ปิดเพื่อเปิดใหม่ ให้ไฉไลยิ่งกว่าเดิม ปิดโรงเดิม เฮาส์อาร์ซีเอ HOUSE RCA แล้วทุ่มทุนเปิดโรงหนังใหม่ เฮาส์สามย่าน HOUSE SAMYAN ที่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ Samyan Mitrtown เดินทางสะดวกจริง ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามย่าน

บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปคุยๆ กับสองผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง วิสัยทัศน์ดีมาก น่าสนับสนุนจาก อุ๋ย ชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ (ทายาทพันล้านของเสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) และ จ๋อง พงศ์นรินทร์ อุลิศ ผู้บริหารโรงภาพยนตร์ เฮาส์สามย่าน HOUSE SAMYAN

15 ปีที่ผ่านมา ของโรงหนังเฮาส์อาร์ซีเอ HOUSE RCA เป็นอย่างไรบ้าง ทั้งด้านรายได้และความสำเร็จ?
อุ๋ย : เอาเป็นทางด้านจิตใจนะคะ ถ้าเป็นทางด้านจิตใจ ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆ จริงๆ โจทย์ตั้งแต่ต้นก็คือ การตอบเรื่องความรู้สึกว่า เราอยากทำโรงภาพยนตร์ที่ฉายหนังทางเลือก เป็นหนังสนุก หนังดีแต่อาจจะไม่ใช่หนังภาษาอังกฤษ หรือเป็นหนังที่ใหญ่ในต่างประเทศ แต่อาจจะเล็กในบ้านเรา และก็ได้ทำ เราเห็นคนมาดู และคนก็ชื่นชอบในโรงของเรา แล้วก็ผู้ชื่นชอบก็มีจำนวนเยอะขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเราก็ฟูลฟิล (fulfill เต็มเติมความรู้สึก) แล้วแต่ถ้าเชิงไฟเนียลเซียล (financial ด้านการเงิน) บอกตรงๆ ว่ายังไม่ใช่โรงที่สร้างกำไรใดๆ ค่ะ

จ๋อง : มันคือสุดยอดแล้ว เห็นด้วยกับคุณอุ๋ยทุกประการ


ความประทับใจที่ไม่เคยลืมของ เฮาส์อาร์ซีเอ HOUSE RCA?

จ๋อง : เราสองคนฝันถึงโรงหนังที่ไม่เคยมีมาก่อน โรงหนังที่ฉายหนังแบบนี้ (หนังนอกกระแส) เป็นโรงหนังเล็กๆ ที่โรงหนังใหญ่ๆ เขาไม่ได้สนใจอะไร ดังนั้นเมื่อเราฝันแล้วเราได้ลงมือสร้างมันขึ้นมา และมันก็เกิดขึ้นได้จริง นั่นคือความประทับใจแรก คือความประทับใจมากที่สุด เมื่อพอเวลามันผ่านไปแล้ว มันก็ไม่ได้พูดชัดเจนมาก แต่เมื่อเราลองนึกภาพก่อนหน้านี้ 15 ปีที่แล้ว มันยังไม่มีโรงหนังแบบนี้อยู่สิ การที่เราทำกัน คนอื่นคงเรียกได้ว่า มันคือความกล้าหาญ เด็กบางคนอาจจะพูดว่าบ้าก็ได้ เพราะฉะนั้นวันแรก ที่เราได้เห็นโรงหนังเปิด แล้วมีคนมาดูมาใช้บริการ มันคือความประทับใจ ที่เราเอาอะไรมาแทนไม่ได้

...

อุ๋ย: มันคือความประทับใจ ที่ไม่มีอันไหนมากลบได้

เฮาส์อาร์ซีเอ House RCA ประกาศปิดไปแล้ว ในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ พอเราย้ายไปสามย่าน แล้วจะมีโอกาสได้กลับมาเปิด เฮาส์อาร์ซีเอ House RCA อีกมั้ย

อุ๋ย : คือจริงๆ แล้วถ้าเราตัดสินใจที่จะปิดแล้วเนี่ย มันเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก เราพยายามกันแล้ว ที่จะทำทุกอย่างกันแล้วเพื่อให้ เฮาส์อาร์ซีเอ House RCA ยังเปิดอยู่คู่กับเฮาส์สามย่าน แต่ว่าด้วยเหตุผลทุกประการ

จ๋อง : เราไม่ได้คิดกันเองสองคนด้วย พ่อของอุ๋ย (เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ประธานบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด) เองยังพูดเลยว่า จะปิดทำไม

