เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นราชมังคลากีฬาสถานเลยทีเดียว เมื่อพระเอกหนุ่มฮอต ณเดชน์ คูกิมิยะ โชว์หวานนอกสคริปต์ดึงตัวนางเอกสาวคู่ใจ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ มากอดระหว่างโชว์ร้องเต้นในงานมหกรรมช่อง 3 ครบรอบ 49 ปี เมื่อวันเสาร์ 2 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา
พอได้เจอ ณเดชน์ มาร่วมงานเปิตดัว “Autobot” หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ตอบโจทย์ทุกบ้าน และฉลองการจับมือกับ “Shopee” ณ ชั้น 1 โซนอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นักข่าวเลยไม่พลาดถามถึงเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งถามถึงความคืบหน้าคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในชีวิต “Real Nadech Concert” และวันออนแอร์ของละคร “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” ที่เจ้าตัวเล่นคู่กับนางเอกสาวมั่น แมท ภีรนีย์ คงไทย ด้วย
ถามถึงงานฟุตบอลช่อง 3 เป็นไงบ้าง?
“ก็ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่ไปร่วมสนุกกันครับ ยิ่งฝั่งสแตนด์ของแฟนคลับทุกคนสุดยอดมากๆ เขาไปรอตั้งแต่เช้า อยู่กันจนถึง 1-2 ทุ่ม ขอบคุณทุกคนมากๆ ขอบคุณแฟนคลับของผมด้วยครับที่เป็นแฟนคลับที่น่ารักมากๆ ให้กำลังใจ คอยส่งเสียงเชียร์ คอยกรี๊ดกันตลอดครับ ขอบคุณแฟนคลับ NY ด้วยที่สร้างสแตนด์ไว้ ขอบคุณมากจริงๆ ครับ”
...
ในงานเราก็สู้ตายเหมือนกันนะ?
“ก็ถือเป็นการทำงานที่ให้กับแฟนๆ ครับผม พี่ก้อง พี่สมรักษ์ ทีมงานก็บอกว่ามันคือการตอบแทนแฟนคลับทุกคนที่มาดูที่สนาม ทั้งที่อยู่ทางบ้านด้วย ถ้าไม่เต็มที่ก็กระไรอยู่ ดังนั้นก็ต้องเต็มที่ให้กับเขา ให้เขาได้สนุก อยู่ที่บ้านก็จะได้ลุกขึ้นมาเต้นด้วยครับ”
แล้วที่นอกสคริปต์ไปกอดญาญ่าตอนเต้นนี่เตรียมมาจากบ้านรึเปล่า?
“(หัวเราะ) คือมันก็อินกับจังหวะไปกับเพลง ก็ประมาณนั้นแหละ เลยดึงเขาเข้ามา แต่ว่าต่างคนก็ต่างตกใจ ไม่ได้หอมแก้มหรืออะไร ไม่ใช่อย่างนั้น”
เตรียมมาก่อนมั้ยว่าจะทำแบบนี้?
“ไม่มีครับ จริงๆ แล้วท่าทุกท่าที่ผมเข้าไปหาแต่ละคนก็คือมา ณ ตอนนั้นเลย คิดสดเลย มันมาเอง ไม่ได้ฟิกซ์ เพราะถ้าฟิกซ์ยิ่งเพิ่มการบ้านเข้าไปอีก”
ความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง เขาน่ารักเกินเหรอ?
“ผมก็ตกใจเหมือนกันครับ (ยิ้ม)”
คิดมั้ยว่าจังหวะมันจะเป๊ะขนาดนั้น?
“อาจจะด้วยมุมภาพมุมกล้องเลยทำให้ดูเหมือนเป็นการหอมแก้ม แต่ไม่ใช่ครับ จริงๆ เป็นการดึงเข้ามา ถามว่าของจริงโดนมั้ย เอ่อ...ไม่โดนครับ ผมจำได้ว่าผมตกใจเหมือนกันครับ แต่น้องตกใจกว่า”
ตอนนั้นที่น้องตกใจ เรารู้สึกยังไงบ้าง?
“ผมก็สงสารเขาครับ (หัวเราะ) แต่ก็สนุกดีครับ ไม่มีอะไร ก็เป็นซีนที่เหมือนอิมโพรไวส์กันทั้งหมดเลยครับ”
เขามีถามมั้ยว่าทำไมถึงทำ?
