รักและดูแลกันมาหลายสิบปีแล้ว สำหรับครอบครัวของ จอนนี่ แอนโฟเน่ กับ นก จริยา ล่าสุดในรายการ 3 แซบ จอนนี่และนก ก็ได้พาลูกสาวคนเล็ก น้องจีน จิรชยา ในวัย 23 ปี มาออกรายการ 3 แซบ ทางช่อง 3 พร้อมกันเป็นครั้งแรก ซึ่งน้องจีนบอกว่า ที่ผ่านมานั้นตนเองเป็นคนไม่ชอบออกสื่อ เพราะกลัวถูกเพื่อนล้อ 

โดยครอบครัวนี้ มีลูก 3 คน คนโตเป็นผู้ชาย และอีก 2 คนเป็นผู้หญิง น้องจีน เป็นลูกสาวคนเล็ก ซึ่งครอบครัวนี้ พ่อและแม่จะห่วงลูกมาก ถึงขั้นที่ว่า ลูกต้องพูดว่า พ่อโรคจิตเลยทีเดียว 

พ่อจอนนี่ ได้เล่าว่า น้องจีนขออนุญาตไปทานข้าวกับเพื่อนนอกบ้าน พ่อก็จะโทรหาตลอดเวลา ตั้งแต่ก่อนสั่งอาหาร แล้วพอกะเวลาอาหารมาส่งแล้ว ก็โทรใหม่อีกรอบเพื่อถามว่า ทำไมถึงไม่ส่งรูปมาให้ดู และจะโทรหาอีกครั้งหลังทานเสร็จเพื่อถามว่าอร่อยมั้ย จนทำให้ลูกสาวต้องพูดว่า พ่อโรคจิต

ส่วนทางแม่นกนั้น ก็ยอมรับเช่นกันว่าหวงลูกสาวมาก ตอแยทุกอย่างในชีวิต ด้วยความที่อายุเราใกล้เคียงกัน เลยเหมือนเป็นเพื่อนกันด้วย พูดคุยกันได้ล้านเรื่อง นอกจากนี้ นก ยังบอกอีกว่า ลงทุนไปหาที่ดินเพื่อสร้างหนึ่งโครงการข้างโรงเรียนลูก และแบ่งตึกว่างไว้สำหรับทำออฟฟิศของตัวเอง เพราะจะได้เดินทางไปและเดินทางกลับพร้อมลูกเลย ทุกวันนี้ลูกย้ายไปอยู่อังกฤษก็ขายออฟฟิศนั้น

...

ถามว่าทำใจยอมให้ลูกไปเรียนที่อังกฤษได้ยังไง นก บอกว่า คุยกันอยู่นานมาก ถึงขั้นเคยเสนอว่า ติดกล้องซีซีทีวีไว้ในห้องลูกเลยมั้ย คือลูกเรียนมหาวิทยาลัยแล้วเราก็รับส่งลูกทุกคน จนวันที่เค้าจะไปเมืองนอก เราก็ใจไปอยู่ที่ตาตุ่มเลย ห่วงว่าจะอยู่ยังไง ใครจะยุ่งมั้ย จะอันตรายมั้ย ลูกจะโฮมซิกมั้ย

จากนั้น แม่ชมพู่ ที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นมาพร้อมหยดน้ำตาว่า “พี่พูดแบบนี้หนูจะร้องไห้ หนูเป็นห่วงลูก” ทำเอาพิธีกรร่วมอีก 2 คน ทั้งกาละแมร์ กับ พี่ม้า พูดขึ้นมาทันทีว่า ลูกยังพูดไม่เป็นคำ ยังไม่รู้เรื่องเลย ยังไม่กี่ขวบเอง

แม่นก จริยา ก็เล่าต่อว่า พอไปเรียนอังกฤษ ก็หาหอพักที่ใกล้ที่สุด หอพักละแวกนั้นอันตรายมั้ย เดินเซอร์เวย์ ถ้าเดินจากหอไปมหาวิทยาลัยกี่นาที จับเวลาทุกวัน

ถามว่าเป็นกับลูกทุกคนมั้ย เป็นกับทุกคน คนโตเป็นลูกชาย คนกลางเป็นลูกสาว เค้าเรียนที่มหิดล แล้วเค้าต้องอยู่หอพักที่นั่น เพราะเราขับรถไม่ไหว แต่เราจะบอกเค้าว่า มี๊จะโทรหาตลอดเวลานะลูก ต้องรับสายนะ เพราะไม่งั้นมี๊จะเป็นห่วงมาก ถ้าโทร 4-5 ทีแล้วไม่รับสาย 15 นาทีมี๊จะไปถึงนะ