อุ๋ย : สำหรับพ่ออุ๋ย คงบอกว่าเปิดไปเถอะอย่างนี้ แต่ว่ายังไงก็ตามเราก็อยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง คือเอาจริงๆ โจทย์ของเราตั้งแต่ต้นคือ อยากจะเปิดโรงภาพยนตร์ เพื่อให้คนได้ดูหนังแบบนี้ในประเทศไทย แล้วการที่เรามาสามย่าน ก็ตอบโจทย์ตรงนี้อยู่นะ เพราะฉะนั้นจริงๆ ถ้าเราทำ แล้วอยู่รอดไม่ได้ในระยะเวลานาน มันจะไม่ตอบโจทย์เรามากกว่า เลยต้องเลือกที่จะปิด เฮาส์อาร์ซีเอ House RCA ค่ะ

จ๋อง : คือมีสองที่ในแง่ของรายได้ ไม่น่าจะดี มันแบ่งกันแล้วจะแบบดึงกันเอง เราเลยตัดสินใจที่ปิดที่อาร์ซีเอไป แต่ก็จะเป็นการตัดสินใจที่ยากเย็น เพราะเราก็ผูกพันกับที่นี่มากเหมือนกัน คือจากใจก็ยังไม่ได้อยากปิด ยังมีคิดบ้างบางครั้งว่า หรือเราไม่ต้องปิด

งบลงทุนการสร้าง เฮาส์สามย่าน HOUSE SAMYAN?
อุ๋ย : เยอะมาก แล้วก็สูงกว่าตอนที่เราอินเวสต์ (invest ลงทุน) ของอาร์ซีเอ RCA
จ๋อง : เยอะเกินกว่าที่เราคาดหวัง เยอะหลายเท่า

เราคาดหวังอะไรกับ เฮาส์สามย่าน HOUSE SAMYAN กันบ้าง?
อุ๋ย : โจทย์ที่หนึ่งของการตอบโจทย์ปัญหาของ เฮาส์อาร์ซีเอ House RCA คือสิ่งที่เราได้ยินมาตลอดก็คือเรื่องของโลเคชั่น (location สถานที่ตั้ง) ที่ไกล เดินทางไม่สะดวก ค่าเดินทางแพงกว่าค่าตั๋ว แล้วเราได้ยินอย่างนี้มา 15 ปี ซ้ำๆ ตลอดเวลาทุกช่องทาง ซึ่งเราว่าโจทย์ที่หนึ่ง และเป็นโจทย์เดียวใหญ่สุด ที่เราย้ายไปสามย่านก็คือเหตุผลนี้

จ๋อง : เหตุผลเดียวเลย คือถ้าอาร์ซีเอ RCA เดินทางยาก วันหนึ่งเรามีโอกาสได้ย้ายไปกลางเมืองที่สามย่าน โจทย์นี้ปัญหานี้มันก็น่าจะหมดไป งั้นก็เลยย้ายแล้วกัน ทั้งที่เต็มไปด้วยความยากและความเสี่ยงแล้วก็ยาก ยากในแง่ของจิตใจที่ไม่เคยคิดที่อยากจะย้าย สองต้องมาลงทุนอีกตั้งเท่าไหร่ แล้วเป็นหนี้กันไปอีกนาน จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ช้อยส์ (choice ทางเลือก) ที่ดีของทางธุรกิจด้วยซ้ำอยู่ที่เดิมเซฟ (save ปลอดภัย) กว่าแน่ๆ

เมื่อพอไปแล้วเราต้องไปลงทุนใหม่อีกมากมาย มันเสี่ยงนะ โอกาสมีแต่มันเสี่ยง และเป็นความเสี่ยงที่สูงด้วย แต่ที่เลือกทำก็เพราะว่า คนดูที่พูดมาตลอด 15 ปีคนนั้น ก็หวังว่าเค้าจะมาดูนะ

อุ๋ย : และก็ตอบโจทย์กลุ่มคนที่ใหญ่กว่า หมายถึงกลุ่มเดิมที่สามารถมาที่อาร์ซีเอ RCA ได้ เราก็คิดว่าถ้าคนดูสะดวกขึ้น สบายขึ้น ปัญหาเหล่านี้หมดไป คนดูก็น่าจะมาที่โรงหนังได้ง่ายขึ้น

จ๋อง : เราอยากให้เค้าได้ดู เราทำโรงหนังนี้ขึ้นมา เพื่ออยากให้เค้าดูหนังประเภทนี้ แต่ที่เราย้ายไปก็เพื่อให้พวกเค้ามาดูได้สะดวกขึ้น นั่นคือความคาดหวังของเรา

หลังจากที่เปิด เฮาส์สามย่าน HOUSE SAMYAN แล้วคิดว่ามีแพลนจะเปิดเฮาส์ House ที่อื่นอีกมั้ย?
จ๋อง : ยังไม่มี ยังไม่ได้คิด เพราะก่อนหน้านี้ 2 ปี เราก็ยังไม่ได้คิด คือมันบังเอิญตรงที่สามย่านมิตรทาวน์มาชวนเรา เดิมเราไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะเอายังไงจะไปไหน เราไม่เคยคิดอะไรเลยเพราะเราชอบที่นี่ และในแง่ทางธุรกิจเราเห็นความเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ความจริงมันดีขึ้นเรื่อยๆ นะ แต่เมื่อสามย่านมิตรทาวน์มาชวนเรา ก็เห็นว่าเป็นโอกาสดีอย่างที่บอกไปเราเลยไปดีกว่า

