ในช่วงเทศกาลหนังเมืองคานส์ที่ผ่านมาเราจะเห็นสีสันที่เกิดขึ้นบนพรมแดงที่ดูเหมือนว่านักข่าวและคนให้ความสนใจกับเรื่องราวและชุดรวมถึงดราม่ามากกว่าพรมแดงในเมืองไทย จากการเริ่มแรกที่ ซุปเปอร์สตาร์สาวชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ได้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยในฐานะพรีเซนเตอร์ของเครื่องสำอางยี่ห้อดังของประเทศฝรั่งเศสไปเดินพรมแดง ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะถามว่าไปทำไม นักข่าวเองยังมีการดูถูกว่าไปเดินช่วงท้ายงานหรือช่วงคั่นเวลา ไม่ใช่นักแสดงภาพยนตร์จริงที่ได้นำเสนอชื่อหรือหนังได้ถูกฉาย แต่จากการที่เธอทำการบ้านอย่างหนัก รวมถึงการตลาดที่เก่งกาจ ทำให้งานเดินพรมแดงที่เมืองคานส์ กลายเป็นงานหลักประจำปีที่เธอต้องไปและผู้คนก็ให้ความสนใจและจับตามองวันต่อวัน ซึ่งใครจะรู้บ้างว่าเบื้องหลังการทำงานของซุป'ตาร์สาวคนนี้เธอต้องทำการบ้านอย่างหนัก แถมการเดินทางแต่ละครั้งเธอต้องเตรียมตัวรวมถึงทีมงานที่ต้องขนไป และก่อนจะเดินทางไปเธอก็ต้องทำการบ้านเรื่องของเสื้อผ้าหน้าผม พอไปถึงก็ใช่ว่าจะได้เป็นเจ้าหญิงอย่างที่เห็นบนพรมแดง เธอเลือกทีมงานต้องเตรียมตัวกันหัวฟูแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะเสื้อผ้าเครื่องเพชรรองเท้าทุกอย่างมันหลากหลายยี่ห้อที่เป็นสปอนเซอร์ หลายครั้งที่เธอต้องใช้เตารีดไอน้ำรีดเสื้อผ้าตัวเองเพื่อให้ดูดีที่สุดเพราะเสื้อผ้าถูกยัดใส่กระเป๋าไป ยิ่งช่วงปีก่อนที่เธอต้องให้นมลูก ช่วงนั้นยิ่งลำบาก แต่ดูเหมือนว่าประสบการณ์จะทำให้เธอยืนหนึ่ง และทำได้ดีมากขึ้นทุกปี

...

ในขณะที่เราจะเห็นมีนักแสดงสาวท่านอื่นไปเดินบนพรมแดงที่เมืองคานส์ด้วย ความรู้สึกส่วนตัวกลับรู้สึกดีนะที่มีคนไทยหลายคนได้ไปเฉิดฉายที่นั่น แต่เท่าที่ดูบางคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักได้ อยากจะเล่าให้เห็นภาพว่าพรมแดงที่นั่นจะเป็นสถานที่จัดงานเพื่อใช้ภาพยนตร์ในงานเทศกาล ซึ่งเมืองนี้เป็นเมืองริมชายหาด เรื่องของลมและความชื้นของอากาศมีผลกับการแต่งหน้าและทรงผมอย่างมาก จะไม่เหมือนเมืองไทยที่ปล่อยผมเดินสยายได้ แต่ที่นั่นอากาศแม้จะไม่ร้อนมากแต่ก็มีความชื้นสูง รวมถึงทางเดินที่ดูเหมือนจะยาวแต่ในความเป็นจริงก็ไม่ได้ยาวมาก แถมช่วงเวลาที่ดาราสาวแต่ละท่านได้เดินก็ไม่ใช่เวลาที่วีไอพีซึ่งจะมีบอดี้การ์ดกันให้มากมายขนาดนั้น ดังนั้นดาราแต่ละท่านก็ต้องใช้ความสามารถส่วนตัวในการยืนท่ามกลางฝูงชนให้ดูโดดเด่นและมีซีนของตัวเอง บางคนถึงขนาดที่ว่านักข่าวเค้าไล่แล้วไล่อีกก็ไม่ยอมเดิน ฉันจะยืนของฉันอยู่อย่างนี้อย่างน้อยต้องได้รูปกลับบ้าน แล้วทำไมต้องเดินหลายวัน อ้าว! ก็งานมันจัดหลายวัน แถมบินไปตั้งไกลลงทุนไปก็เยอะ เดินให้มันเยอะที่สุดเถอะ คุณคิดว่าไปแต่ละครั้งสปอนเซอร์จะจ่ายให้ทีมงานครบทุกคนรึไง อย่างน้อยก็ทีมงานหลัก ดารา, ผู้จัดการ, ช่างหน้า, ช่างผม, อะ! แถมญาติหรือผู้ช่วยอีกหนึ่ง มากที่สุดไม่เกินห้าคน ส่วนการที่จะมีครอบครัวไปด้วยนั่นคือดาราหรือครอบครัวดาราต้องจ่ายกันเอง แต่สำหรับชมพู่ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเธอ

