว”.