อุ๋ย : จริงๆ เส้นชัยของเราก็คือ คนมาดูเยอะๆ คือเรามีความเชื่อกันว่า มีคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใหญ่จำนวนหนึ่ง ที่อยากดูหนังแบบนี้แต่ดูไม่ได้ เราว่าเหตุผลที่เลือกที่จะทำ และคิดที่จะทำต่อไป ก็เพราะเราอยากจะทำตามโจทย์และความเชื่อที่เรามีอยู่ และเราก็แค่เชื่อว่า 15 ปีเค้ามาไม่ถึงที่นี่ เพราะเดินทางมายาก มาไม่ได้ แต่เราก็ย้ายไปแล้ว เค้าก็น่าจะมาถึงง่ายขึ้น แล้วเราก็เชื่อว่าแค่ที่นี่คนมาดูเยอะๆ เราก็โอเคแล้ว ไม่ได้คิดเรื่องการขยายไปมากกว่านี้เลย

...

จ๋อง : คิดว่าต่อจากนี้ภายใน 5 ปีไม่น่ามีสาขาเพิ่มแน่นอน แต่ก็เผื่อไว้ไม่แน่ภายใน 5 ปีต่อจากนี้ อาจจะมีโอกาส แต่ต้องให้หนี้ก้อนนี้หมดก่อน แล้วถ้าหนี้ก้อนนี้มันหมดไปในวันหนึ่งแล้ว เราอยู่ในวัยชราที่อยากมีหนี้กันใหม่ ก็ต้องคิดกันอีกทีหนึ่ง

ผู้ชมจะได้เจออะไรบ้างที่ เฮาส์สามย่าน HOUSE SAMYAN?
จ๋อง : ข้อแรกเราต้องพูดเรื่องคาแรกเตอร์ คือคอนเทนต์ยังเรื่องเดิม คือยังคงเป็นหนังที่หาดูจากที่อื่นยาก แต่จำนวนโรงเยอะขึ้นแน่ๆ หนังมันก็จะเยอะขึ้น

อุ๋ย : เราก็พยายามทำช่องทาง ที่ทำให้ผู้คนเข้ามาหาเราได้ง่ายขึ้น อย่างเมื่อก่อนเราอาจจะคอนเซอร์เวทีฟ (conservative) นิดหนึ่ง การที่จะดูรอบละที ต้องเฟซบุ๊กโทรมาถาม หรือว่าจะจองตั๋วทีก็ต้องมาที่หน้าช่องขายตั๋ว และจ่ายใช้ได้แต่เงินสด เราก็พยายามสร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้ามากขึ้น เราก็พยายามที่จะสร้างแอป มีการจองทางมือถือได้ จ่ายเงินผ่านทางมือถือได้ ใช้เครดิตการ์ดได้เพื่อความสะดวกของทุกคน

จ๋อง : เรามีกิจกรรมพิเศษมากขึ้น มีโปรแกรมพิเศษมากขึ้น ฉายหนังที่บางคนอาจจะโตไม่ทันดู มีการทำเทศกาลหนังต่างๆ กลับมาทำขยันขันแข็งใหม่ ก็น่าจะเป็นความสุขที่เพิ่มขึ้นของคนดูเรา และเป็นเรื่องของการเดินทางที่สะดวกขึ้น อันนี้สำคัญมาก กับการที่อยู่ตรงไหนก็เข้าถึงได้มากขึ้น ผ่านรถไฟฟ้าใต้ดิน และอยู่ในห้างก็คงไม่เหงา ทำให้มีชีวิตชีวามากขึ้น และอยู่บนบรรยากาศที่เปลี่ยนไป เพราะโรงหนังไปตั้งอยู่บนที่ใหม่ มันก็น่าจะมีดีไซน์ มีหน้าตาที่ดูเฟรช fresh มากขึ้น มันคือการรีเฟรช refresh บรรยากาศใหม่ๆ แต่ยังได้บรรยากาศเดิมๆ ของเฮาส์ House อยู่

อุ๋ย : เราก็ยังคงเดิม ยังเป็นคาแรกเตอร์เดิม ฉายหนังแบบเดิม พูดจาภาษาเดิม เป็นคนเดิมนั้นคือสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปแน่ๆ อยู่แล้ว

...

จ๋อง : เรายืนยัน ไม่ได้ย้ายที่เพื่อที่จะเปลี่ยนนิสัย เราเปลี่ยนสถานที่แต่ไม่ได้เปลี่ยนจุดยืน เราก็ยังมีจุดยืนของเรา ยังทำแบบเดิม จุดยืนเดิม บุคลิกเดิมมันอยู่แค่บ้านใหม่ หน้าตาใหม่เท่านั้นเอง.

...