เป็นคู่รักอีกคู่ของวงการบันเทิงที่คบกันมายาวนานมาก กับคู่ของนักแสดงสาว ซาร่า เล็กจ์ กับแฟนหนุ่ม เอ็ม สืบสกุล หรือ เอ็ม OIC อดีตพิธีกรสุดฮอตรายการวัยรุ่นชื่อดัง ซึ่งคู่นี้คบกันมานานกว่า 15 ปี

และล่าสุดเมื่อวานนี้ได้จัดงานมงคลสมรสกันไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีคนในครอบครัว เพื่อนสนิท และคนที่สนิทมาร่วมงาน และในวันนี้ (26 ม.ค.) ทั้งสองได้จัดงานฉลองมงคลสมรส ที่ The Glass House at Park Nai Lert

และทั้งคู่ก็ให้สัมภาษณ์สื่อคู่กันเป็นครั้งแรกอีกด้วย โดยบอกว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คู่กันหลังจากคบกันมา 15 ปี และยังบอกอีกว่า ทั้งสองคนต่างเป็นแฟนคนแรกของกันและกันอีกด้วย

15 ปีที่รอคอยเป็นยังไงบ้าง?
เอ็ม “ขอบคุณทุกท่านมากๆ ที่มาร่วมงานแต่งของเรา 2 คน”

ซาร่า “15 ปีเป็นยังไงบ้างพี่เอ็ม (ยิ้ม) นี่เป็นครั้งแรกที่เรา 2 คนสัมภาษณ์คู่ใช่รึเปล่า (หันไปถามเจ้าบ่าว)”

เอ็ม “ก็เหมือนจะเป็นอย่างนั้นครับ 15 ปีที่ผ่านมาเราโตมาด้วยกัน ผมก็รู้จักกับน้อง และอยู่กับน้องมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นผมก็เริ่มเป็นดีเจ ถ้าพี่ๆ คนไหนจำได้นะครับ และเราก็ผ่านทุกอย่างมาด้วยกัน มีความสุขมาด้วยกัน สุดท้ายก็โตมาด้วยกันจนทุกวันนี้ครับ”

...

ซาร่า “15 ปี รู้สึกมันเร็วมากค่ะ เราก็โตมาด้วยกัน ช่วยเหลือกันและกันค่ะ”

เปลี่ยนจากคำว่าแฟนเป็นสามีภรรยา?
ซาร่า “ตื่นเต้นค่ะ มันก็ยังไม่ชินอยู่แล้วเนอะ เราก็ตื่นเต้นในทางที่ดี อนาคตเราจะต้องเปลี่ยนสรรพนามเป็นสามีภรรยา มันก็อารมณ์มีความสุขค่ะ”

เปลี่ยนเป็นสามีภรรยาเขินมั้ย?
ซาร่า “เขินๆ เอาจริงๆ เขิน (ยิ้มเขิน)”

เมื่อวานงานเป็นยังไงบ้าง?
ซาร่า “เมื่อวานนี้เป็นวันที่มีความสุขมาก ไม่รู้ตัวเลยว่าจะตื่นเต้นได้มากขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเราจัดงานค่อนข้างเล็กและอบอุ่นค่ะ เน้นคนในครอบครัวจริงๆ เพื่อนที่มาจะเป็นเป็นเพื่อนสนิทด้วย

และเค้าก็เห็นเรา 2 คนมา 15 ปี เค้ารู้เส้นทางความรักของเรา และเค้าก็จะเข้าใจเรา ก็จะมีน้ำตาเยอะมาก เมื่อวานนี้จะเป็นวันที่ซาร่า เพื่อนๆ เรา ครอบครัวเราร้องไห้เยอะมาก”

เอ็ม “ร้องไห้ครับ เป็นน้ำตาที่มีความสุขครับ คือร้องไห้ครั้งแรกคือตอนที่เดินมาหาเจ้าสาวครับ เพราะเราไม่ได้เจอกันเลย ไม่ให้ผมได้เห็นชุดของเค้าเลย ชุดเค้าสวยมาก

แต่ผมก็ไม่มีโอกาสได้เห็น เค้าก็มานั่งรอในกลาสเฮ้าส์ แล้วเค้าจะเขียนการ์ดใบหนึ่งให้ผมอ่าน พออ่านเสร็จก็น้ำตาไหล หลังจากนั้นก็เหมือนเปิดก๊อกแล้วไหลทั้งวันเลยครับ”

วางแพลนชีวิตคู่ไว้ยังไงบ้าง?
ซาร่า “จริงๆ เราสองคนก็แพลนกันมาเรื่อยๆ อยู่แล้วนะคะ ซื้อบ้านตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ก็ทำอะไรไปเรื่อยๆ ยังใช้ชีวิตทำงานปกติไปเหมือนเดิมค่ะ”

...

จดทะเบียนสมรสรึยัง?
ซาร่า “เราแพลนไว้จะจดทะเบียนสมรสวันที่ 9 ก.พ. ค่ะ ซึ่งตรงกับวันที่เราเจอกันครั้งแรก”

เอ็ม “ครับ ก็ 15 ปีที่แล้วครับ(ยิ้ม)”

เรื่องลูกมีเลยมั้ย?
เอ็ม “จริงๆ ผมอยากมี ผมพูดเลย คือในอนาคตเวลาเราทำอะไร มันจะได้มีความหมายขึ้น ตอนนี้เราก็มีความหมายชีวิตคือคนนี้แล้วใช่มั้ย(หยิบมือเจ้าสาวมาจับ) ต่อไปในอนาคตเราก็อยากมีความหมายร่วมกันด้วย แต่ว่าต้องรอเจ้าสาวผมจะพร้อมเมื่อไหร่”

ซาร่า “น่าจะขอเวลาซาร่าอีกสักปีนะคะ ขอตั้งตัวก่อนค่ะ”

...

