เป็นพิธีกรฝีปากกล้าและมีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของวงการบันเทิง สำหรับ วู้ดดี้ มิลินทจินดา ล่าสุดรายการ ตีท้ายครัว ทางช่อง 3 ก็ได้พาบุกไปดูบ้านของ วู้ดดี้ ซึ่งบอกเลยว่า ปกติบ้านของตนนั้นเพื่อนๆ จะไม่ค่อยได้มีโอกาสมา จะมาแค่ไม่กี่คนที่รู้จัก และรายการนี้เป็นรายการแรก ที่วู้ดดี้ยอมเปิดบ้านให้ชม

โดยบ้านที่ วู้ดดี้ อยู่นั้นเป็นคอนโดใหญ่ใจกลางเมือง มีสระว่ายน้ำสุดกว้างขวางและห้องฟิตเนสที่อุปกรณ์ครบครัน วู้ดดี้เล่าว่า ช่วงแรกที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ มีห้องโล่งเหลือ 1 ห้อง ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนชอบออกกำลังกายและไม่อยากเดินทางออกจากบ้าน เลยได้นำอุปกรณ์ออกกำลังจากพันธมิตรที่รู้จักมารวมกันบ้าง ซื้อกันบ้าง ก็เลยแบ่งปันให้เพื่อนบ้านได้เล่นเลย ถือเป็นการแบ่งปัน เรามีเพื่อนบ้านอย่าง เนม Getsunova ปกติเค้าไม่ค่อยออกกำลังกาย ก็ลงมาเล่น 

...

เมื่อก่อนตัวเองเป็นสายปาร์ตี้ แล้วที่มาออกกำลังกายเพราะว่าเราส่องกระจกเราเห็นตัวเองมั่นใจขึ้น ไม่ต้องใส่แต่เสื้อผ้าสีดำ ทำให้ประหยัดเวลาไป 10 นาทีในการเลือกเสื้อผ้า 

คอนโดนี้รอมาประมาณ 2-3 ปีกว่า เพราะอยากได้ห้อง ติดต่อมาห้องเต็ม ไม่มีใครขาย จนมารู้ว่าห้องนี้ปล่อยขาย ภายในวันเดียวเราก็เอาเลย หน้าห้องตกแต่งด้วยผนังอิฐและประตูลายสวยเหมือนพระราชวัง ภายในแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน เรียกได้ว่าแตกต่างจากโครงสร้างด้านนอกไปอย่างสิ้นเชิง โดยจุดเด่นของบ้านหลังนี้จะอยู่ที่สัญลักษณ์ตัว W ซึ่งเป็นตัวย่อของชื่อตัวเอง ตอนแรกจะเอา WD แต่ดูมันรกเกินไป เลยเอาแค่ W ตัวเดียวพอ

...

ในบ้านของ วู้ดดี้ นั้นตกแต่งให้เหมือนนิวยอร์กในปี ค.ศ.1935 แบบเหล็กๆ ดิบๆ ในบ้านมีเรือนกระจก เพราะมีโจทย์มาว่าทุกห้องต้องอยากนั่ง ไม่อย่างนั้นถ้าสร้างมาแล้วไม่ได้ใช้มันก็ไม่คุ้ม

มีเรื่องเซอร์ไพรส์มากอยู่เรื่องหนึ่ง ให้เงินช่างตกแต่งไปก้อนหนึ่ง แล้วบอกว่า ตกแต่งบ้านให้หน่อย เอาแบบเซอร์ไพรส์นะ ผ่านไป 1 ปี เซอร์ไพรส์กว่าเพราะงานไม่คืบหน้าอะไรเลย ตอนนั้นตนเองเครียดมากถึงขั้นโทรตามแฟนจากสิงคโปร์แล้วร้องไห้ ให้กลับมาช่วยตกแต่งบ้านให้หน่อย ไม่งั้นมันไม่เสร็จ เค้าใช้เวลา 3 เดือนจัดการให้ ใช้เงินไป 10 ล้านบาท 

...

นอกจากนี้ วู้ดดี้ ยังได้เล่าวินาทีที่เจอ โอ๊ต อัครพล ครั้งแรกให้ฟังว่า รู้จักกันมานานแล้ว แต่คบกันเป็นแฟนก่อนไปต่างประเทศประมาณ 4-5 ปี รู้จักกันตั้งแต่ชั้นประถม โอ๊ตเป็นรุ่นน้อง 2 ปี เป็นน้องชายของเพื่อนตนเอง มีรูปด้วยกันตั้งแต่ประถมเลย มาชอบกันจริงๆ ตอนอายุมากแล้ว 

...

โอ๊ต เป็นคนเดินเข้ามาทักก่อนในงานแต่งงานของพี่ชาย ถามว่าจำได้มั้ย จากนั้นก็ชอบโอ๊ตเลยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพิ่งเข้าใจเลยว่า มันเจอใครแล้วมันสั่นไปทั้งตัวเป็นยังไง ปกติโอ๊ตเป็นคนที่ไม่จีบใคร การที่เค้าเดินเข้ามายื่นแชมเปญให้แก้วนั้นต้องอาศัยความกล้าเป็นอย่างมาก 

ช่วงที่ โอ๊ต ต้องกลับไปทำงานที่สิงคโปร์ ก็จะเปิดเฟซไทม์แช่ไว้ทั้งคืน ไม่ปิด คือนอนเฝ้ากันตลอด นอนฟังเสียงกรนของกันและกัน ตื่นมาก็จะเจอหน้ากันและกัน 

ในช่วงนั้นเรายังไม่ได้ประกาศว่าเราเป็นอะไรอย่างแท้จริง แต่เพื่อนก็รู้ว่าเราเป็นแฟนกัน เพราะเราออกไปเที่ยวเล่นกันปกติแต่แค่ไม่ได้ออกไปประกาศ เวลาไปห้างก็ไม่ได้จับมือกัน ก็ต้องแอบๆ คือเราเป็นห่วงความรู้สึกพ่อแม่มากกว่าว่าเค้าจะคิดยังไง เพราะเรายังไม่คุยกับเค้า แต่แค่พ่อแม่ไฟเขียวก็จบแล้ว 

วันที่บอกท่านก็เชิญท่านไปนั่งกินข้าวแล้วก็บอก คือพ่อแม่เรารู้จักกันมานานแล้วหลายปี ก่อนที่เค้าจะเห็นเราเป็นแฟน เค้าก็รู้จักโอ๊ตมาหลายปี ก็คงคิดว่าคงใช่แหละคนนี้

นอกจากนี้ วู้ดดี้ ยังได้เผยชื่อเล่นจริงๆ ของตัวเอง โดย วู้ดดี้ บอกว่า ชื่อเล่นจริงๆ นั้นชื่อ อ้าย น้องชื่อ เอ๋ย แต่พอไปอยู่เมืองนอกฝรั่งออกเสียง อ้าย ไม่ได้ ก็เลยเรียก วู้ดดี้ ซึ่งมาจากชื่อจริง วุฒิธร นั่นเอง โดยในวันแรกที่กลับมาเป็นดีเจที่เมืองไทย พี่ฉอด สายทิพย์ บอกว่า ถ้าเรียก ดีเจอ้าย มันจะแปลกๆ ยังไงอยู่ ก็เลยให้เป็น ดีเจวู้ดดี้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา