งานเข้าชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยเมื่อ ซี ฉัตรปวีณ์ พิธีกรรายการไอทีชื่อดัง ได้ทวีตข้อความในวันที่ 4 มกราคม 2563 บอกว่า "เพิ่งเคยเจอแอร์ที่เรายกของแล้วขอให้ช่วยกันนิดนึงของหนัก แอร์ไม่ออกแรงยกเลยจ้า ใจดีกับบีซีจุงเลย"
ซึ่งทำเอาพิธีกรสาวชื่อดังโดนถล่มเละ และบอกว่าแอร์โฮสเตสไม่ได้มีหน้าที่มาช่วยผู้โดยสารยกกระเป๋า แต่มีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยบนเครื่อง ถ้ากระเป๋าที่ถือมาหนักมากจนยกไม่ไหว ก็ควรจะโหลด พร้อมกับรู้สึกผิดหวังที่พิธีกรชื่อดังทวีตข้อความแบบนี้
หลังจากมีดราม่า ซี ฉัตรปวีณ์ ได้ลบทวีตต้นเหตุไปแล้ว พร้อมกับชี้แจงใหม่ และยอมรับผิดว่าโพสต์ก่อนหน้านั้นใช้อารมณ์ เข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทราบดีว่าไม่ได้มีหน้าที่ยกกระเป๋าให้ แต่ขออธิบายเหตุการณ์ว่า ตอนนั้นตนยกกระเป๋าเอง และยกขึ้นมาสูงแล้ว
จนเห็นแอร์โฮสเตสเดินมา เห็นว่าตนยืนขวางทาง คิดว่าคงจะมาช่วยดันกระเป๋าขึ้นเพื่อเคลียร์ทาง แต่แอร์ฯ แค่เอามือมาแตะกระเป๋า ไม่ได้ช่วยออกแรง แต่แสดงเหมือนว่าช่วย เลยทำให้รู้สึกอึ้ง
แต่เหตุการณ์กลับแย่ลงกว่าเดิม โดยชาวเน็ตมองว่า ขอโทษที่โพสต์แต่ไม่ได้ขอโทษเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ความจริงแล้วต้นเหตุมาจากกระเป๋ามีน้ำหนักมากเอง แต่ไม่ยอมโหลด หวังว่าเจ้าหน้าที่จะช่วยแต่เมื่อไม่ได้รับความช่วยเหลือก็ไม่พอใจ
...
ซึ่งสาวซีก็ได้โพสต์ชี้แจงผ่านเพจของตัวเองอีกครั้งว่า “ขอเคลียร์ดราม่าผ่านเพจนะคะ... เป็นประสบการณ์ ที่ค่อนข้างรู้สึกว่า เงียบคงไม่ได้ช่วยอะไรให้คนเข้าใจจากการตัดสิน และไปดราม่ากระจายในเพจอื่น... ซึ่งซีเข้าใจการละเลงดราม่าเป็นอย่างดี ซีขอยอมรับความผิดพลาดที่โพสต์ด้วยอารมณ์ไม่ได้กลั่นกรองคำพูดที่ดี ในการโพสต์ ทำให้คนตีความลบ และดราม่าครั้งนี้ แต่ด้วยความเคารพค่ะ ขออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ต่างมุมมอง....
