เรียกว่าเพิ่มดีกรีเข้มข้นการแสดงให้นางเอกสาวสายอาร์ต “แพต–ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช” ต้องมารับบทซุปเปอร์สตาร์ตัวแม่ ราวินน่า หรือ วีน่า จับคู่พระเอกมาดเซอร์ โทนี่ รากแก่น ในละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่เคยโด่งดังติดใจคนดูเรื่อง “รักนี้หัวใจเราจอง” กลับมาปัดฝุ่นรีเมกใหม่ทาง ช่อง GMM25 สาว แพต เอ่ยปากว่าบทนี้สุดท้ายทายได้เป็นทุกอย่าง! แพต เล่าว่า

“ในเรื่องเล่นเป็นราวินน่า นักแสดงสาว มั่นใจในตัวเอง เคยเป็นนางเอกเบอร์หนึ่งแต่ต้องกลายมาเป็นนักแสดงที่รับงานได้ทุกระดับ ซึ่งเราว่าเฮ้ยน่าสนุก พอ เห็นรายชื่อแล้วมีพี่โทนี่ เราก็สบายใจล่ะเลยโทร.ไปหาพี่โทนี่ว่าเอาไง เล่นมั้ย พี่เค้าก็บอกเล่นสิ น่าจะสนุกดีนะ แล้วเราไม่เคยเล่นคอมเมดี้มาก่อนด้วย ได้อ่านบทก็เริ่มรู้สึกสนุก จริงๆ แต่ก็ไม่คิดว่าพอถ่ายทำจะเหนื่อยขนาดนี้ เพราะคิวที่สองหนูก็ต้องกระโดดลงจากหัวเรือยอชต์เลย ถือเป็นประสบการณ์ใหม่มากๆสำหรับหนู”

ความท้าทายของตัวละครนี้?

“คือเรื่องเดียวเป็นได้ทุกตัวละครเลย หลายบทบาทมากๆ ได้แต่งชุดไทยบู๊วิ่งลุยป่า ลุยเขา ลุยน้ำ มีทุกอย่างทั้งไซไฟ คอมเมดี้ โรแมนติก ดราม่า นี่แหละคือความท้าทายจะบอกว่าเบื้องหลังคอมเมดี้กว่าในละครอีก ทีมงานน่ารักหรืออย่างเวลาเข้าฉากกับพี่โทนี่ก็จะหลุดขำกันบ่อย บวกกับเราเองก็เป็นคนบ้าจี้ด้วย หนูนี่ต้องกลับบ้านไปนั่งสมาธิเลยนะ (หัวเราะ)”

...

กลับมาร่วมงานกับโทนี่ รากแก่น อีกครั้งเป็นยังไงบ้าง?

“ใช่ค่ะ ด้วยความสนิทกันเวลาเข้าฉากหวานๆ ก็จะขำก็จะแบบอย่านะๆ ไม่เขิน เลยล่ะตลกขำกันมากกว่าแต่ก็ถือว่าดีที่เราได้ร่วมงานกับพี่ชายที่เราสนิท ก็สบายใจมันก็สนุก มุกตลกก็มีเพิ่มเติมเข้าไปบ้างแต่โดยรวมแล้วบทก็ทำมาสมบูรณ์แบบแล้ว หลุดขำกันบ่อยไม่ใช่เฉพาะกับพี่โทนี่ กับพี่บอย-พิษณุ พี่หน่อง-ธนา เป็นความยากและท้าทายที่จะทำยังไงไม่ให้หลุดขำ แล้ววันไหนถ้ามีพี่ก๊อตจิด้วยก็ไปกันใหญ่เลย ต้องมีสติมากๆ”

เรื่องนี้เคยโด่งดังกลัวคนดูยืดติดเวอร์ชันเก่ามั้ย?

“เวอร์ชันเก่าหนูเคยดูตอนเด็กๆไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเล่นแต่กลายเป็นว่าเราสนุก ซึ่งถ้าใครที่เคยดูเวอร์ชันเก่าก็อยากให้ลองดูเวอร์ชันนี้เพราะกาลเวลาเปลี่ยน เทคนิคโปรดักชัน เปลี่ยน น่าจะคลายเครียดได้ในระดับหนึ่ง อยากให้ลองดูคาแรกเตอร์ใหม่ของแพตเพราะเป็นแนวที่ยังไม่เคยเล่น”

แพตวันแรกกับวันนี้ในวงการได้เรียนรู้อะไรบ้าง?

