แวร์ โซว ขายคอนโดปลดหนี้ พาลูกเช่าห้องอยู่ บอกไม่ใช่เรื่องน่าอาย

ชีวิตของนักแสดงสาว แวร์ โซว ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเจอมรสุมอย่างหนักทั้งอาการป่วยของคุณแม่ ต้องดูแลลูกตามลำพังและมีหนี้สินแถมยังตกงานมาปีกว่าจนต้องออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวขอความเมตตาจากผู้จัดละคร ของานทำ เพราะมีหนี้สินมากถึง 3 ล้าน

งานนี้ แวร์ โซว ได้ควงลูกสาว น้องคนดี มาเปิดใจผ่านทาง รายการคุยแซ่บ SHOW ทางช่อง ONE31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, หนิง ปณิตา และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร พูดคุยถึงเรื่องนี้ว่า

เรื่องโพสต์ในเฟซบุ๊ก?
"แวร์โพสต์มาตลอด ตั้งนานแล้ว โพสต์มาเรื่อยๆ เรื่องขายคอนโด แล้วเรื่องป่วยซึมเศร้า แล้วมารู้ว่าตัวเองเป็นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แล้วกินยารักษามา 3 ปี จนตอนนี้เรามั่นใจได้ว่าเราหายแล้ว และก่อนหน้านี้ผู้จัดให้ละคร แต่ว่าแวร์สามารถทำงานได้แค่บางงานเท่านั้น เพราะแวร์ป่วยทำงานหนักมากไม่ได้ ผู้ใหญ่ก็เมตตาแวร์

บางคนเข้าใจว่าผู้ใหญ่ไม่ให้งานไม่ใช่นะคะ เขาให้แต่ให้แค่รับเชิญบ้าง ซึ่งเรามีค่าใช้จ่ายหลักของเรา พอเรามีงานนิดๆ หน่อยๆ รายได้ไม่พอค่าใช้จ่ายมันก็เลยสะสม ทีนี้เงินที่เราเก็บไว้เราก็ต้องเอามาใช้ในช่วงระหว่างเราไม่มีงาน"

มีหนี้เท่าไหร่?
"จริงๆ มีตั้งแต่ 13 ปีที่แล้ว มีอยู่ 13 ล้าน 13 ปีที่ผ่านมาใช้ไปแล้ว 10 ล้าน ตอนนี้เหลือ 3 ล้าน คือซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ดอกเบี้ยแบงก์ เบ็ดเสร็จต้นแค่ 7 ล้าน ที่เหลือเป็นดอกทั้งนั้น และตอนนี้เหลือ 3 ล้านเป็นแค่ต้นเฉยๆ ไม่รวมดอก"

ถ้าประกาศขายคอนโดแล้วจะไปอยู่ที่ไหน?
"อยู่อพาร์ตเมนต์ พี่ไม่ยึดติด อยู่อพาร์ตเมนต์ไม่มีสมบัติมีความสุขมากกว่ามีสมบัติด้วย"

คอนโดตั้งอยู่ที่ไหน?
"อยู่ตรงซอยสุคนธสวัสดิ์ 2 แยกโรงไม้ ใกล้ๆ โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ซึ่งตอนนี้กำลังสร้างรถไฟฟ้าสอง 2 สาย อยู่ชั้น 3 มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แวร์ซื้อมา 2 ล้าน แต่แวร์ขาย 1.8 ล้าน เพราะแวร์ติดหนี้แบงก์อยู่ 1.8 ล้าน ก็อยากเอาเงินเท่านี้แหละโปะแบงก์ แวร์ไม่อยากได้อะไร แวร์ต้องการปลดหนี้"

เห็นว่าถึงขั้นขายเพชร ขายพลอย เอาสมบัติทุกอย่างออกมาขาย?
"ใช่ ก็จ่ายค่ายา ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็อย่างที่บอกคืองานมีแค่รับเชิญ มันก็จะมีไม่กี่ตอนต่อเรื่อง ซึ่งมันไม่ได้มีทุกเรื่อง ทุกอาทิตย์ มันก็มีนิดๆ หน่อยๆ ซึ่งช่วงไม่มีงานเราก็เอาเงินเก็บมาใช้

เราก็ต้องกิน ต้องใช้ทุกวัน แล้วก็รายจ่ายต่อเดือนเรามีหลักๆ อยู่แล้ว คือ 60,000 บาท ยังไม่รวมค่าโน้น นี่นั่น ที่มันเข้ามาอีก แล้วก็ทุกอย่างของแวร์ ประกันต่างๆ ก็คืนไปหมดแล้ว ทีนี้ที่บ่นคือของลูก ของลูกเราไม่ยุ่งเพราะมันเป็นเงินฝากของเขา และมันเป็นสุขภาพของเขา"

