เงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านในวงการหนังไทย จะเติบโตต่อไปได้เรื่อยๆ หรือไม่ทั้งในไทยและต่างประเทศ หรือว่าอนาคตหนังไทยจะต้องค่อยๆ ตายไป หนังไทยจะเติบโตได้อย่างมีทิศทางที่ดีนั้น จะต้องได้คนที่รู้จริงทำจริง มาร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาวงการหนังไทย ระบบที่ดีก็ต้องมาจากคนที่รู้จริงเข้าใจในหนังไทย

การเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง หลายพรรคนำเสนอนโยบายต่างๆ น่าสนใจแตกต่างกัน แต่เรายังไม่ค่อยเห็นนโยบายด้านบันเทิง โดยเฉพาะนโยบายเกี่ยวกับหนังไทย จากพรรคการเมืองต่างๆ กันมากนัก

อีกหนึ่งผู้กำกับหนังชื่อดัง คุณชายอดัม หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล ลูกชายของท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล กล้าคิดกล้าพูด เปิดใจยาวๆ อย่างละเอียดยิบกับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ถึงนโยบายต่างๆ ที่หวังอยากจะให้รัฐบาลใหม่ ได้ร่วมด้วยช่วยกันผลักดันให้เกิดขึ้นได้จริงๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับวงการหนังไทยในภาพรวม

"นโยบายด้านการสนับสนุนการถ่ายทำ การพิจารณาบทที่ส่งเสริมที่ท่องเที่ยว ได้รับการยกเว้นค่าสถานที่ถ่ายทำ เพื่อการประชาสัมพันธ์ประเทศผ่านสื่อภาพยนตร์ โดยประโยชน์นั้นทำให้ทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและภาคเอกชน ที่ทำงานได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย การสนับสนุนบูธและบริการรวบรวมหนังอิสระไปขายในตลาดภาพยนตร์ต่างชาติ ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้สร้างอิสระ ให้สามารถนำผลงานดีๆ เข้าไปสู่สายตาของผู้ลงทุนทั่วโลกได้ง่ายยิ่งขึ้น

"การการันตีรายได้ขั้นต่ำของทีมงานภาพยนตร์ และการสอบวัดผลตามแบบของกระทรวงแรงงาน เพื่อลดการตัดราคาเพื่อแย่งงานภายในอุตสาหกรรม และในขณะเดียวกัน เพื่อการสร้างมาตรฐานของทุนที่เหมาะสม ขณะเดียวกับที่แรงงานในอุตสาหกรรมอื่นๆ มีรูปแบบชัดเจน แต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ยังไม่มีแต่อย่างใด

"การออกมาตรฐานการพิจารณาหนัง กำหนดเรตติ้งที่ชัดเจน เพื่อมีกลไกป้องกันการใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบ หรือยกผลให้แก่กลุ่มบุคคลเพียงกลุ่มหนึ่งมาตัดสินศิลปะ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากประชาชนโดยรวม

...

"การสนับสนุนพื้นที่ประชาสัมพันธ์ งานประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสุพรรณหงส์ เพื่อสร้างอุตสาหกรรมให้ดูน่าเชื่อถือในประเทศไทย เป็นการขับแบรนดดิ้งอิมเมจ Branding Image ของภาพยนตร์ไทย ว่ามีมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"การเว้นภาษีภาพยนตร์ที่อยู่ในเรตติ้ง "ส่งเสริม" เพื่อส่งเสริมให้เกิดภาพยนตร์ อุดมไปด้วยสิ่งที่สนับสนุนสังคมมากยิ่งขึ้น และการยกเว้นภาษีภาพยนตร์หากเข้าข่าย ในส่วนที่ช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชน หนังฝรั่งถ่ายในไทยหากมีการลงทุนในจำนวนหนึ่งสามารถคืนได้ แต่หนังไทยไม่มีคืนภาษีครับ

"การสนับสนุนค่าใช้จ่ายการลงทุนภาพยนตร์ 50% หากมีการลงทุนแล้ว แบบสิงคโปร์ ออสเตรเลีย ยุโรปหลายๆ ประเทศ เกาหลี ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ มีการรวบบริการการขออนุญาตหน่วยงานรัฐ ด้านการถ่ายทำในที่เดียว วันสต็อปเซอร์วิส (One Stop Service) ทั้งหน่วยงานทหาร ตำรวจ จังหวัด อบต. อบจ. ทางหลวง เพื่อให้การถ่ายทำเป็นไปด้วยความรวดเร็ว แม่นยำ ลดการคอร์รัปชันของหน่วยงานราชการต่อผู้ผลิตภาพยนตร์ไทย

