ทำให้แฟนๆ อดเป็นห่วงไม่ได้สำหรับอาการป่วยของคุณพ่อนักแสดงหนุ่ม ก็อต อิทธิพัทธ์ ฐานิตย์ หลังจากคุณพ่อของหนุ่มก็อตเกิดอาการชักและหัวใจหยุดเต้นกลางโรงภาพยนตร์ และถูกนำตัวส่ง รพ. ซึ่งหนุ่มก็อตเองเผยว่าอาการของคุณพ่อยังไม่ค่อยดี ต้องอยู่ในห้องไอซียูตลอด พอนักข่าวได้เจอ ก็อต มาร่วมงานแถลงข่าว โครงการ “Friends for Life” อาคารทิสโก้ ทาวเวอร์ สาทรเหนือ เลยให้เจ้าตัวอัพเดตอาการของคุณพ่ออีกครั้งว่าเป็นยังไงบ้าง

อัพเดตอาการคุณพ่อ?
“ต้องบอกตามตรงว่า อาการยังทรงๆ อยู่ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ก็หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ครับ”
ได้พูดคุยกับคุณหมอว่ายังไงบ้าง?
“ตอนแรกที่ทราบอาการ คุณหมอก็คอยบอก อัพเดตอยู่ตลอด แต่ว่าเราเองก็ยังเชื่อในปาฏิหาริย์ ซึ่งจริงๆ เขาบอกว่าอาการคุณพ่อค่อนข้างหนักเลย”
มีสัญญาณที่ดีบอกมาบ้างหรือยัง?
“ส่วนใหญ่ เป็นว่าเราไปเฝ้าแล้วเราเห็นเองมากกว่า ว่าคุณพ่อมีขยับเปลือกตาบ้าง มีน้ำตาไหลบ้าง ซึ่งตรงนี้เราไม่ทราบว่าเป็นสัญญาณที่ดี หรือเป็นระบบปกติของร่างกาย ยังตอบไม่ได้แน่ชัดว่าคุณพ่อดีขึ้นไหม”
...
คาดหวังว่าพ่อจะฟื้นภายใน 1 สัปดาห์ ตอนนี้ 2 สัปดาห์แล้ว ใจเสียไหม?
“ตอนแรกคิดแค่ว่า 3 วันพ่อคงฟื้น แต่จะดูแลไปเรื่อยๆ ตอนนี้ไม่ได้กำหนดว่า 2 สัปดาห์จะฟื้นไหม เดือนหนึ่งจะฟื้นไหม คงดูแลไปจนสุดทาง สุดท้ายถ้าผลลัพธ์จะออกมายังไง ก็คงยอมรับผลที่ตามมา”
ตอนที่ก็อตบอกคุณพ่อมีปฏิกิริยา ก็อตกับครอบครัวรู้สึกยังไง?
“เวลาเห็นภาพนั้นค่อนข้างท้อ หดหู่ เห็นคุณพ่อจะคิดกับตัวเองตลอดว่าทำไมเราถึงทำอะไรไม่ได้เลย แต่พอมาคิดอีกที เราก็ดูแลเขาอย่างเต็มที่แล้ว สุดท้ายก็อยู่ที่คุณพ่อว่าจะสู้สุดทางมากแค่ไหน”
ได้บอกพ่อว่ายังไงบ้าง?
“เวลาไปเยี่ยม เข้าไปหาเขา พ่อตื่นขึ้นมาสู้ๆ ทุกวันนี้เอาใจช่วย เยี่ยมพ่อเสร็จมีเวลาว่างก็ไปทำบุญให้เขา อยากให้เขาฟื้นมาเร็วๆ”
ครอบครัวพูดคุยกันอะไรบ้าง?
“ผมก็ให้กำลังใจคุณแม่ คนที่หนักที่สุดน่าจะคุณแม่ ก็ให้กำลังใจเขา เดี๋ยวคุณพ่อก็ฟื้น อยู่กับหมอแล้ว”
ก็อตก็ตั้งสติ ทำงาน หยุดเศร้า?
“จริงๆ ก็เศร้า แต่ว่าเราเองต้องก้าวต่อไป มีงานค้างต้องทำ มีความเศร้าแต่งานต้องทำ เรายังมีครอบครัวต้องดูแล แม่ น้อง”
คุณแม่เป็นยังไงบ้าง?
“อาการค่อนข้างหนักเหมือนกัน ดูแลเต็มที่ ไปทำงานก็โทรหาตลอด เยี่ยมพ่อเป็นไงบ้าง อาการพ่อโอเคขึ้นไหม”
ชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้าง เป็นเสาหลัก?
“เปลี่ยนมากไหม เปลี่ยนไม่เยอะในเรื่องการใช้ชีวิต แต่คนสำคัญในครอบครัวล้มป่วย มีการปรับตัวบ้าง ไม่ชิน เมื่อก่อนอยู่กัน 4 คน ไปไหนมาไหนทำงาน พ่อแม่ไปกองไปเฝ้า ตอนนี้แม่ก็ไม่ได้มา แม่ไปเฝ้าพ่อ ผมไปทำงานคนเดียวก็เหนื่อยหน่อย”

