'ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์' เป็นอีกหนึ่งคนที่พูดออกมาแต่ละประโยค Thairath Talk ก็รู้ได้เลยว่าความคิดความอ่านไม่ธรรมดา ตกผลึกมากๆ ในวัย 38 ปีของเขา เรามีโอกาสได้นัดคุยกับเขา เขามาในมาดหนุ่มหล่อ สุขุม ดูอบอุ่นเกินกว่าตอนให้สัมภาษณ์อยู่หน้าแบ็กดรอป เราคาดหวังว่าเราจะได้รับความตลกจากเขาเช่นกัน แต่ผิดคาดเมื่อเขาลากเราไปดราม่า ในช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิต พูดแต่ละประโยค สะท้อนมุมมองความคิดอ่านที่ชวนให้เราต้องคิดตามทุกประโยค
นอกจากนี้เขาคือผู้ชายมองโลกด้านบวก และไม่เคยพูดให้ร้ายใคร เน้นย้ำว่าทุกสิ่งที่พูด หากเป็นการพูดถึงบุคคลที่สาม อย่าหวังจะหลุดออกมาจากปากเขา เพราะไม่มีประโยชน์แก่ผู้ใด เขาว่าอย่างนั้น...
Thairath Talk คุยอันคัตชีวิตเขา รับรองคุณไม่เคยได้ยินที่ไหน ที่เดียว ไทยรัฐทอล์ก
My Ambulance : 'ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์'
...
Thairath Talk : My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน
รับบทเป็นหมอเป้ง แพทย์ฉุกเฉิน แพทย์ที่ถึงตัวคนไข้ก่อนคนแรก กู้ชีวิตแล้วค่อยส่งไปแผนกอื่น ไม่ให้คนไข้เสียชีวิต
Thairath Talk : บอกไม่รับละคร
ตอนแรกเขาบอกว่าเป็นซีรีส์ ตอนนี้เขาบอกเป็นละครแล้วนะ ไม่ทันแล้ว
Thairath Talk : ซีรีส์เป็นละครต่างกันอย่างไรครับ
ละครมีเมโลดราม่า การแสดงวิธีกล้องไม่เหมือนกัน ละครคือกว้าง จับเรา จับแคบทีละคน แต่กล้องเลือกใช้กล้องให้คนดูดูแตกต่างกัน ดอลลี่เข้า มีไดนามิกของซีน
Thairath Talk : เรื่องนี้มีความสามารถพิเศษด้วย
ใช่ครับ สามารถทะลุกำแพงได้ ผมกับใหม่เป็นแฟนกันในเรื่อง ถ้าเกิดเขาอยากให้ผมมาหา ผมจะทะลุกำแพงมาหาเลย
ชีวิต 'ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์'
Thairath Talk : ช่วงนี้เป็นช่วงที่หนักที่สุดในชีวิต
น้ำหนักเหรอครับ ไม่ใช่ครับ แต่เรื่องประสบการณ์ชีวิตคือการเรียนรู้ ค่อยๆ เรียนรู้ไป
Thairath Talk : เป็นช่วงที่เอาอยู่ไหม
มันเหมือนคงที่มาตลอด คือถ้าเราไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ตัวเอง ชีวิตก็ไม่เดือดร้อน อะไรที่เป็นปัญหาให้คนอื่นหรือตัวเองก็ไม่ควรทำ
Thairath Talk : มีภาพอย่างวันนี้ไหมว่าจะประสบความสำเร็จ การงานมั่นคง มีคนรักขนาดนี้
ผมยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้ประสบความสำเร็จหรือเปล่า ไม่คิดเลยว่าเราไม่มีหลักการ ไม่ได้วางแผนชีวิตเลย เราอยากทำอะไร ให้ชะตาชีวิตมันพัดพาเราไป ไม่ฝืนไม่ได้อยู่ดี พัฒนาตัวเองในทุกเรื่อง ในสิ่งที่ตัวเราอยากทำ เป็นหลักอิทธิบาท 4 เรียนธรรมะด้วย
กว่า 14 ปีในวงการ - ผลงานมาสเตอร์พีซ
Thairath Talk : ภาพยนตร์ 11 เรื่อง ซีรีส์ 10 เรื่อง กับ 14 ปีในวงการบันเทิง
มันเหมือนหลักอิทธิบาท 4 ถ้าเราสงสัยในสิ่งไหน เราก็พยายามพัฒนาให้มันดี เราสนใจก็พัฒนามัน ผมโชคดีที่เราเจอสิ่งที่แบบ ก่อนหน้านี้ผมรู้แค่ชอบกินอะไร ชอบไปไหน ไม่รู้เลยว่าอาชีพที่ชอบ ความเป็นนักแสดงคือการพัฒนาเข้าใจตัวเอง ต้องรู้แก่นแท้ เรียนมาต้องปฏิบัติให้ได้ ไม่ใช่ฝึกความเป็นมนุษย์ อารมณ์มันต้องละเอียดอ่อน ถ้าข้ามความละเอียดอ่อนนี้ไปเป็นความเคยชิน
...