และเราก็จะได้เห็นดาราคนอื่นคิดไปเดินที่นั่นมากขึ้นทุกปี ส่วนมากก็ไปด้วยนามของสปอนเซอร์ที่สนับสนุนงาน ที่หลายคนกัดกันว่า พวกที่ต้องจ่ายเงินไป แหม! ดาราที่ไปเค้าไม่ได้จ่ายเงินเองซะหน่อย สปอนเซอร์จ่ายต่างหาก แล้วสปอนเซอร์เค้าก็เชิญคนที่เค้าอยากให้เป็นแขกของเค้าไปร่วมงานก็แค่นั้นเอง

ปีล่าสุดเราจะเห็นดาราหลายคนที่พยายามขโมยซีนบนพรมแดง เช่นดาราสาวจากเวียดนามที่ใส่ชุดซีทรูที่เห็นทะลุทะลวงไปถึงลำไส้ ตอนที่เห็นภาพยอมรับนะว่าเธอสวยมากทั้งหน้าตาผิวพรรณและรูปร่าง เรียกว่าสวยเพอร์เฟกต์เลยแหละ สำหรับบ้านเธอคงจะไม่ถืออะไร หรืออาจจะถือจนเป็นประเด็นแต่เราแปลไม่ออก (แหะๆ) แต่ก็มาแอบลองคิดว่าถ้าเป็นดาราไทยจะโดนด่าขนาดไหน? อาจจะกลับประเทศไม่ได้เลยมั้ง จะถามว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับดาราสาวคนนี้ คนมาติดตามเธอเยอะมากขึ้นค่ะ ฝรั่งต่างชาติให้ความสนใจ ก็ต้องถือว่าเธอประสบความสำเร็จทั้งด้านการตลาด แต่ก็ไม่รู้ว่าหนังประเภทไหนที่จะติดต่อเธอมา แต่ถ้าเป็นหนังฝรั่งเรื่องเลิฟซีนคงเป็นเรื่องปกติ ถ้าจะไปทางนั้นก็ต้องไปให้สุดทาง (สาวญวนหวิว โชว์งานคานส์ ชุดซีทรูดำเปิดเรือนร่าง)

...

ส่วนดาราสาวไทยที่ได้ไปเดินพรมแดงอย่างน้อยพวกเธอก็จะได้รูปและจะได้ข่าวกลับมา รวมถึงคำชมและคำด่าที่ต้องทำใจล่วงหน้า แต่อย่างน้อยพวกเธอก็อาจจะได้รับความสนใจจากคนสร้างหนังที่ไปรวมตัวกันอยู่ตรงนั้นแหละเห็นความสวยในตัวพวกเธอ แต่ก็แทบเป็นไปได้ยาก คือต้องโดดเด่นจริงๆ เพราะอย่างที่บอก คนที่ไปเยอะมาก แขกร่วมงานก็แต่งตัวจัดเต็มไม่แพ้ดารา ไม่เชื่อก็ลองไปดูเวลาที่เค้าไลฟ์สดมันจะดูละลานตามาก แต่อย่างน้อยการที่มีคนไทยไปยืนอยู่ตรงนั้นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีแล้ว แต่ตอนนี้กลัวแค่ว่าปีต่อๆ ไปจะเน้นความขโมยซีนกันมากขึ้น ปีล่าสุดก็ชุดซีทรูแหวกสูงบ้าง ชุดพญานาคบ้าง ชุดกระจกบ้าง ปีหน้ามาลุ้นกันต่อว่าจะมีสีสันอะไรต่อไปนะคะ

ข่าวเกี่ยวกับงานเทศกาลหนังเมืองคานส์