เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน กับคลินิกเสริมความงามของนักร้องลูกทุ่งชื่อดังรุ่นใหญ่ นาง ศิริพร อำไพพงษ์ ที่ได้ควักเงินในกระเป๋าหลายล้านเปิดให้กับลูกสาวบุญธรรม อร อรนภา ดวงดี 

แต่ล่าสุด นาง ศิริพร ก็ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ศิริพร อำไพพงษ์ โดยบอกว่า คลินิกที่ตัวเองได้เปิดไปเมื่อปีที่แล้วนั้นตอนนี้ได้ปิดตัวลงแล้ว พร้อมกับบอกให้หยุดเอาชื่อตนเองไปแอบอ้าง

พร้อมทั้งอัดคลิปบอกว่า คลินิกตัวเองได้ปิดทำการทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะทำโบท็อกซ์หรือฉีดฟิลเลอร์ ตนเองได้แจ้งสาธารณสุขไปแล้ว แจ้งสถานีไว้เรียบร้อยแล้ว ขอโทษลูกค้าทุกคนที่จำเป็นต้องปิด เพราะตนเองนั้นต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ 

...

"แจ้งให้พี่น้องประชาชนและแฟนคลับแฟนเพลงพี่นาง ศิริพร ให้รับทราบ เนื่องด้วยวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมาพี่นางได้ทำการติดต่อแจ้งปิดบริการ พรนิต้าคลินิคเป็นการถาวรไปแล้ว จึงจะไม่มีการดำเนินการให้บริการใดๆ ของพรนิต้าคลินิคอีก

นับตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. 2562 เป็นต้นมา หากมีบุคคลใดที่ไม่ใช่พี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ ดำเนินการให้บริการในนามพรนิต้าคลินิค และถ้าเกิดเหตุการณ์ผิดพลาดใดๆ พี่นางไม่มีส่วนในการกระทำนั้นๆ ถือให้เป็นการกระทำผิดตามกฎหมายของผู้ฝ่าฝืนนั้นไป และจะดำเนินคดีกับผู้แอบอ้างนั้นให้ถึงที่สุด ขอแจ้งให้พี่น้องแฟนเพลงได้ทราบโดยทั่วกันค่ะ"

และในเฟซบุ๊กของ อร อรนภา ดวงดี ลูกบุญธรรมของ นาง ศิริพร ที่ได้เปิดคลินิกเสริมความงามให้นั้น ก็โพสต์ว่า 

"ตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.61 วันแกรนด์โอเพนนิ่งเปิดกิจการซึ่งเป็นเวลาผ่านมาเกือบปี วันนั้นแม่ได้พูดไว้ว่า "แม่ให้หนูดูแลกิจการและขอให้เจริญรุ่งเรืองนะลูก" นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หนูก็ปฏิบัติตามที่แม่สั่งไม่ให้ขาดตกบกพร่อง หนูดูแลลูกค้า หาลูกค้า เพื่อให้มีรายได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายได้ทั้งหมดหักค่าใช้จ่ายเหลือแล้ว หนูได้ทำการโอนเงินเข้าบัญชีแม่ทั้งหมด

อยู่มาวันหนึ่งแม่มีคนเข้ามาในชีวิตใหม่ของแม่ แล้วแม่ก็ทิ้งพวกหนูไป ให้เผชิญชีวิตคิดเองทำเองไปตามยถากรรม พ่อซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 วิ่งเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น หลาน 2 คน 8-9 ขวบที่แม่เคยรัก ก็เฝ้าถามหา หนูก็ไม่รู้จะตอบคำถามกับหลานยังไง ว่าแม่ไปไหน 

แม่ทิ้งพวกหนูไว้ แม่ไม่เคยกลับมานอนบ้าน แม่มีความสุข แม่มีคนเคียงข้าง หนูก็ได้แต่เฝ้ามองว่าสักวันแม่จะกลับมา หนูสงสารพ่อที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 หนูสงสารหลานที่ยังเล็กต้องไปโรงเรียน หนูรู้ว่าชีวิตที่ดำเนินอยู่จะต้องมีค่าใช้จ่ายหนูก็สู้ไม่ถอย แต่มาวันนี้หนูเห็นและทราบดีแล้วว่าแม่คงไม่กลับมาอีกแล้ว

ส่วนกิจการที่แม่แจ้งว่ายกเลิก 31 พ.ค.62 หนูไม่ทราบ หนูเพิ่งทราบเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.62 วันที่แม่โพสต์ให้เห็น ซึ่งระหว่างก่อนหน้านั้นหนูยึดมั่นในคำพูดของแม่ที่พูดกับหนูว่าให้ดูแลกิจการ ทุกสิ่งที่หนูกล่าวสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นจริงทุกประการ".

...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง