หลังจากคู่รักดัง หมอโอ๊ค สมิทธิ์ และ โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล ถูกคนนำรูปไปใช้แอบอ้างโฆษณาผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก และผลิตภัณฑ์เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย ล่าสุด หมอโอ๊ค-โอปอล์ เข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ธ.ค. 2562 ที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นการแจ้งความ หมอโอ๊ค-โอปอล์ พร้อมด้วย ณัฐธิดา ประณุทนรพาล ทนายความ และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงข่าวร่วมกันถึงเรื่องดังกล่าว
โดย หมอโอ๊ค กล่าวว่า “อย่างที่หลายๆ คนน่าจะได้เห็นว่ามีคนแอบอ้างนำเอาภาพหมอโอ๊คและโอปอล์ นำไปใช้ในการขายผลิตภัณฑ์ ซึ่งเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกแล้ว ซึ่งส่วนของการขายออนไลน์ทางเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งครั้งนี้ค่อนข้างมีการทำงานอย่างมืออาชีพ มีหลายเพจ โดยมีผู้พบเห็นก็ได้แจ้งเข้ามาถึงแอคเคาต์ส่วนตัวของเราว่าเกิดอะไรขึ้น เราขายผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้จริงหรือเปล่า และก็มีหลายท่านที่มีการสั่งซื้อไปแล้ว บางท่านก็รู้สึกว่าไม่ได้ผล ก็เลยติดต่อกลับมาหาเรา เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม
...
อยากจะเรียนทุกท่านว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจนะครับ ตั้งแต่วันนั้นก็มีการโพสต์เตือนตลอด ด้วยการชี้แจงว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ลักษณะนี้ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเรา แต่ครั้งนี้ยอมรับว่าหนักจริงๆ เพราะว่ามีการแจ้งไปแล้วว่ามันเป็นเว็บปลอม ก็มีการเปิดใหม่อยู่ตลอดเวลา มีการทำงานเป็นระบบและก็เร็วมาก ตอนนี้เราเจอ 15 เพจ ด้วยกัน และมีการใช้แอคเคาต์ที่ใช้รูปผมเป็นโปรไฟล์ เหมือนกับผมเป็นคนตอบคำถาม มีการนำไปเจรจาขายสินค้า และมีคำแนะนำในเรื่องสุขภาพอีกด้วย
ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่กระทบจิตใจและสร้างความเสียหายให้กับพวกเราเป็นอย่างมาก เพราะว่ามีการปลอมเป็นตัวตนของเรา และข้อความที่ส่งไปสำหรับผมถือว่าใช้ไม่ได้ เป็นการใช้ภาพที่สื่อถึงความเป็นแพทย์ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพที่ผมรู้สึกว่าไม่ได้เป็นไปตามความเป็นจริงเลย ก็รู้สึกว่าเพียงแค่ชี้แจงก็ไม่เพียงพอแล้ว ก็อยากจะมาพึ่งพาคุณตำรวจแล้ว
ตอนนี้รู้สึกว่าเค้าเข้าถึงกลุ่มคนที่ใกล้ตัวเรามากจริงๆ เป็นญาติของคนไข้เราจริงๆ หรือว่ากลุ่มของญาติพนักงานเราเลย ซึ่งหลายท่านก็มาด้วยความคาดหวังว่า พอซื้อไปแล้วอยากให้ได้ผล เพราะว่าราคาก็ไม่ได้ถูก หลักเกือบสองพันบาท เค้าเชื่อถือในตัวเรา เห็นรูปเรา เราตอบคำถาม เค้าก็ตัดสินใจซื้อทันที บางท่านก็โทรมาถามว่ามีจำหน่ายที่คลินิกมั้ย คือทุกคนตื่นเต้น
ผมว่าเหมือนเขาจับความรู้สึกของคนว่าล้วนอยากมีสุขภาพดี อยากจะผอม ได้ผลรวดเร็ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอะไรที่เล่นกับความรู้สึกคนมาก และก็ใช้ในเรื่องของการแพทย์ที่ผิด สำหรับปัญหานี้ยังไม่เจอ มีแค่ไม่แน่ใจมากกว่า แต่โดยมากคือตัดสินใจซื้อไปแล้ว ครั้งนี้ก็เป็นความหวังอย่างที่สุดของเราทั้งหมด ก็คือไม่อยากให้ใครโดนหลอกลวงเพิ่มเติมขึ้นอีก ลักษณะของเพจเหล่านี้ก็จะค่อนข้างที่จะสังเกตได้คือ จะไม่ยอมให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเอง ไม่บอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แหล่งผลิตยังไงมันบอกไม่ได้จริงๆ
จริงๆ คือเสียความรู้สึกอยู่แล้ว เพราะว่ามันเป็นการสร้างความเข้าใจที่ผิด แล้วต่อให้เราพยายามแถลงหรือพยายามชี้แจงอย่างไร มันก็ไม่ได้ไปถึงทุกๆ คนร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว มันเป็นความเสียใจของเราที่ไม่อยากให้เค้าเข้าใจผิดจริงๆ แน่นอนว่ามากไปกว่านั้น คือหลายท่านก็เป็นผู้สูงอายุ บางท่านก็ไม่ได้มีเงินเยอะนัก และราคาก็สูง ก็เลยเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แย่ที่เราเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ แต่เราก็จะทำให้ดีที่สุด มันไม่สนุกหรอกการที่ต้องมาพบคุณตำรวจ ต้องมาเสียเงินทองในการดำเนินการ เสียเวลา ทุกอย่าง มันไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเลย แต่เราก็จะทำให้เต็มที่ที่สุด เพื่อให้บทเรียนและก็เป็นการสร้างมาตรฐานของสังคมว่า คุณทำแบบนี้ไม่ได้
...
