ใครจะรู้ว่าชีวิตของดีเจมะตูม เตชินท์ ก่อนหน้าที่จะมีชีวิตอู้ฟู่ในวงการบันเทิงอย่างนี้ เจ้าตัวลำบากมาก แต่ต้องกัดฟันสู้เพื่อให้แม่เห็นว่าตัวเองก็ทำได้ โดยมะตูมเล่าในรายการ ตัวแม่มาแล้ว ที่ออกอากาศทางช่องไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ออกอากาศทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 22.30 น. ว่า
ชีวิตเหมือนฝัน มีคนติดต่อให้มาทำรายการที่ไทย?
ใช่ ตูมจัดรายการในแคมฟรอก แล้วเค้าให้มาจัดรายการที่จันทบุรี ให้ชั่วโมงละ 300 บาท บินจากเยอรมันมา (ล้างจานที่เยอรมันได้เยอะกว่า) ตอนที่อยู่เยอรมัน นอกจากจัดรายการในแคมฟรอกแล้ว เราก็ไปสมัครเพื่อจะเล่นละครเวที เพราะอยากเล่น แต่ปรากฏว่า ตำแหน่งเต็ม เลยไปยกฉากกับระบายฉากอยู่ 2 ปี
ทำฉากไป ก็ดูเค้าซ้อมไป มันเริด อยากเล่น แม้มันจะเป็นละครเวทีเล็กๆ ของจังหวัด เราอยากจะลองเป็นดาวดูบ้าง เราไม่เคยเป็นดาวสักที ละครเวทีที่อยากทำเพราะแม่ อยากให้แม่เห็นว่าตูมเป็นดาราได้ แต่ตูมเป็นคนไม่มีต้นทุน ไม่มีเงิน ไปยกฉากจนวันหนึ่งคนที่มาแคสต์เค้าขาเจ็บเราก็ไปเล่น เพราะเราจำท่าได้หมดเลย
...
แม่พูดว่าอะไร?
แม่พูดว่าอย่างมะตูมไม่มีทางเป็นดาราได้แน่นอน เข้าวงการไม่ได้แน่นอน ไปเป็นพระเอกเหรอ ร้องเพลงก็ไม่เพราะ ทำอะไรได้ก็ไม่ดี คือคำพูดของแม่อยากจะบอกเราตลอดเวลาว่าอย่าชะล่าใจกับชีวิต ให้หาที่เป็นหลักเป็นแหล่งทำได้แล้ว แม่อยากให้เป็นหมอ ซึ่งเราเข้าใจแม่ ไม่เคยโกรธแม่เลย ก็บอกให้แม่คอยดูว่าอาชีพที่หนูเลือกมันจะซื้อบ้านซื้อรถดูแลแม่ได้เหมือนกัน ยิ่งเค้าห้ามเรายิ่งอยากทำ
ละครเรื่องแรกที่เล่นยังไม่ได้ออนแอร์เลย?
ครับผม (ยิ้ม) พอมาอยู่ที่ไทย ตอนแรกก็ไม่ได้ดัง จนมาดังตอนอัดคลิปๆ หนึ่ง แล้วพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ มาติดต่อให้ไปเล่นละคร ดีใจมาก ละครเรื่องแรกของเรารับบทเป็นกะเทยในสลัม ตามคาแรกเตอร์ แล้วมีกุ๊บกิ๊บเล่นด้วย ตอนนั้นดีใจมาก โทรไปหาแม่ แม่ร้องไห้ เพราะแม่ไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แม้จะเล่นบทอะไรก็ตามแต่ลูกก็ได้ทำความฝันของตัวเอง ต้องขอบคุณแม่มากที่ทำให้ฝันของมะตูมเป็นจริงและสุดท้ายละครเรื่องนั้นก็ยังไม่ได้ออนแอร์จนถึงวันนี้
และละครเรื่องนี้ทำให้ตูมสนิทกับกุ๊บกิ๊บ เพราะว่าเค้าเป็นคนเดียวที่ด่าเรา คือบทยาวมากแล้วไม่รู้พี่อ๊อฟพี่แดงเขียนอะไรมาให้ อ่านแล้วพูดไม่รู้เรื่องซะที แล้วกุ๊บกิ๊บก็พูดว่า ไปทำการบ้านมาก่อนไป ไม่อยากเล่นกับคนแบบนี้ มันตลก เค้าพูดกับเราแบบนี้ เราก็คิดในใจว่า คอยดูนะ (หัวเราะ) แล้วก็มาสนิทกัน คือเค้าพูดแบบนี้เพราะเค้าอยากสอนให้เราตั้งใจทำงาน ไม่อยากให้คิดว่าวงการนี้มันเข้ามาง่ายๆ มันต้องเหนื่อยมาก เพราะกว่าเค้าจะมาถึงจุดนี้เค้าก็เหนื่อยเหมือนกัน
โดนคนเกลียดและไม่ชอบเยอะมาก?
ครับ พอได้มาจัดรายการที่คลื่นวิทยุ เริ่มมีชื่อเสียง ก็มีคนพูดว่าตูมไม่เหมาะกับการทำรายการนี้ ชีวิตมันเหมือนว่า ขึ้นเครื่องแล้วมันแลนดิ้งแล้วแต่กลับไม่ผ่าน ตม. เพราะตูมมาทำงานที่นี่ตูมไม่มีอะไรเลย เงินเก็บก้อนแรกจากการทำงานที่นี่ก็เอาไปซื้อนาฬิกาแบรนด์นึง 12,000 บาท
หนูต้องใช้เวลาเก็บปีนึง เงินไม่มี บ้านไม่มี เงินพอกินเดือนชนเดือนต้องไปยืมเพื่อนทีละ 8 พัน กรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายสูงมาก ไปถ่ายละครไกลๆ ก็ต้องนั่งแท็กซี่ไป ชีวิตเป็นแบบนี้อยู่ 2-3 ปี ชีวิตไม่ไหวแล้ว ตูมมาอยู่ไทยไม่มีอะไรเลย ตอนนั้นไม่รู้จักของแบรนด์เนมเลย คนไม่มีคือคนไม่มีจริงๆ
คิดจะผ่าตัดแปลงเพศมั้ย?
ไม่เคย (หัวเราะ) ไม่มีเลย ผู้หญิงอะไรจะมาสูง 190 เซน มันไม่ได้ หนูรู้สึกกับการที่เราเป็นแบบนี้ แต่งหญิงเป็นบางครั้งบางครามันสนุก แต่ถ้าต้องทุกวันเลย นี่ไปต่อผมมายังรู้สึกว่ามันเหนื่อยมาก และรู้สึกว่าลึกๆ เรายังมีความเป็นผู้ชายอยู่ เพราะเป็นคนชอบดูแลคน เทคแคร์ เป็นห่วง ปกป้องคน
...