ทำเอานางเอกสาว กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล เศร้าเสียใจที่สุด เมื่อต้องสูญเสียคุณพ่อฉัตรฏรัฐ สิริวัฒน์ธนกุล ไปอย่างกะทันหันด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันระหว่างไปทำงานที่เกาะสมุย โดยไม่ทันมีโอกาสร่ำลา โดยเมื่อกรีนกับครอบครัวได้จัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพคุณพ่อ ณ ศาลา 9 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ บางเขน เจ้าตัวจึงเปิดใจถึงเรื่องนี้ต่อสื่อมวลชนที่มาร่วมทำข่าวด้วย
วันนี้เป็นวันแรกที่มีพิธีสวดศพของคุณพ่อ?
"ใช่ค่ะ วันนี้เป็นวันแรกเลยค่ะ วันรดน้ำศพของคุณพ่อ ก็ได้ทำพิธีไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้รอสวดค่ะ"
ถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อ เห็นว่ากะทันหันด้วย เกิดอะไรขึ้น?
"คุณพ่อไปธุระที่เกาะสมุย ด้วยการที่คุณพ่อมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว คือเป็นโรคหัวใจ และยังมีหลายๆ โรคอีก คือกรีนว่าคนที่อายุเริ่มเลข 5-6 ก็จะเริ่มมีโรคแสดงออกมาชัดเจนมากขึ้น เขามีความดันด้วยค่ะ แล้ววันนั้นเขาไปทำธุระที่นั่น แล้วเกิดหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันค่ะ"
เราทราบมาก่อนมั้ยว่าคุณพ่อเป็นโรคนี้อยู่แล้ว?
"ใช่ค่ะ กรีนรู้ว่าป๊าเป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว เราก็คอยดูแลเขาเนอะ ให้ยาบำรุง อาหารเสริม ให้เขาดูแลสุขภาพตัวเองมากๆ อยู่แล้วค่ะ"
ก่อนหน้านี้อาการก็ไม่ได้รุนแรง?
"จริงๆ ก่อนหน้านี้เข้าห้องฉุกเฉิน 1 ครั้ง แต่ว่ารอดค่ะ แต่ครั้งนี้คือเร็วน่ะ เร็วแบบงง แต่กรีนเข้าใจว่าโรคหัวใจมีโอกาสเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เราก็เห็นข่าวทั่วๆ ไปอยู่แล้วค่ะ แต่พอมาเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวเรา ซึ่งเป็นคนรักของเราเนี่ย มันก็ค่อนข้างกะทันหันมากจริงๆ"
...
ไม่มีสัญญาณบ่งบอกอะไรเลย?
"(ส่ายหน้า) ไม่มีเลยค่ะ ซึ่งเป็นวันที่กรีนทำงานด้วย"
มีลางสังหรณ์อะไรมั้ย?
"ไม่มีค่ะ มีแค่ตอนที่ธันวาโทรหากรีนเพราะได้รับข่าวนี้ แต่กรีนรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆ รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าถึงขั้นร้ายแรงขนาดนี้ ตอนนั้นกรีนทำธุระอยู่ กรีนก็บอกให้ธันวาช่วยจัดการให้เราหน่อย จนพอธันวาโทรหากรีนอีกครั้งแล้วบอกว่ารีบกลับบ้านมานะ เดี๋ยวแม่มีเรื่องจะบอก
เราก็ถามว่าอะไรเหรอ เรื่องอะไร เพราะปกติที่ผ่านมามีเรื่องอะไรก็จะคุยกันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ยอมบอกเพราะกรีนขับรถอยู่แล้วฝนตกด้วย พอกลับบ้านมาแม่ก็บอกว่าป๊าเสียแล้วนะ กรีนก็บอกไม่จริงน่ะ ทำไมอะ (เสียงเครือ น้ำตาคลอในตา) ทำไมไม่รอเลย แต่กรีนก็พยายามเข้าใจค่ะ ก็ร้องไห้กันยกใหญ่วันนั้น คิดหาวิธีกันว่าจะทำยังไง แล้วเราก็ถึงรู้ว่าป๊าไปเสียที่สมุยนะ"
เพื่อนๆ หรือคนใกล้ชิดที่อยู่ในเหตุการณ์ เขาเล่าให้ฟังมั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น?
"มีค่ะ (เสียงเครือ) ก็มีเพื่อนปะป๊าอยู่ค่ะ คือปะป๊าทำงานที่ใต้ ก็จะมีเพื่อนที่นั่นค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว เขาก็บอกเหตุการณ์ คือด้วยความที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว ป๊าไปทานอาหารแล้วข้างในมันร้อน อากาศค่อนข้างร้อน เขาสำรอกออกมาเร็วมากค่ะ นับ 1 2 3 แล้วฟุบเลย
พอฟุบแล้วส่ง รพ.ที่ใกล้ที่สุดคือ รพ. ที่เกาะสมุย ก็ปั๊มหัวใจอยู่ประมาณ 30 นาที แล้วหมอบอกว่าชีพจรอ่อนมากแล้ว ก็เลยขอว่าปั๊มเพิ่มอีก 10 นาทีได้มั้ย เป็น 40 นาที หมอก็ปั๊มให้ค่ะ แต่หมอบอกว่าถ้าปั๊มเกินกว่านี้ซี่โครงหักเลย เพราะตรงหัวใจตรงนี้แดงหมดแล้ว ก็คือต้องปล่อยแล้ว (เสียงเครือ) ก็ไปเลยค่ะ"
เสียใจที่ไม่ทันได้ร่ำลากัน?