น้องจีน บอกว่าไม่เครียดเลย เพราะตัวเองไม่เกเรอยู่แล้ว เวลาไปไหนกับพ่อกับแม่ก็จะไม่เดินใกล้ เพราะเขินคนมอง

ตอนนี้ลูกๆ อยู่กัน 3 ประเทศ ทั้งอังกฤษ เกาหลี และไทย พ่อกับแม่ก็ออนทัวร์ เมื่อถามว่า ลูกสาวมีแฟนมั้ย พ่อจอนนี่บอกว่า เราให้เกณฑ์เค้าไปว่า เด็กๆ อย่าเพิ่งมี เราควรจะต้องเรียนหนังสือ ทำมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัวให้มั่นคงก่อน มีสักประมาณ 50 ก็ได้

...

น้องจีน บอกว่า ที่อังกฤษก็มีคนเข้ามาจีบเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้คุยต่ออะไร ก็แยกย้ายกันไป เวลามีใครมาจีบก็จะคุยกับคุณแม่มากกว่า ส่วนคุณพ่อจะรู้เรื่องมั้ยก็อยู่ที่คุณแม่ไปบอกรึเปล่า

เมื่อถามถึงเคล็ดลับการใช้ชีวิตคู่ นก จริยา ก็บอกว่า มันมีปัญหาด้วยกันทุกคู่ ยิ่งเป็นนักแสดงกันทั้งคู่ ตัวตนมันก็มีมา คนนี้ก็พระเอก อีกคนก็นางเอก เราก็อยากได้ความชัดเจน ก็คุยกันตรงๆ มีหลายครั้งที่อาละวาด ฟาดงวงฟาดงา บ้านแตก แต่เราคุยกันตรงๆ เลยทำให้ผ่านมาได้

ด้าน จอนนี่ บอกว่า คุณนกจะชอบพูดเสมอว่า ถ้าวันไหนมองไปที่แววตาแล้วไม่เห็นกันแล้ว ให้บอกเลิกกันดีกว่า แต่สำหรับในมุมของตนเอง ยังไงก็จะไม่เลิก จะไม่มีเมีย 8 เมีย 7 ถ้ามันมีปัญหากันขึ้นมา เราก็จะกลับไปแก้ปัญหา ไม่ได้คิดที่จะหนี มันคือตรงนี้มากกว่าที่ปักไว้และเป็นภาพในหัวเราชัดเจน

ช่วงที่เกิดวิกฤติชีวิตคู่ มันคือช่วงที่เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ ตอนนั้นมันเริ่มจากตนเองก่อน แล้วลามไปถึงครอบครัว ซึ่ง นก บอกว่า ตัวพี่จอนนั้นต้องขูดแผลสดที่อยู่ที่ตัว 2 วันต่อครั้ง เพื่อให้มันสร้างเนื้อใหม่ ขูดสด เหมือนที่ขูดหนูขูดงู แล้วน้ำเหลืองเต็มเตียงทุกวัน แล้วพยาบาลก็ต้องมาขอเปลี่ยนทุก ชม. เพราะมันนองเต็มไปหมดเลย

...

ช่วงนั้นโดนอ่วมมาก เพราะไฟไหม้ตัวมันไม่ธรรมดา หมอเรียกเข้าไปคุยบอกว่า ให้รอรับเลย รักษาเคสไฟไหม้เคสนี้ต้องเจอทุกอย่าง ทั้งขั้นตอนการรักษา และอารมณ์ มีนะบางวันที่นั่งนับ 1-1,000 มีวันหนึ่งเรายืนจ้องน้ำเกลือ เค้าก็ตื่นมาแล้วถามว่า จ้องทำไมน้ำเกลือ นี่ถ้าไม่ใช่เจ็บอยู่นะ โดนถีบลงจากเตียงแล้ว แต่เชื่อมั้ยเค้าไม่รู้ตัว เค้าหงุดหงิด เค้าเจ็บอ่ะ แต่สุดท้ายเราก็ต้องอดทนทุกอย่าง พอผ่านมาได้ ก็กลับมารักษา มาฟื้นฟู มาเซ็ตครอบครัวใหม่ จากที่อยู่ภาวะเครียดมานาน

จอนนี่ เสริมว่า ช่วง 5 วันแรกเราทรมานมาก จนอยากตายไปเลย