“การเข้าสังคม การรู้เรื่องความรับผิดชอบ การมีระเบียบวินัยเพราะคนรอบข้างรวมถึง คนที่บ้านก็พูดว่าเรามีความรับผิดชอบแล้วก็โตขึ้นเยอะ จากเมื่อก่อนที่ค่อนข้างเหมือนเด็กงอแง คือพอเรามีความรับผิดชอบมากขึ้นมันก็จะทำให้เราคิดเยอะ พอคิดเยอะระบบความคิดมันก็พัฒนาให้โตขึ้น ถือว่าวงการบันเทิงนี่ก็ทำให้ เราเปลี่ยนไปเยอะ แต่ตัวตนเราจริงๆ ก็ยังคงเหมือนเดิม เราก็มีประสบการณ์มากขึ้น การใช้ชีวิตก็ต้องระมัดระวังและคิดมากขึ้น”

ตัวจริงเป็นสาวสไตล์ไหน เป็นสาวติสต์ช่างฝันรึเปล่า?

“ก็ไม่รู้นะ บางทีเราก็เขินถ้าคนบอกติสต์แต่แค่รู้สึกว่าเรามีความเป็นตัวของตัวเอง แล้วเราก็ค่อนข้างซัพพอร์ตความชอบของตัวเองได้ดีมากกว่า อาจจะด้วยภาพที่เราลงโซเชียลหรือเปล่าก็ไม่รู้คนก็เลยมองเราติสต์ แต่จริงๆถ้าคนที่ติดตามหนูตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยก็จะรู้ว่าหนูเรียนศิลปะหลงงานศิลปะที่เราทำโปรเจกต์ก็อยากจะลงโซเชียลบ้าง คนก็คงเอามารวม กันแล้วก็คิดกันไปว่าเราติสต์ แต่เราเป็นตัวของตัวเอง (หัวเราะ) มีความสนุกเฮฮา ไม่ค่อยเก็บเท่าไหร่ ขี้บ่น บ้าจี้”

ก่อนหน้านี้เราก็ตกเป็นข่าวกับโทนี่ ช่วงนั้นปรึกษากันอย่างไรบ้าง?

“พี่โทนี่กับเราจะรู้ว่าเป็นแบบไหน ประทับใจตรงที่พี่โทเป็นพี่ชายที่ดี อาจจะมีกวนประสาทไปบ้างแต่มันก็ธรรมดาของมนุษย์ ก็เป็นสไตล์เค้าแต่พี่เค้าดูแลน้องดีคอยเตือนสอนเสมอ ช่วงที่มีข่าวเราก็ได้คุยกัน พี่เค้าก็มีถาม ยูโอเคมั้ยเราก็แบบไม่เป็นไรพี่เรารู้กันอยู่แล้ว เรารู้สึกยังไง เราโอเค มันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าย้อนไป มีรักก็ต้องมีเลิกสุดท้ายยังไงมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเค้า เราก็ไม่ก้าวก่าย”

กลายเป็นตัวหลอก หนุ่มๆหายเพราะคิดว่ามีแฟนแล้วรึเปล่า?

“ไม่มีปัญหา และไม่มีแน่นอนค่ะ ตอนนี้เงียบเหงามากพี่ขา (หัวเราะ) ล้อเล่นๆ แต่ก็จืดๆ ต้องเอาเครื่องปรุงมาปรุงซะหน่อยล่ะมั้ง (หัวเราะ) คือหนูทำงานเยอะมาก ตอนนี้ถ่ายละครสองเรื่อง ทำงาน 7 วันเลย เราเลยไม่มีเวลาให้กับตัวเองเลยด้วยซ้ำค่ะ”

มีรักจะเปิดมั้ย หรือเก็บไว้เงียบๆ?

“คิดว่าต้องศึกษาระดับหนึ่งก่อน แต่ถ้ามีหนูก็เปิดแน่นอนเพราะเราจริงใจ เราคงไม่เลือกไปคบคนที่ไม่สามารถเปิดเผยได้หรอก หนูก็ไม่มีสเป็กตายตัวค่ะแต่จะดูนิสัยมากกว่า คุยรู้เรื่อง ชอบสิ่งเดียวกัน”.

...