กระแสตอบรับดีมากทีเดียวสำหรับละคร "กลิ่นกาสะลอง" ที่งานนี้นางเอกของเรื่อง ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ เจองานหนักต้องเล่นถึง 4 คาแรกเตอร์ แต่เจ้าตัวก็สามารถทำได้ดีจนได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม แต่ก็มีคนจับผิดว่ามีบางฉากที่ญาญ่าพากย์เสียงภาษาเหนือ อีกทั้งบางฉากในละครก็ใช้สถานที่เดียวกันกับละคร "เพลิงพรางเทียน" ที่ออนแอร์ช่วงนี้เช่นกัน นักข่าวเลยถาม ญาญ่า ถึงเรื่องนี้ หลังมาร่วมงานประกาศรางวัล "Daradaily Awards" ครั้งที่ 8 ณ โรงละครเคแบงก์ สยามพิฆเนศ สยามสแควร์วัน
กระแสละคร "กลิ่นกาสะลอง" ดีมาก?
“ดีใจมากเพราะต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เหนื่อยที่สุดเท่าที่เคยเหนื่อยมาค่ะสำหรับการทำงาน โล่งอกมากๆ ดีใจที่คนดูแล้วแยกทั้งสี่คาแรกเตอร์ได้อย่างชัดเจน”
ฉากจะโดนข่มขืนเห็นว่าเล่นเองด้วย?
“เล่นเองเป็นบางส่วนค่ะ ส่วนที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้านั่นไม่ใช่หนู แต่เป็นสตั๊นท์ค่ะ”
เหนื่อยมั้ยกับการเล่นสี่คาแรกเตอร์?
“ก็เหนื่อยนะคะ ตัวร้ายเหนื่อยสุด แรงเยอะทุกอย่างต้องเป็นดั่งใจ หลังออกอากาศไปสองตอน เช็กฟีดแบ็กแล้วดีนะคะ มีแต่คนบอกว่ากินแกงหอยแล้วไปนอนเถอะ อันนี้หนูพูดแบบสุภาพค่ะ (หัวเราะ)”

...
ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ด้วย?
“ใช่ค่ะ ดีใจมากๆ ไม่อยากจะบอกเลยว่าอาทิตย์หน้าสนุกกว่านี้อีก จะมีเรื่องราวที่เข้มข้นขึ้น เข้าพาร์ตอดีต”
ณเดชน์ก็เชียร์ให้คนมาดูละครญาญ่าเยอะๆ?
“ขอบคุณค่ะ ก็บังคับให้พี่แบร์ดูเหมือนกันค่ะ เขาก็ชอบนะคะ เขาบอกว่าอย่าเอาสี่คาแรกเตอร์นี้กลับบ้านนะ”
เขาบอกว่าชอบกาสะลอง แต่เกลียดซ้องปีบ?
“เขาบอกว่าเกลียดซ้องปีบเลยหรอ หนูเชื่อว่ามีหลายคนที่จะต้องเกลียดซ้องปีบค่ะ หลังจากนี้จะเกลียดมากกว่านี้ อย่างที่หนูเขียนในไอจีว่าอันนี้คือวัยใสๆ คืออาทิตย์หน้ากำลังจะเริ่มต้นเอาจริงเอาจัง เจอผู้ชายแล้ว”
มีคนจับผิดฉากที่เราคุยกับมี๊ พิศมัย ว่าเป็นการพากย์เสียงหรือเปล่า?
“ใช่ค่ะ อันนั้นพากย์เสียงเพราะว่าตอนแรกๆ เราใช้สำเนียงเชียงราย ซึ่งฟังยากนิดนึงก็เลยเปลี่ยนเป็นเชียงใหม่ ซึ่งถ่ายไปแล้วประมาณ 4-5 คิว ก็เลยต้องไปทับเสียง ไม่งั้นคนดูจะงงว่าอ้าว ทำไมคำนี้พูดไม่เหมือนฉากที่แล้ว ก็เลยต้องไปลงเสียงใหม่ มีหลายฉากอยู่ค่ะ”
พี่สันต์ ศรีแก้วหล่อ โพสต์ชื่นชมการแสดงของเราด้วย?
“จริงๆ หนูต้องขอบคุณพี่สันต์มากๆ เลยค่ะ พี่สันต์ช่วยให้หนูทำทุกคาแรกเตอร์ให้มันชัดด้วย ถ้าไม่มีพี่สันต์หนูก็ไม่สามารถทำได้ขนาดนั้นแน่นอนค่ะ”

มีคนถามถึงชื่อ "พริมพี่" ในละครมีที่มายังไง?
“พริมพี่ ชื่อเล่นเขาค่ะ ชื่อจริงพิมพ์พิศา พริมพี่ฟังแล้วอยากจะตบมันเลย (หัวเราะ) พริมพี่เป็นตัวละครที่เป็นซ้องปีบเกิดใหม่ ต้องการให้คนไม่รักเพราะว่าเขาต้องได้รับกรรมนี้ที่ยังไงคนก็รักเขาไม่ได้ ชื่อเขาก็น่ารำคาญนะคะ”
การไปทำบุญที่พม่า มีส่วนทำให้ประสบความสำเร็จมั้ย?
“ก็ในระดับหนึ่งค่ะ จริงๆ พยายามไปทุกครั้งที่ละครออนแอร์ แต่ว่าครั้งนี้หนูซีเรียสว่าต้องไปเพราะอยากจะไปทำบุญให้กับตัวละครเพราะเล่นสี่ตัว เป็นครั้งแรกที่จะต้องเล่นแล้วตาย ก็เลยอยากจะไปทำบุญให้ตัวละคร มันเป็นอะไรที่ติดในใจว่าอยากจะไปทำค่ะ”
ตอนเล่นไม่ได้ติดไปจนเป็นไบโพลาร์ใช่ไหม?
“ก็นิดหนึ่งค่ะ มันต้องปรับเร็วมากๆ เดี๋ยวดีแล้วอยู่ดีๆ ก็ร้าย ในกองก็จะเข้าใจกันว่าถ้าหนูนั่งนิ่งๆ ไม่คุยกับใครแสดงว่ารอเพื่อเข้าบทเป็นซ้องปีบ”
กลัวคนเข้าใจผิดไหมว่าละครของเรามาในขณะที่ละคร "เพลิงพรางเทียน" ยังออนแอร์อยู่ เพราะบางฉากใช้ฉากสถานที่เดียวกัน?
“ก็มีบางฉากสถานที่เดียวกันค่ะ ด้วยความที่เพลิงพรางเทียนเป็นเหนือเหมือนกันแต่คนละยุคสมัย เรื่องราวก็จะบ้านๆ หน่อย ก็ซ้ำกันจริงๆ ค่ะ”.

...