ส่วนตัวเรามีธุรกิจของเรา ซึ่งทำถูกต้องอย่างชัดเจน มีคลินิกและก็ผลิตภัณฑ์ของเราเอง ที่เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งพวกนี้ก็มี อย.เรียบร้อย ไม่ได้มีลักษณะแบบนี้ สมัยนี้การซื้อของง่าย สะดวกสบายมากขึ้น ทำให้เราเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ง่าย แต่ก็อาจทำให้เกิดมิจฉาชีพนี้เพิ่มมากขึ้นด้วย การนำเอาใบหน้าหรือชื่อเสียงของผู้อื่น มันเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมากแต่ก็เป็นความผิด ใครคิดจะทำก็อยากให้ล้มเลิก
เราออกมาครั้งนี้ก็เป็นความตั้งใจของเราจริงๆ อยากสร้างบรรทัดฐาน ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับสังคมไทย สำหรับท่านที่สั่งซื้อไปแล้ว โดนหลอกลวง ก็สามารถไปแจ้งความได้เหมือนกัน เราก็จะทุ่มเทและเอาผิดให้ได้ อยากให้เป็นตัวอย่างจริงๆ ครับ ก็วิงวอนทุกท่านว่าถ้าพบเห็นผลิตภัณฑ์อะไรที่น่าสงสัย ลักษณะเฉพาะของมันคือมีการนำรูปมาตัดต่อ มีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง
อันนี้ขอพูดในฐานะแพทย์ว่า ปัจจุบันก็ยังไม่มีอะไรที่ลดน้ำหนักได้ภายใน 3 วัน หรือว่าเพิ่มขนาดอวัยวะบางอย่างได้ภายใน 3 วัน มันเป็นไปไม่ได้ ยังไงก็ตามการลดน้ำหนักที่ดีที่สุดคือการลดด้วยตัวเอง ด้วยการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย ก็ขอฝากไว้เลยว่าให้ทำเครื่องหมายคำถามไว้ในใจเยอะๆ เลย และลักษณะเฉพาะอีกอย่างคือจะไม่ยอมให้เลขบัญชี จะมีการจ่ายปลายทางเท่านั้น ขอโอนเงินก็ได้ ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ขอแนะนำระมัดระวังเป็นพิเศษครับ”
...
ด้าน โอปอล์ เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า “เป็นภาพของคุณหมอโอ๊คค่ะ แล้วก็ใช้ชื่อโอปอล์ เค้าใช้คำว่า คุณหมอโอปอล์ แล้วเพจที่เค้าเปิดมีเป็นสิบๆ เพจ เค้าก็จะใช้ชื่อต่างๆ แล้วก็ใช้คำว่า โอปอล์ หมอโอ๊ค นักโภชนาการระดับโลก อะไรประมาณนี้ ซึ่งตั้งแต่มีคนแจ้งเรามา เราก็พยายามปรึกษาว่าจะทำยังไงได้บ้าง และระหว่างนั้นก็จะมีคนส่งมาให้เยอะมาก มีคนเชื่อเยอะ และมีคนถามมาว่า ถ้าไม่ใช่ของพี่ ทำไมพี่ไม่ทำอะไรสักอย่าง ที่เราสะเทือนใจคือผู้ใหญ่เค้าชื่อเพราะว่าเห็นชื่อคุณหมอโอ๊ค
ระหว่างนี้เรามีการเก็บหลักฐานที่คุณตำรวจบอกว่ามันมีร่องรอย ซึ่งคราวนี้เราคิดว่าเราจะเอาผิดให้ถึงที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพราะว่าถ้าเรายังเอาผิดเค้าไม่ได้ ปอล์เชื่อว่าคนที่โดนแบบเราก็เยอะ เราไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ตอนนี้ที่เราปรึกษากัน ก็คือเอาความผิดให้ถึงที่สุด คนที่หลงเชื่อก็คือคนที่โทรไปซื้อของกับเค้า เค้าก็บอกว่าของคุณหมอโอ๊ค หมอโอ๊ควิจัย หมอโอ๊คเป็นพรีเซ็นเตอร์ ตอบในเฟซบุ๊กก็เป็นหมอโอ๊คเลย
อยากให้อ่านสักนิดนึง การเรียงคำ เรียงประโยค คือผลิตภัณฑ์นี้ที่เรารู้สึกว่าเค้าหลอกลวงผู้บริโภค คือมันเกือบสองพัน การล่อซื้อทำให้เรารู้ว่ามันมีคนซื้อของเค้าเยอะ ดังนั้นคนตกเป็นเหยื่อเยอะแน่นอน แล้วส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ด้วย ถ้าคุณพ่อคุณพ่อมาปรึกษาเรื่องผลิตภัณฑ์ ลูกหลานช่วยกันดูด้วย และอยากชี้แจงว่าเราสองคนไม่เกี่ยวข้องกับเหตุใดๆ เหล่านี้”
...