1. ทราบดีว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีหน้าที่ยกของให้เรา ไม่ได้เคยเรียกร้องให้ช่วย หลายสายการบินที่แอร์ทำให้เราเอง แทบยกมือไหว้กันไม่ทัน เพราะรู้สึกว่าประสบการณ์ของสายการบินเค้าคัดเลือกและเทรนนิ่งทัศนคติคนมาดีเหลือเกิน ช่วยเหลือจนเรารู้สึกชื่นชมว่าเกินหน้าที่ไปมาก
เราประทับใจอยากบินสายนั้น ๆ เสมอ ทุกครั้งที่เดินทาง ไม่เกี่ยวกับคลาสไหน ชนชั้นไหนนั่งได้หมดค่ะ ไม่ใช่นิสัยติดคลาส ไม่มีการเหยียดแน่นอน คลาสพิเศษ แอร์ที่มามักจะช่วยเหลือผู้โดยสารจำนวนไม่มาก จึงมีเวลายื่นมือช่วยเหลือได้ตามน้ำใจที่สมควร
2. ซีไม่ได้ยืนเฉย ๆ แล้วให้เค้ายกค่ะ ซียกสูงขึ้นมาแล้ว เค้าเดินมาเหมือนเรายืนกันทาง เลยพยักหน้ายิ้มแย้มตามปกติ คาดหวังไปว่า เค้าจะ "ช่วยดันขึ้น" นิดหน่อยพอให้เคลียร์ทางได้ไวขึ้น ผลปรากฏว่า เค้าเดินมาแตะกระเป๋าเราเฉย ๆ เราตกใจงง
หันมองหน้าว่า คือไม่ช่วยไม่เป็นไร ทำไมมาแตะเหมือนไม่ช่วยแต่โชว์ว่าช่วย อันนี้เรื่องจริงที่เจอ ซึ่งเป็นแอร์ชาวต่างชาติ...อึ้งว่าแบบนี้ คือยังไง ? (และไม่ใช่สายการบินที่เคยใช้บริการเลยมาก่อนด้วยค่ะ)
3. เรากลัวกีดกันทางคน แน่นอนกระเป๋ามีน้ำหนัก และเดินทางคนเดียวประจำไม่ได้จะลำบากใคร เห็นว่าเค้าเดินมาหยุด ไม่ได้รีบก็ยิ้มรับแบบแหะ ๆ ดันนิดนึงก็เข้าแล้ว...ปรากฏเจออาการที่ไม่ได้คาดคิด และย้ำเลยค่ะ ไม่ได้เบ่งว่าจะคลาสไหน และเห็นว่าเค้าว่างกำลังจะเดินผ่าน เราก็พยายามจะรีบแบบพลเมืองดี
แค่ช็อกกับการแตะกระเป๋าแบบส่ง ๆ คือไม่ช่วยน่าจะดีกว่าจริง ๆ เราไม่เคยเห็นกิริยาแบบนี้ จากเจ้าหน้าที่สายการบินมาก่อนค่ะ เจอแต่คนทัศนคติดีมาก ๆ ช่วยเหลือสุด ๆ และการเดินทางบ่อยทราบว่า คนยืนเดินบนเครื่องระหว่างทำงานเหนื่อยแค่ไหน
บทสรุปคือ ซีขอกรุณาอย่าตัดสิน หรือรุมประณามจากเหตุการณ์ที่คุณไม่ได้เห็น ซีขอยอมรับความผิดพลาดในการใช้อารมณ์โพสต์ช่วงดึกที่ได้ลบไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ตลอดการทำงาน มีแต่เจตนารมณ์ที่ดีต่อสังคมเสมอ
ถ้าผู้อ่านที่แวะเข้ามาได้อ่านสิ่งนี้ ต้องขอโทษที่ทำให้ผิดหวังในการใช้อารมณ์ และคำเขียนที่ไม่ดี เพราะได้รับประสบการณ์ที่ต่างจากไมตรี เจ้าหน้าที่ที่เราเคยเจอมา ด้วยสีหน้าและแววตาเจ้าหน้าที่คนนี้ทำเอาอึ้งเหมือนกัน
ดังนั้น กรุณาอย่าต่อยอดสิ่งที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมนี้เลยค่ะ ขอบคุณสำหรับการแชร์กฎการบินมาให้เพิ่มเติม แต่ยืนยันว่าเราไม่มีเจตนาเบียดเบียนเจ้าหน้าที่ ด้วยความคิดและกิริยาแม้แต่น้อยค่ะ"
...