ถ้าเราท่องกับคิดขึ้นมาพูดไม่เหมือนกัน บางทีโดนบ่นว่าผมไม่ท่องบท ผมอ่านมาแล้วผมเข้าใจ พอผมเป็นตัวละคร ผมคิดขึ้นมาพูด ไม่ได้จำมาพูด มันออกทางแววตาและสีหน้า ผมท่องมาพูดไม่ได้ ต้องฝังไปในตัว
Thairath Talk : เวลาอยู่กับบทคุณจะอยู่กับมันมาก
ใช่ ต้องคิดเหมือนตัวละคร ต้องเข้าใจตัวเองให้ได้มากที่สุด ทุกความรู้สึก รู้ว่าเราจะเปิดออกมาเมื่อไหร่ มันอยู่ทุกส่วนในร่างกาย
Thairath Talk : หนังไม่ใช่มาสเตอร์พีซของคุณ
มันแค่ช่วงเวลานั้นเราทำได้ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น เราทำอีกไม่ได้แล้ว เพราะมันผ่านช่วงเวลานั้นไปแล้ว อย่างเพื่อนสนิท เราทำแววตาแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะมันผ่านอายุของความไร้เดียงสาช่วงนั้นไปแล้ว มันกลับไปไม่ได้
Thairath Talk : แต่ละบทบาทนับหนึ่งใหม่ เป็นนักแสดงไม่ง่ายใช่ไหม
ผมไม่รู้ ผมว่าไม่มีอาชีพไหนง่ายในโลก คนที่เขารักมัน มันจะจริงใจ เรียนรู้และพัฒนา ไม่ง่ายหรือง่าย คุณต้องลองเอง
Thairath Talk : มีช่วงไหนในอาชีพงานที่มันดาวน์สุดในชีวิต
...
ตั้งแต่เจอการแสดงไม่เคยรู้สึกดาวน์เลย โชคดีมาเสมอ มีคนให้โอกาสที่ดีตลอด เจอทีมงานที่เก่ง คนรอบข้างเก่ง มีหนังดีๆ ให้เล่น เวลาผู้กำกับให้เกียรติผมไม่เล่น ผมดีใจ
Thairath Talk : มีบทไหนที่ซันนี่ยังไม่ได้เล่น
มันไม่เกี่ยวกับมีบทไหนที่ผมไม่ได้เล่น แค่มันเป็นบทที่ดี เราเป็นแค่ส่วนประกอบ เป็นจุดที่มันเติมเต็ม เวลาที่ผมอ่าน ผมเห็นถึงความรักในนั้น เขาเขียนมาเพื่อเล่าเรื่องแบบนี้แน่ๆ
Thairath Talk : แสดงว่างานมันอินอยู่ในสายเลือด
ไม่ทราบเลยครับผม ผมสนใจมันโดยไม่รู้ตัว ทำมาตั้งแต่เพื่อนสนิท ไม่มีวันไหนผมขี้เกียจออกกองภาพยนตร์หรือการแสดง เวลามีปัญหา พอมาเป็นตัวละคร มันไม่มีอุปสรรคสำหรับผมเลย เป็นการเบี่ยงเบนโดยไม่รู้ตัว มันทำอะไรผมไม่ได้เลยระหว่างผมเล่น ดูขี้โม้มากเลย (ยิ้ม)
Thairath Talk : อนาคตสำหรับคุณในวงการ
ไม่ทราบฮะ ผมมีอาชีพเดียวคือนักแสดง ผมจะแสดงจนกว่าไม่มีโอกาส ทำเป็นอยู่อย่างเดียว ไม่รู้ถนัดหรือเปล่าด้วยซ้ำ เรารักที่จะทำซ้ำ ทำจนกว่าคนไม่ให้โอกาสผมทำ
Thairath Talk : รางวัลการันตีความสำเร็จ