“หลังจากลงเวทีก็บอกเหมือนกันว่าตกใจเลย ไม่มีอะไร เขาไม่ได้ว่าอะไรนะ”
นักแสดงคนอื่นมีแซวมั้ย?
“ไม่มีครับ (แต่คนแซวเราเยอะมากเลยนะ?) ใช่ หลังจากมีภาพออกไป คนก็เข้าใจว่าผมหอมแก้ม แต่ไม่ใช่ครับ”
แล้วคอนเสิร์ตใหญ่ของเราจะมีพิเศษนอกสคริปต์แบบนี้มั้ย?
“จริงๆ ก็ไม่แน่ครับ ครุอู๋จะบอกเสมอว่าความสนุกของการทำคอนเสิร์ตหรือการแสดงมันไม่ได้อยู่ที่การทำตามคำสั่งหรือสคริปต์ แต่บางทีการนอกสคริปต์มันเป็นตัวตนของเรา มันเป็นความสนุกซึ่งเกิดจากอารมณ์ ณ ขณะนั้น ด้วยเพลง ด้วยแฟนๆ ที่อยู่ตรงนั้นด้วย มันทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นมาเอง เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เป็นสิ่งที่ออกมาแล้วดูเป็นสิ่งที่จริงที่สุด ทุกคนอาจจะคาดหวังอะไรแบบนี้ในคอนเสิร์ต อันนี้ผมก็ให้คำตอบไม่ได้ แต่ว่ามันจะต้องมีแบบนี้แน่ๆ อยู่แล้ว อะไรที่มันเป็นเคมีระหว่างแขกรับเชิญกับตัวศิลปิน มันจะเป็นตรงนั้นอยู่แล้ว รับรองว่าไม่มีอะไรที่เป็นสคริปต์จ๋า ไม่มีอะไรที่ทำให้เฝื่อนหรือเบื่อแน่นอนในคอนเสิร์ตครับ”
แต่เรื่องความฟินมีมาเสิร์ฟแน่นอน?
“มี แต่ว่าผมทำคอนเสิร์ตกับน้องญาญ่ามาค่อนข้างเยอะแล้ว นี่คือโจทย์ที่เราจะต้องแก้ทางคนดูว่าคนดูจะเดาอะไรออกบ้าง คนดูจะคิดว่าเราทำอะไรมาแล้วบ้าง และคนดูคิดว่าเราจะทำอะไร แต่เราอาจจะไม่อยากทำในสิ่งที่คนดูคาดเดาได้ อยากทำอะไรที่มันไปได้มากกว่านั้น จะพยายามทำให้ได้ครับ”
...
แสดงว่าถ้าอินเนอร์มันพาไปมากกว่านี้ ในคอนเสิร์ตอาจจะเห็นได้มากกว่านี้?
“โอ้โหพี่ มันไม่ขนาดนั้นรึเปล่า (ยิ้ม) ก็ยังเป็นคนสาธารณะอยู่”
ณเดชน์ดูเป็นจอมวางแผนเหมือนกันนะ ต้องมีคิดไว้บ้างแหละ?
“ไม่มีเลยครับ ณ เวลานั้นมาเองเลยครับผม”
ตอนนี้เตรียมตัวเรื่องคอนเสิร์ตไปถึงไหนแล้ว?
“ตอนนี้เตรียมงานไป 50 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ”
โปสเตอร์ที่ออกมา ฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง?
“อันนี้ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าแฟนๆ จะยังไง แต่ก็มีหลายๆ คนชอบนะครับ มันก็จะเป็นเหมือนวาไรตี้นิดนึง จะได้เห็นความสนุกในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักร้องป๊อปแดนซ์ อาจมีการเต้นแบบแบทเทิลเกาหลีนิดหน่อย หรืออาจมีความเป็นลูกทุ่งหรือสามช่า แต่จริงๆ มันก็เป็นแค่ตัวโปสเตอร์ครับ แต่ข้างในจริงๆ มีอะไรที่มากกว่านี้เยอะอยู่แล้ว”
แสดงว่าโชว์มีทุกรูปแบบเลย?