"ก็ด้วยค่ะ เพราะ ณ ตอนนั้นเราไม่ได้อยู่ด้วยกันค่ะ มันก็มีหลายๆ เรื่องที่เราอยากนั่งคุยกัน แต่อย่างที่กรีนบอกว่าด้วยความที่เป็นโรคนี้จะไปตอนไหนก็ได้ กรีนเคยคุยกับเขาว่าไปได้ทุกเมื่อจริงๆ ถ้าเขาอยู่ห่างจากกรีน กรีน กรีนอยากให้เขาดูแลสุขภาพตัวเองค่ะ"
เราอยากบอกอะไรคุณพ่อกับสิ่งที่ยังค้างคา?
"กรีนอยากบอกทุกเรื่อง อยากบอกรักเขาค่ะ กรีนอยากบอกเขาทุกอย่างเลยว่าเขาไม่ต้องกังวลเรื่องตรงนี้แล้ว อยากให้เขามีความสุขค่ะ อยากให้มาคุยกันแบบพ่อลูกใกล้ชิดกัน เป็นพี่น้องเป็นลูกกันจริงๆ สามารถคุยกันทุกเรื่องได้ เพราะป๊าเขาจะไม่ค่อยเอาเรื่องต่างๆ มาเล่าให้ลูกฟังค่ะ ซึ่งกรีนก็อยากให้เขาคุยแบบนั้น กรีนอยากนั่งคุยกับเขาแบบเปิดใจกันค่ะ แต่ผู้ใหญ่ก็จะมีมุมของเขา แต่ไม่ทันได้คุยกันค่ะ"
นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเสียใจด้วย?
"ใช่ค่ะ คือทั้งกรีนและน้องสาวรู้สึกว่ามันเร็วมาก คือเราไม่ได้บอกลากันเลย มาเห็นอีกทีเป็นศพแล้วค่ะ ความรู้สึกคือแบบ... คือไปไม่ทันค่ะเพราะกรีนต้องเดินทางหลายต่อมาก กว่าจะข้ามเรือไป ไปถึงคือบวมแล้ว"
ตอนหลังพิธีรดน้ำศพ เห็นเรายืนพูดกับคุณพ่อ ตอนนั้นพูดอะไรบ้าง?
"ก็เคาะโลงแล้วก็บอกพ่อว่ากรีนมาแล้ว ครอบครัวทุกคนก็มานะคะ มาส่งปะป๊าเป็นครั้งสุดท้าย อยากให้ปะป๊ามีความสุขค่ะ ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเครียด
เพราะตอนที่เขามีชีวิตอยู่ เขาค่อนข้างเครียดมากในเรื่องงาน กรีนอยากให้เขาไปแบบมีความสุขสบายจริงๆ เรื่องอะไรก็ตามที่มันเกิดขึ้น ทางกรีนเองกับน้องจะรับผิดชอบดูแลทุกอย่างเองค่ะ"
...
ตอนนี้เราต้องเป็นเสาหลักแบบเต็มตัวแล้ว?
"ใช่ค่ะ ก็พร้อมอยู่แล้วค่ะ จริงๆ หน้าที่นี้เรารู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ด้วยหน้าที่ของลูก เสาหลักก็ไม่ได้มีแค่กรีนหรอกค่ะ มีน้องสาวด้วย เราก็ช่วยเหลือกัน"
ให้กำลังใจคุณแม่ยังไงบ้าง?
"จริงๆ คุณแม่เข้มแข็งกว่ากรีนเยอะเลยค่ะ เพราะวันนั้นตอนลงจากรถปุ๊บ แม่พูดออกมาเลยว่าป๊าเสียแล้วนะ กรีนแบบหา ไม่ทันตั้งตัว เข้าหน้ามากค่ะ แม่ก็พูดกับกรีนว่าป๊าไปดีแล้ว ไม่เป็นไรๆ เราเข้มแข็ง แม่ร้องไห้น้อยมาก กรีนนี่ร้องไห้เยอะมากค่ะ"
หลังจากนี้จะใช้ชีวิตยังไงต่อไป?
"ก็ทำทุกอย่างเหมือนเดิมค่ะ ทำให้ดีขึ้น ถ้ามีปัญหาอะไรที่ต้องสะสางในเรื่องของปะป๊า กรีนก็จะสะสางรับผิดชอบ ซึ่งครอบครัวเราทุกคนวันนี้ก็มา แล้วเราก็จะมานั่งคุยกันหลังจากที่จบงานศพของปะป๊่าเรียบร้อยว่าจะทำยังไงต่อไปในเรื่องธุรกิจของเขาค่ะ"
ในส่วนพิธีการงานศพของคุณพ่อล่ะ?
"ด้วยความที่กะทันหันค่ะ กรีนก็มีงานของกรีนที่ลงตาราง น้องของกรีนก็มีงานค่อนข้างแน่นเหมือนกัน กรีนก็เลยตั้งศพสวดวันที่ 15-17 พ.ค. และประชุมเพลิงวันที่ 19 พ.ค. ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุค่ะ"
...
เห็นว่าขอรับเป็นเงินบริจาคเพื่อไปทำบุญให้ศพไร้ญาติ เป็นความตั้งใจของทางครอบครัวใช่มั้ย?
"ใช่ค่ะ อันนี้เป็นความคิดของกรีนกับน้อง เพราะกรีนรู้สึกว่าไม่อยากให้คนที่มาร่วมงานเสียค่าใช้จ่ายเรื่องพวงหรีดเยอะด้วยค่ะ อยากให้เป็นสมทบทุนและช่วยเหลือผู้อื่นมากกว่าค่ะ นี่คือสิ่งที่ป๊าสอนมาตลอดคือการเป็นผู้ให้ การเป็นผู้ให้คือเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เราจะเป็นแค่ผู้รับ เราต้องให้ก่อน เราถึงจะได้รับค่ะ".
...