มันคือการที่คนชื่นชมในอีกแง่นึงมากกว่า กลุ่มคนดูชอบ กรรมการแจกรางวัลเป็นคนศึกษาเรื่องนี้มา มันคือการชื่นชม หนังได้ร้อยล้านก็คือรางวัลนึงอะ ไม่กดดัน เราไม่ได้เล่นเพื่อรางวัล เราต้องหาจุดที่ดีที่สุดเพื่อภาพยนตร์เรื่องนั้น เพราะเราเป็นส่วนประกอบ
Thairath Talk : ในช่วงเวลา 13-14 ปี มีไหมครับที่ซันนี่หลงระเริงกับชื่อเสียง
ผมเข้าชิงเพียบเลย ได้มาเรื่องเดียวเอง เพราะหนังมันเป็นหนังทรงรางวัล ถามว่ามีหลงระเริงไหม มันมีหลายๆ ช่วงฮะ เมื่อก่อนคนก็ไม่รู้จักก็มี มีช่วงหลังๆ คนรู้จักมากขึ้น ไปสนามบินก็รู้สึกว่าผมเป็นลุงตู่ หลังๆ ก็เท่านั้นเอง สงสัยโฆษณาจะเยอะ แต่หนังได้ตังค์ เราก็ดีใจ หนังได้รางวัลมันแฮปปี้แค่บางกลุ่ม แต่ถ้าหนังได้ร้อยล้าน แฮปปี้ตั้งแต่พี่ยาม ไม่ว่าแผนกอะไรก็ตามชื่นมื่นกันหมด เป็นความรู้สึกที่หาไม่ได้ ขอบคุณครับที่มีการจ้างงานเกิดขึ้น แต่ผมรู้สึกไม่เคยคิด รู้สึกเรื่องเดียวว่าถ้าเราตั้งใจทำดีถูกต้อง มันจะทำให้เราได้ดี ไม่อับจน
...
ความคิดดี มันอยู่ในสายเลือด
Thairath Talk : คุณได้วิธีคิดแบบนี้มาจากไหน
ทุกอย่างมันหล่อหลอม จากเจอเพื่อนติงต๊อง ตัวเรา พ่อแม่พี่น้อง สิ่งที่เราเจอ คนที่เราไม่สามารถคบหาเขา ถ้าเราเข้าใจเขา มันสามารถมองหาสาระจากมันได้ พูดเหมือนผมมีสาระเลยนะ จริงๆ อาจจะปัญญาอ่อน ดีที่สุดคือเราเชื่อในสิ่งที่ถูกต้อง เชื่อในความดี
Thairath Talk ถ้าย้อนได้อยากแก้ไขอะไรในชีวิต
จริงๆ ไม่อยากย้อนเลย สักนิดเลย ไม่อยากแก้อะไรเลย ถ้าย้อนไปได้ แต่ไม่แก้ ผมแค่อยากรู้ เรียนรู้เวลานั้นมันคืออะไร
Thairath Talk : ถ้าไปในอนาคตได้ ซันนี่อยากไปไหม
จริงๆ ไม่อยากไปเลย ไม่อยากรู้ก่อน เหมือนดูดวง เหมือนครึ่งนึง เราตัดสินใจ ถ้ารู้ก่อน เราก็จะไปในทิศทางนั้น จริงๆ มันอยากจะผิดก็ได้ จะอยู่กับสิ่งที่เป็น เป็นอะไรก็เป็น ทำให้เรามีชีวิตแย่ลง เสียใจ ผมทนได้ เพราะผมคือ Dark Knight
ผมสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำดีมีประโยชน์ต่อคนอื่นได้ เสียสละตัวเองเพื่อคนอื่นบ้าง เอาแต่ด้านดีให้ชีวิตเขาพัฒนา เขาจะด่าผมเกลียดผมก็ได้ ถ้าเขาจะดีขึ้นได้ ผมก็ว่าคุ้ม มันมีประโยชน์กว่าที่ผมจะด่าเขาคืน จริงๆ ผมด่าเขาคืนอยู่แล้วในใจ คุณไม่ต้องกลัว ถ้าวันนึงคุณรู้สึกว่าชีวิตคุณดีขึ้นได้ คุณด่าผมได้เลย
Thairath Talk : เมื่อก่อนซันนี่ทำเพื่อตัวเอง ตอนนี้อยากทำอะไรให้คนอื่นมากกว่าตัวเอง