"การประสานกับ ททท. ในการผลักดันสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดรอง ผ่านทางภาพยนตร์ เพื่อสร้างมูลค่าการท่องเที่ยวผ่านภาพยนตร์ การสนับสนุนค่าตัวนักแสดง ทีมงานต่างชาติในการมาร่วมงานเทศกาลหนังในประเทศ เพื่อช่วยสร้างภาพลักษณ์ ต่อการเป็นศูนย์กลางการผลิตภาพยนตร์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียในอันดับต่อมา

"การคืนภาษีจากการฉายภาพยนตร์ไทย ในโรงภาพยตร์ทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นให้โรงภาพยนตร์เปิดพื้นที่ ให้ฉายภาพยนตร์ไทยสู้กับภาพยนตร์สากลได้ โดยยังให้อิสระแก่เอกชนในการดำเนินงาน

"การจัดโรดโชว์ Road Show การลงทุนภาพยนตร์ไทยในต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างชาติเข้ามาผลิตภาพยนตร์ในเมืองไทย อันจะนำพามาซึ่งเม็ดเงิน และองค์ความรู้ในการผลิตภาพยนตร์ที่ดี จากทั่วทุกมุมโลก การสนับสนุนให้การมีแพลตฟอร์ม Platform การฉายภาพยนตร์ออนไลน์ให้กับภาพยนตร์ไทยอิสระ สตูดิโอ เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ชม และเป็นแหล่งรายได้สำรองสำหรับภาพยนตร์อิสระ ที่ไม่มีแพลตฟอร์ม Platform ที่สร้างรายได้และจำนวนผู้ชม ให้ผู้สร้างภาพยนตร์ได้มากพอ

"บริการแปลภาษาอังกฤษ สำหรับบทภาพยนตร์เพื่อส่งให้ซื้อสิทธิ์ Remake หรือพิจารณาลงทุนในภาพยนตร์นั้นๆ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายการแปลซึ่งมีสูง และทำให้ภาพยนตร์เรื่องนั้น มีโอกาสได้เข้าถึงตลาดโลกได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลสามารถเข้ามาสร้างอินฟราสตรัคเจอร์ Infrastructure หรือโครงสร้างที่จะช่วยผลักดันให้ภาพยนตร์ไทยก้าวกระโดดได้ ด้วยการเข้าใจอุตสาหกรรมและความต้องการที่แท้จริง โดยต้องคำนึงว่าภาพยนตร์นั้น คือสินค้าที่มีมูลค่า ไม่ใช่เพียงเครื่องมือทางการเมือง หรือเป็นอริศัตรูต่อนักการเมือง และหน่วยงานรัฐดังเช่นที่เห็นใน พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้"

บอกดังๆ เลยว่าห้ามพลาด! งานนี้น่าสนใจมากๆ สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ร่วมกับมูลนิธิศิลปวัฒนธรรมเพื่อประชาชน และ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ ขอเชิญร่วมงานเสวนา ครั้งที่ 3 หัวข้อ อนาคตหนังไทยหลังการเลือกตั้ง Thai Movie After Election! วันพุธที่ 6 มีนา 62 เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ.ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ ตรงสี่แยกปทุมวัน งานนี้เข้าฟังฟรี

...

ร่วมเสวนาโดย หลากหลายพรรคการเมือง

1. พรรคเศรษฐกิจใหม่ : คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ

2. พรรคประชาธิปัตย์ : คุณอลงกรณ์ พลบุตร

3. พรรคอนาคตใหม่ : คุณธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์

4. พรรครวมพลังประชาชาติไทย : คุณเถกิง สมทรัพย์

5. พรรคชาติไทยพัฒนา : คุณรัฐชทรัพย์ นิชิด้า

6. พรรคสามัญชน : คุณอนุสรณ์ สร้อยสงิม 

7. พรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย : คุณธนพร ศรียากูร

8. ตัวแทนจากสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย : หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล

ดำเนินรายการโดย คุณกัลป์ หงษ์รัตนาภรณ์ กำหนดการเสวนา รออีกหน่อยในวันพุธที่ 6 มีนา 62 เริ่ม 12.00 - 12.30 ลงทะเบียน 13.00 - 15.30 น. ตัวแทนแต่ละพรรคแถลงนโยบายด้านภาพยนตร์ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 15.30 - 16.00 น. แลกเปลี่ยนประเด็นคำถาม จากผู้เข้าร่วมฟังเสวนา สำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด่วน! ที่คุณมุก เลขาสมาคม 096 659 3969