“ใช่ครับ เอาทุกอย่างที่มีในชีวิตออกมาให้หมดครับผม ไม้สุดท้ายแล้ว เอาว่างั้นแล้วกันสำหรับคอนเสิร์ตนี้”
...
ณเดชน์คิดว่าถ้าจบคอนเสิร์ตนี้แล้วอาจไม่มีโอกาสทำอีก?
“ผมว่ามันเป็นโอกาสที่ยาก ผมไม่รู้ว่าหลังจากนี้ไปมันจะมีโอกาสแบบนี้รึเปล่า แล้วมันไม่ใช่โอกาสง่ายๆ ด้วย ถ้าคอนเสิร์ตจบไปก็คงจะเป็นนักแสดงรับละครปกติ คงกลับมาในชีวิตโหมดปกติ แต่อันนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่ท้าทายผมมากเหมือนกัน ผมไม่รู้สึกว่าถ้าทำผิดพลาดแล้วเป็นจุดบอดในชีวิตผม แต่ผมรู้สึกว่าผมกล้าที่จะทำมากกว่า มันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมมีความสุขที่จะได้ทำแบบนี้ให้กับแฟนๆ ที่เขาต้องจ่ายเงินเพื่อมาดูผมครับ ก็อยากเต็มที่ให้กับมันมากที่สุด”
แปลว่าอาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเรา?
“ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายรึเปล่า แต่ถ้ามีคอนเสิร์ตที่เราเป็นแขกรับเชิญปกติก็คงจะมีอยู่แล้ว แต่ถ้าคอนเสิร์ตเดี่ยวแบบนี้เป็นผมก็คิดหนักเหมือนกันใช่มั้ย มันเป็นภาระที่เหนื่อยมากเหมือนกัน แต่ผมก็จะทำให้ได้ครับ”
แล้วละคร “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” มีกำหนดออนแอร์แล้วใช่มั้ย ตอนแรกเหมือนจะเลื่อนไป?
“จริงๆ กะว่าเดือน เม.ย. แต่ช่วงสงกรานต์คนดูก็คงจะไปพักผ่อน มันเป็นเรื่องของการตลาดด้วยครับ พอผู้ใหญ่บอกว่าหลังสงกรานต์ต้องออนแอร์แน่ๆ เพราะว่าเรามีสัญญากับจีน ซึ่งเราเซ็นไว้แล้ว ระบุไว้แล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องออนพร้อมกับเขา”
แบบนี้ถ้าเราขยับเวลาก็จะมีปัญหากับที่จีนมั้ย?
“คือมันเพิ่งถ่ายเสร็จประมาณปลายเดือน ม.ค. แล้วต้องทำโพสต์ (Post Production) อีก ทำซีจี แล้วซีจีเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะมากๆ ก็เลยต้องเสียเวลา 2-3 เดือนในการทำก่อนที่จะส่ง พี่หน่องกับพี่ใหม่และทีมงานก็เข้าไปอยู่ในห้องตัดตลอดครับ”
...
อันนี้คือช่องเคาะมาแล้ว?
“เท่าที่ผมทราบมาแน่ๆ น่าจะเป็นช่วงเดือน พ.ค. คือที่พูดไปก่อนหน้านั้นเข้าใจว่าปลายปีต้องออน แต่ในเมื่อมันไม่ทันแล้ว ต้นปีก็ปิดไม่ทันอีก ก็เลยเลื่อนมาเรื่อยๆ แต่ว่าถ้าเป็นไปได้มากที่สุดผมว่าน่าจะเป็นหลังสงกรานต์แน่ๆ ไม่น่าจะเลื่อนอยู่แล้วครับ จริงๆ มีสัญญากับทางจีนอยู่แล้วครับว่าต้องฉายพร้อมกัน”
ลุ้นมั้ยเพราะขยับมาตลอดเลย?
“ไม่ลุ้นครับ แต่ก็อยากให้แฟนๆ อย่าเพิ่งแบบว่าเมื่อไหร่จะออน นานจังเลย ผมเข้าใจว่าก็มีคนที่อยากจะดูอยู่แล้ว ก็รอนิดนึง รับรองว่าถ้าตอนที่ตัดต่อเสร็จแล้วมันจะเป็นอะไรที่สวยมากๆ ครับ”.