พอผมโตขึ้นผมค่อนข้างเซนซิทีฟได้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในทางที่เราถนัด คงไปวิ่งแบบพี่ตูนไม่ได้ เราอาจทำได้สิ่งเล็กๆ สิ่งนึง แต่เป็นการพลิกชีวิตคนอื่นก็ได้ ด้วยการเจอคนที่เดือดร้อน มองให้มากกว่าเดิม เมื่อก่อนผมมองอายุ 50-60 ปี ผมตายก็ได้ แต่ตอนนี้อยู่แล้วทำอะไรให้คนอื่นได้ มันคุ้มอยู่ต่อได้
Thairath Talk : เคยมีคนบอกกับซันนี่ว่าคุณมองโลกสวย
จริงๆ ผมงงมากกับคำว่าโลกสวย ทำไมโลกมันจะสวยไม่ได้ พี่เบิร์ดยังบอกเลย โลกสวยถ้าเรามาช่วยกัน อยากให้โลกที่เราฝันใฝ่ จะสวยอย่างไร เป็นไปได้ด้วยมือของเรา
Thairath Talk : ถ้ามีคนเดินมาขอแรงบันดาลใจจากคุณจะบอกอะไรเขา
ไม่รู้จะบอกอะไร สิ่งที่ผมพูดมาตลอดรายการคุณไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ แต่ยึดในสิ่งที่ถูกต้อง ทุกคนมีหลักการของตัวเอง แน่วแน่ในสิ่งนั้น คนอื่นอาจพูดให้เขวได้ แต่เราต้องแน่วแน่ในทางของคุณ และถูกต้องด้วย
Thairath Talk : การแน่วแน่ไปสู่ความฝัน ยากไหม
ไม่รู้ยากหรือเปล่า มันต้องมีทั้งหมด สิ่งที่หล่อหลอม โชคชะตา และความเข้มแข็งของเรา
Thairath Talk : เวลาที่เราท้อแท้ไม่ไหวแล้ว ซันนี่แนะนำหน่อย
ถ้าคุณรักมันจริง คุณไม่พูดคำนี้หรอก คุณจะไปถึงเป้าหมายจริงๆ ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรมาคุณก็จะดันทุรังไป เหมือนทำดีแล้วไม่ได้ดี แต่สักวันมันก็ต้องได้ดีในสิ่งที่เราทำ
14 ปี คำถามที่ ซันนี่ที่ไม่อยากตอบ
Thairath Talk เจอคำถามไหน แล้วคุณไม่ชอบ ตลอดระยะเวลาทำงานมา 14 ปี
ให้พูดถึงคนอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเรา ผมรู้สึกว่าไม่อยากตอบ ให้เขาตอบเอง หรือเรารู้อะไรมา ผมไม่อยากเป็นชาวเน็ตเลย ไม่ทำให้ชีวิตใครดีขึ้น
Thairath Talk : จุดเปลี่ยน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตผม ผมรู้สึกว่าการล้มละลาย มันทิ้งความเป็นเด็ก เราต้องแข็งแกร่งแค่ไหนที่เราจะไปต่อ เราเคยมีคนช่วยเหลือมาตลอด เราต้องแข็งแกร่งด้วยตัวเราเอง
Thairath Talk : Priority หลักของซันนี่คืออะไร
รวมทุกเรื่องเหมือนกัน ส่วนมากเป็นเรื่องชีวิตเรา ทำสิ่งที่เราอยากทำ ครอบครัวคือสิ่งที่ทิ้งไม่ได้ และเลือกพยายามช่วยคนอื่นให้มากขึ้น
ติดตามรายการฉบับเต็มได้วันจันทร์ที่ 16 ก.ย.
เวลา 18.00 น. ห้ามพลาด