แม้ว่า แก้ว อภิรดี กับ อ๊อด โอภาส จะเลิกรากันนานแล้ว แต่ทั้ง 2 คนก็ยังดูแลกันอยู่เพราะเป็นครอบครัวเดียวกัน ช่วยกันดูแลลูก แต่แค่ไม่ได้คงสถานะสามีภรรยาเท่านั้นเอง และ อ๊อด โอภาส นั้นก็ได้ป่วยเป็นโรคข้อต่ออักเสบมานานกว่า 10 ปี ซึ่งโรคนี้นั้นเป็น 1 ใน 200 โรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ โดย แก้ว รู้สึกสงสารอดีตสามีเป็นอย่างมากที่ต้องมาป่วยด้วยโรคนี้ ตนเองกับ น้องเบลล์ เลลาณี ลูกสาว ยังคงช่วยกันดูแลกันเสมอมา ไม่เคยทอดทิ้งใดๆ หมั่นไปดูแลเป็นประจำ โดย แก้ว อภิรดี ได้บอกว่า

"โรคของพี่อ๊อดเป็นโรคที่ยังไงก็รักษาไม่หาย เป็น 1 ใน 200 โรคที่ถือว่าไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ แต่ว่าประคับประคองให้ไม่แย่มากดีกว่า นี่คือทำได้ดีที่สุดตรงนี้ ซึ่งถ้าพี่อ๊อดดูแลตัวเองตรงนี้น้อยเกินไป มันก็จะหนักขึ้น คือหนักตั้งแต่อัมพาต อัมพฤกษ์ หรือเกิดอุบัติเหตุแล้วมีปัญหาไปเลย

เพราะว่าภูมิเขาทำงานผิดปกติ ภูมิเขาทำให้กระดูกทุกส่วนในร่างกายมันต่อติดกันเลย ซึ่งอันนี้อันตรายมาก อย่างเวลาขับรถหันซ้าย หันขวาเขาก็จะลำบาก แต่ยังไงตัวเราก็ต้องช่วยตัวเองด้วย เขาก็ดูแลตัวเองอยู่เรื่องกายภาพบำบัด แต่ที่แน่ๆ คือทั้งลูกและตัวแก้วเองก็ยังคอยดูแลอยู่ค่ะ"

...

ได้ไปช่วยดูแลยังไงบ้าง?

"พี่อ๊อดจะปรึกษาเราตลอดนะคะ คือเราไม่ได้เป็นครอบครัวที่ไม่ใช่ครอบครัว(ยิ้ม) คำว่าครอบครัวไม่ได้แปรเปลี่ยนไปไหน แต่คำว่าสามีภรรยาต่างหากล่ะที่เปลี่ยนไป แต่ในหน้าที่ของคุณพ่อก็ยังคงเหมือนเดิม หน้าที่ของครอบครัวคือพ่อแม่ลูกก็ยังคงเป็นสถานะเดิม

เราแค่เปลี่ยนสถานะในส่วนของสามีภรรยาเท่านั้น เพราะฉะนั้นความรักความผูกพันในส่วนที่จะต้องดูแลเกื้อหนุนกัน มันเยอะกว่าเพื่อนอยู่แล้ว (ยิ้ม) ขนาดเพื่อนเรายังดูแลเลย แล้วนี่เขามากกว่าเพื่อนนะ แค่ไม่ได้เป็นสามี ทำไมเราจะดูแลไม่ได้"

ได้ไปดูแลบ่อยไหม?

"ปกติเลยค่ะ เป็นเรื่องหนึ่งในชีวิตเราเลย แต่ก็เป็นการดูแลเบื้องต้น เพราะเขายังไม่ได้หนัก แต่ถ้าเขาหนักก็จะถึงเรา พี่อ๊อดเขาจะเป็นคนไม่ค่อยพูด ถ้าเขาแย่เขาถึงจะพูด แล้วบ้านเขาก็อยู่หลังบ้านแก้วนี่เอง เหมือนแค่เอามือผลักรั้วก็เจอกันแล้ว(หัวเราะ)

เลยไม่ได้ยากอะไรที่จะดูแล อาหารการกินคนทำงานบ้านแก้วก็ดูแลเขาอยู่ตลอด ลูกก็ได้เจอกันอยู่สม่ำเสมอ แต่โดยรวมถ้าแกแย่จริงๆ ก็ต้องบอกอยู่แล้ว เพราะที่พึ่งของแกก็มีแค่พวกเรา"

อ๊อดเขามีแอบเกรงใจแก้วบ้างไหม เพราะแยกตัวออกมาแล้วด้วย?

"อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ แต่จริงๆ สนิทกันขนาดนี้แล้วก็ไม่น่าที่จะต้องเกรงใจ ถ้าเกรงใจแปลว่าต้องรบกวนในสิ่งที่ไม่ถูกต้องใช่มั้ยคะ แต่นี่เรื่องโรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้วที่เราควรจะดูแลกัน และที่สำคัญที่สุดพี่อ๊อดก็ไม่ได้มีแค่แก้วนะคะ นอกจากแก้วและลูก ต๊อด เขาก็ยังใส่ใจห่วงใยด้วยนะคะ

เพราะเขาถือว่าเป็นคนในครอบครัวแก้ว การที่ดูแลคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนที่รักกันหรือแค่คนในครอบครัว ถ้าเรารู้สึกผูกพันกับใครแล้วเขาป่วย เราก็ควรที่จะให้การช่วยเหลือถ้าเราทำได้นะคะ ถึงเราไม่ใช่คุณหมอก็เถอะ แต่เราก็สามารถรวบรวมทรัพย์สินเงินทองเท่าที่เราสามารถทำได้"

ตอนนี้อ๊อดก็ยังใช้ชีวิตได้ปกติใช่ไหม?

"ปกติค่ะ แค่ถ้าอยู่ๆ เขาไม่ได้เกิดอาการอักเสบขึ้นมานะ เพราะโรคภูมิแพ้มันไม่ได้เกิดขึ้นสม่ำเสมอตลอดเวลานะคะ แต่ถ้าช่วงไหนที่ออกกำลังกายในเรื่องของกายภาพน้อยไป หรือแม้แต่เรื่องของความอ้วน เขาก็ต้องคอยดูแลตัวเองตลอด ตัวเขาเองก็ต้องดูแลตัวเองก่อนอันดับแรก

แล้วถ้าหนักจริงๆ คนในครอบครัวก็ถึงดูว่าเขาต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง แต่เดี๋ยวนี้เขามีโลกส่วนตัวเยอะ เราก็อาจจะเข้าไม่ถึงก็ตรงนี้แหละ กลายเป็นนางห้องอยู่ในห้องส่วนตัวเยอะหน่อย อะไรที่อาจจะทันก็อาจจะไม่ทันก็ตรงนี้แหละ ไม่ใช่พวกเราไม่ไปดูแน่นอน"

เขาเครียดไหมที่ทำอะไรไม่คล่องตัวเหมือนแต่ก่อน?

"แก้วว่าเขาเป็นมานานแล้วนะ ไม่น่าจะเพิ่งมาเครียด ถ้าจะเครียดก็น่าจะวัยทองแหละ(หัวเราะ) อันนี้คิดเองนะ วัยนี้แล้วเนอะ คงไม่ใช่วัยทองไม่รู้ร้อนแล้วล่ะ แต่พี่อ๊อดเขาเป็นคนที่ถ้าเป็นมากจริงๆ เขาก็จะบอก แต่ถ้าไม่มากเขาก็อึดอยู่".

...