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ เผยถึงเรื่องนี้ว่า “ลักษณะนี้เป็นการตลาดที่ผิดกฎหมาย และก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง มีการนำภาพและความเห็นที่ไม่ได้เป็นความเห็นของคุณหมอจริงมาให้ความเห็นกับสินค้า เพื่อสร้างยอดขาย ซึ่งคนร้ายพยายามปกปิดตัวเอง แต่จริงๆ มันมีร่องรอย ก็ขอเวลาตำรวจ ซึ่งความผิดอันนี้ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และเรื่องการฉ้อโกงประชาชนด้วย
เมื่อปีที่แล้วก็มีการนำภาพดาราที่มีชื่อเสียงมาประกอบกับสินค้า ตอนนั้นไปทลายและยึดของประมาณสามหมื่นชิ้นแล้วก็ดำเนินคดี ตอนนั้นคนที่ทำคือเป็นชาวต่างประเทศ ซึ่งลักษณะคล้ายๆ กัน ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน รวมถึงเรื่องฉ้อโกงประชาชน คือเป็นเว็บต่างประเทศ แต่ว่าของก็ต้องอยู่ในเมืองไทยอยู่แล้ว เพราะมันมีการส่งได้จริง อย่างคราวที่แล้วถามอะไรก็จะตอบเหมือนเดิม คือใช้โรบอตตอบ แต่ครั้งนี้รายละเอียดเยอะขึ้น
อยากจะฝากถึงประชาชน กรณีที่เห็นสินค้าและมีการนำรูปผู้ที่มีชื่อเสียงมา อย่าเพิ่งรีบซื้อ หาข้อมูลก่อน อย่างน้อยผมเชื่อว่า ผู้ที่มีชื่อเสียงหรือดารา หรือใครก็แล้วแต่ก็จะมีเพจ มีโซเชียลมีเดียของเค้า ลองอินบ็อกซ์ไปถามว่ามันจริงมั้ย แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ ไม่งั้นก็จะตกเป็นเหยื่อ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าสินค้าที่ขาย บริโภคไปแล้วจะมีอันตรายหรือเปล่า”
ณัฐธิดา ประณุทนรพาล ทนายความ เผยถึงการเตรียมหลักฐานมาแจ้งความว่า “วันนี้ได้เอาของมาเป็นวัตถุพยาน เป็นของในประเทศ มีหลายอย่าง มีทั้งอาหารเสริม ยาลดความอ้วน น้ำมันเอาไว้นวดเพื่อลดขนาด ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เดียว ถามว่าเคยพยายามติดต่อไปเจรจาเองมั้ย ก็มีการติดต่อไป ทำเป็นสั่งสิ่งของ ซึ่งก็รู้ว่าเขาทำเป็นกระบวนการ มันไม่มีการโอนเงิน แต่มีการส่งและเป็นการจ่ายเงินที่เคอรี่ ติดต่อและโทรกลับก็ไม่ได้
และเว็บไซต์นี่ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะลิงก์ไปเป็นเว็บต่างประเทศ อย่างที่บอกว่าที่เรามาแจ้งความคือไม่ใช่คุณหมอเดือดร้อน แต่ว่ามีผู้หลงเชื่อเยอะมาก แล้วก็ติดต่อกลับมาว่า ผลิตภัณฑ์นี้จริงหรือเปล่า ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันมี อย. หรือผลิตภัณฑ์ที่ถูกกฎหมายไหม คนที่บริโภคเข้าไปจะเป็นยังไง”.