เขินไหมที่เราต้องออกมาขายโน้น ขายนี่?
"ไม่เขินค่ะ ดีกว่าที่แวร์มาบอกว่าช่วยบริจาค แวร์จะทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างอะไรก็แล้วแต่ สร้างเรื่องอุปโลกน์ให้โอนเข้าบัญชีนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้สร้างอะไรเลยแล้วเราเงินมาใช้เอง หรือว่าไม่มีงานทำแล้วไปโกหก ขอยืมเงินคนอื่น สร้างหนี้ สร้างสินอะไรมากมาย มันไม่ใช่ทางแก้ปัญหา"

แล้วตอนนี้งานเป็นยังไง?
"ตอนนี้ก็รับเชิญละครอยู่เรื่องนึง แต่ถ้าหมดเรื่องนี้ก็ยังไม่มีอะไรเข้ามา เพราะว่าเมื่อก่อนแวร์ป่วยซึมเศร้า แวร์รับงานได้ไม่เยอะมาก ทำให้ผู้จัดเข้าใจว่าเรายังป่วยอยู่ แล้วที่ออกมาโพสต์ว่าหายแล้วจะได้ให้เขารู้ว่าเราทำงานได้เต็มที่แล้ว"

แล้วมีโอกาสได้โทรศัพท์หาเพื่อน หาผู้จัดไหม?
"มีก็ไปสวัสดีปีใหม่มาแล้วเหมือนกัน แต่ว่าเราคงไปหาทุกท่านได้ไม่หมด เพราะผู้จัดเยอะมาก เพราฉะนั้นเราใช้วิธีโพสต์ทีเดียวไปเลยดีกว่า ถ้าเกิดผู้จัดหรือว่านักข่าวเห็นก็ช่วยกันบอกกระจายไป"

ได้ทำอาชีพหรือรายได้เสริมอะไรไหม?
"ก่อนหน้านี้ทำไข่เค็มค่ะ มีทำไข่เป็ดดองเกลือ ไข่แดงแช่น้ำปลา แต่ก็ต้องหยุดไป เพราะมันไม่คุ้มกับรายได้ที่เราได้ด้วย กับความเหนื่อย ค่าน้ำ ค่าไฟ อะไรก็แล้วแต่"

น้องคนดีเห็นคุณแม่เหนื่อยไหม?
"เหนื่อยมาก จนเหนื่อยแทน วันๆ ก็เห็นเขาทำงานตลอด สมัยที่ยังมีงาน คุณแม่ก็จะทำงานตลอด จนบางทีเราก็มองว่ามันเหนื่อยไปหรือเปล่า พอช่วงที่เขาออกมาโพสต์ว่าเขาป่วย เขาขอหยุดรับงานไปช่วงหนึ่ง หรือว่ารับงานให้น้อยลง ช่วงนั้นเขาก็ได้พักเต็มที่จนอาการเขาดีขึ้น ช่วงนี้เขาก็เลยต้องตระเวนหางานของเขาไป"

แวร์ : "ก็หายแล้ว ถ้าเกิดเราทำงานหนักเหมือนเดิมตอนที่เราป่วย แล้วเรารักษาไปด้วย เครียดไปด้วยมันจะทำให้หายช้า เราก็เลยใช้วิธีรับงานให้น้อยแล้วรักษาตัวให้หายก่อนดีกว่า เรายอมอดในช่วงเวลานึง แต่พอเราดีขึ้น เราพร้อมแล้วเรากลับมาลุยเต็มที่เหมือนเดิมเลยดีกว่า"

น้องคนดีอยากเข้าวงการไหม?
"ตอนเด็กๆ มีโอกาสแสดงละครบ้างก็รู้สึกว่ามันสนุกดี และถ้ามีโอกาสได้เข้าวงการก็อยากจะเข้าเหมือนกันค่ะ"

แม่มาโพสต์แบบนี้กลัวโดนเพื่อนล้อไหม?
"ไม่ค่ะ เนื่องจากเพื่อนหนูส่วนใหญ่ นอกจากจะเป็นลูกของเพื่อนๆ คุณแม่แล้ว ยังรู้จักหนูดีและเข้าใจหนู เข้าใจครอบครัวหนูด้วยประมาณนี้"