จะสามารถพาคุณพ่อมาดูแลที่บ้านได้ตอนไหน?
“คุณหมอบอกว่าถ้าคุณพ่ออาการดีขึ้นก็จะให้กลับมาที่บ้าน แต่ตอนนี้คุณพ่อยังอาการทรงๆ ยังต้องอยู่ในมือคุณหมอ”
มีอะไรต้องระวังในการรักษาคุณพ่อ?
“ตอนนี้ยังอาการทรงๆ หมอจะตรวจอย่างใกล้ชิด บอกไม่ได้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง คุณพ่อยังไม่ฟิ้น ดูเป็นรายวัน เฝ้าอย่างใกล้ชิด”
ก่อนพ่อจะล้มป่วย พ่อเป็นเสาหลักหรือก็อตเป็นเสาหลักอยู่แล้ว?
“ตั้งแต่ผมเริ่มทำงาน ก็บอกคุณพ่อไม่ต้องทำงาน ก็ 2 ปีแล้วที่คุณพ่อไม่ได้ทำงาน เราเองทำงานตลอด ถามว่ารู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ก็ไม่ได้มาก เราทำงานมาตั้งแต่ต้น เราดูแลครอบครัวมาตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ ก็ปีสองปีแล้ว พอพ่อป่วย เรื่องค่าใช้จ่ายเราก็ดู เพียงแต่ต้องโฟกัสมากขึ้นว่าต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง”
...
หนักไหม คิดค่าใช้จ่ายยังไง?
“ส่วนใหญ่ก็เป็นเดือน หนักไหมก็ไม่หนัก ประหยัดเอา อยากให้คุณพ่อฟื้นกลับมาเหมือนเดิมมากกว่า เป็นความรู้สึกมากกว่าให้มันดีขึ้น”
รับงานเยอะขึ้นไหม?
“ไม่ได้ขนาดนั้น เรามีงานที่ทำค้างไว้อยู่ แต่ถ้ามีงานมามากกว่าปกติก็พร้อมสู้”
การใช้ชีวิตก็ประหยัดขึ้น?
“โดยปกติก็เป็นคนประหยัดอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ก็ประหยัดมากขึ้น เราอาจจะต้องคิดมากขึ้นว่าจะต้องใช้จ่ายอะไร เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีก”
ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไปเลยไหม ไม่ออกไปเที่ยวไม่เจอเพื่อน ทำงานเก็บเงิน?
“ช่วงนี้ไม่ได้เจอใครเท่าไร ส่วนใหญ่ทำงานก็เหนื่อยมาก พักอย่างเดียว ไม่ได้ออกไปเจอใคร”
ค่าใช้จ่ายในการรักษาพ่อ?
“ตอนแรกค่อนข้างสูง ไม่บอกจำนวนแต่สูงมาก ก็เป็นเรื่องค่อนข้างหนัก แต่โชคดีเหมือนคุณพ่อมีประกันของเขา เลยช่วยเหลือได้เยอะ”

...
มีคนให้ความช่วยเหลือไหม?
“ตอนคุณพ่อเข้าโรงพยาบาลใหม่ๆ เข้าไอซียู มีคนในวงการหรือคนรู้จักเข้ามาช่วยเหลือเยอะแยะไปหมด ก็ดีใจที่มีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ ไม่งั้นเราเองคนเดียวก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”
จากวันแรกที่พ่อป่วยถึงตอนนี้นานแค่ไหนแล้ว?
“ตอนนี้ก็น่าจะสองสัปดาห์แล้ว”
กำลังใจดี?
“กำลังใจดี ก็ได้กำลังใจจากแฟนๆ และคนรอบตัว พี่ๆ ผู้ใหญ่”.