แวร์ : "คือการที่เราไม่มีเงิน ไม่มีงาน เราออกมาของานมันไม่ใช่เรื่องน่าอาย ดีกว่าเราไปขโมยเขา เราไปฆ่าเขา หรือว่าเราไปหลอกเอาเงินเขามันน่าอายมากกว่า เราเดือดร้อน เราก็บอกว่าเราเดือดร้อน ใครช่วยเราได้ก็ช่วยเรา เราไม่ได้ทำอะไรในทางที่ผิดเลย

เพราะฉะนั้นแวร์ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ถามว่าวัยลูกมันจะอายไหม เราก็อย่าสอนเขา อย่าไปบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าอาย แม่จน แม่ต้องรวย ไฮโซ แม่เป็นดาราต้องแบบฟุ้งเต็มที่อันนั้นเป็นคำสอนที่ผิดมาก เราคือมนุษย์คนนึงมีขึ้น มีลงได้ แล้ววันที่เราไม่มีเราก็หางานทำ ไม่ใช่ไปขอยืมเงินคนอื่น"

แล้วก่อนหน้านี้รายได้หลักของคืออะไร?
“แวร์เป็นคนประหยัด ใช้เท่าที่พอใช้ พอมี พอกิน อยู่อย่างพอเพียง แล้วซื้อทรัพย์สมบัติเอาไว้เพราะกะว่ามันจะมีมูลค่าเพิ่มในวันข้างหน้า แต่เผอิญไม่มีหัวการค้า คาดการณ์ผิด ก็เลยต้องทยอยขายไป ก็ยอมขาดทุน บ้านก็ขาดทุน คอนโดก็ขายขาดทุน รถก็ขายขาดทุน เอาไปให้หมดเลย"

แล้วถ้าสมมติว่ามีคนติดต่อมาอยากดูแลทั้งครอบครัว?
"อยากดูแลทั้งครอบครัวเหรอค่ะ ครอบครัวเขาดูแลได้ดีหรือยัง คือพี่ไม่ยุ่ง แต่ก็ขอบคุณเขา แต่ถ้าเขาโสดก็ต้องดูว่าจะมาเป็นภาระเราหรือเปล่า"

โรคซึมเศร้ามีกี่ระดับ?
"มันมีหลายระดับ แต่พี่เป็นซึมเศร้าขั้วเดียว คืออยากตาย หดหู่ อยากนอน อยากเป็นขยะ"

แล้วผ่านมาได้ยังไง?
"ก็พยายามตายแต่มันไม่ตายก็เลยนอนนิ่งๆ ตอนนั้นน้องคนดีก็อยู่ตรงนั้นนั่งดูแม่ตาย"

ลำบากใจไหม?
น้องคนดี : "ต้องลำบากใจอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าถ้าเราพูดแล้วไม่สามารถเปลี่ยนความคิดเขาได้บางทีก็ต้องให้เขาใช้เวลากับตัวเอง ให้เปลี่ยนความคิดของเขาเอง"

เรื่องคอนโดที่ประกาศขายทำไมไม่คิดอีกอย่างว่าเก็บไว้เป็นสมบัติให้ลูก?
“แวร์โตมาจากคนไม่มีบ้าน อยู่แฟลต อยู่อพาร์ตเมนต์ อยู่บ้านเช่า เร่ร่อนไปเรื่อย วันนึงมีงาน ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ทุกอย่างได้มาเหมือนเสียเงินซื้อขยะ ไม่พูดว่าโครงการไหน มีปัญหาเป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ป่วยจนรับงาน tie-in ไม่ได้ นั่นคือรายได้หลักของแวร์

เมื่อก่อนละครไม่เล่นเลยนะ พอหลังจากนั้นก็ต้องประกาศขายขาดทุน ตอนนี้ทำเลตรงนั้น 5-6 ล้านไปแล้ว แต่ซื้อตอนนั้น 3.5 ล้าน ขาย 2 ล้านกว่า เสร็จแล้ว คอนโดมีปัญหาน้ำรั่ว ซึ่งไม่ได้เกิดจากแวร์ ซื้อมา 10 ปี คุยกับเขามา 6 ปี น้ำเพิ่งหยุดรั่วมา 2 ปี ก็เลยสาธุ ไม่ได้เอาของไม่ดีมาขายนะคะ หมายถึงว่าแวร์แก้ปัญหาจนถึงที่สุดแล้ว เรื่องถึงศาลแล้วก็เคลียร์แล้วทุกอย่าง"