ให้คำมั่นสัญญากันยังไงบ้าง เราเดินหน้าไปอีกสเตปแล้ว?
ซาร่า “จริงๆ เราไม่ได้มีคำมั่นสัญญาแบบตายตัวค่ะ แต่ว่าเราให้กำลังใจกันตลอดเวลาค่ะ แล้วเรามีอะไรดีๆ เราก็แนะนำกันเสมอ เราบอกกันเสมอไม่ว่าเราสองคนจะทะเลาะอะไรกัน แต่สุดท้ายแล้วเราอยากให้ผลลัพธ์ของเราสองคนดีขึ้น ทุกๆ ปัญหาที่มีมันเหมือนชาเลนจ์ที่เรารู้จักกัน ทำให้มันดีขึ้น เป็นบทเรียนค่ะ”

เอ็ม “ผมว่ามันเป็นความเข้าใจกันและปรับความเข้าใจกัน ทุกปัญหาที่มันเกิดขึ้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเปิดใจเพื่อรับฟังอีกฝั่งว่าเค้าคิดยังไง เราก็เรียนรู้ไปด้วยกัน

สุดท้ายมันก็ทำให้เราโตขึ้นเรื่อยๆ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ผมบอกว่า เราโตมาด้วยกัน เวลาเรามีปัญหาเราก็เปิดใจและแก้ไปด้วยกัน มันก็เลยทำให้เราสตรองขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้ครับ”

...

แพลนฮันนีมูน?
ซาร่า “ตอนแรกเราก็กะว่าไม่ได้ซีเรียสเพราะเราเที่ยวกันเรื่อยๆ อยู่แล้ว พอตอนหลังเรามาเตรียมงาน จัดงาน เราเข้าใจแล้วว่าคนที่เค้าไปฮันนีมูนกันทีหลัง หลังจัดงานเสร็จมันควรมากๆ เลย เพราะเราควรรีแลกซ์ แล้วมีงานเข้าค่ะ ก็เลยอาจจะไปทำงานก่อนแล้วอาจจะไปด้วยกันทีหลังค่ะ”

แหวนเพชร?
ซาร่า “เป็นไซส์ที่กำลังดีค่ะ สวยงาม เหมาะกำลังดีค่ะ”

สินสอด?
เอ็ม “ก็กำลังเหมาะ กำลังดีครับเหมือนแหวนเพชร”

เรื่องงานแต่งในงานเป็นยังไง?
เอ็ม “เรื่องงานเมื่อวานนี้อยากพูดมากครับ คือเจ้าสาวผมเก่งมากครับ คือภาพที่เห็นเมื่อวาน เจ้าสาวเค้าช่วยคิดช่วยทำ เรามีคนช่วยรันงาน แต่เราไม่มีแบ็กเทรนเนอร์ น้องเค้าจะช่วยจัดช่วยทำหมด น้องเค้าทำเองหมด ทั้งตกแต่ง เรื่องเพลงเราก็ช่วยกันเลือกว่าจะเอาวงไหนมาเล่นดี ซึ่งเราเองก็ทำเองหมดเลย” 

ซาร่า “เราอยากให้เป็นงานที่เป็นงานของเราสองคนจริงๆ มันเป็นโมเมนต์ที่เราอยากจะจำทุกอันเลย”

คบกันมา 15 ปี ก็ยังเหนียวแน่นตลอด 15 ปี?
เอ็ม “จริงๆ บอกไปแล้วเราใช้การเปิดใจในการคบกัน ตอนนั้นน้องก็อายุ 21-22 ปี พอเรามาเจอกันมันก็จะเกิดการเรียนรู้ คือถ้าคุณมั่นใจว่าคนนี้เป็นของคุณ คุณก็พร้อมจะเปิดใจ พร้อมเรียนรู้เค้า แล้วเราก็โตไปด้วยกัน สุดท้ายก็แมาแต่งงานกับเค้า”

ก่อนหน้านี้เอ็มไปทำงานที่สิงคโปร์ด้วย?
เอ็ม “ใช่ครับ ก่อนหน้านี้ผมถูกย้ายไปทำงานที่สิงคโปร์ประมาณปีครึ่ง แล้วก็ถูกย้ายกลับมาครับ ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ”

ซาร่า “เริ่มคิดแล้วว่าช่วงนั้นเราใกล้ที่จะเปลี่ยนสถานะ แต่งงาน เค้าก็เริ่มแพลนแล้วว่า จะแต่งงานก็เลยกลับมาเตรียมงานด้วย จังหวะมันก็เลยเพอร์เฟกต์ค่ะ”

เอ็ม “ช่วงนั้นเราก็ไปมาหาสู่กันตลอด ถึงแม้ว่าผมจะเบสอยู่ที่นั่นครับ เพราะงานที่ทำก็มีโอกาสกลับมาที่ประเทศไทยบ่อยๆ ซึ่งน้องก็มีโอกาสได้ไปหาบ้าง จริงๆ แทบจะเจอกันเกือบทุกอาทิตย์ครับ มันก็เลยไม่ได้ห่างกันมาก แต่ว่าอย่างหนึ่งมันก็ทำให้เรามั่นใจขึ้นเนอะ ความห่างไกลมันไม่ได้ทำให้เราเปลี่ยนไป หรือความรักเราเปลี่ยนไป”

อยากบอกอะไรกันและกัน?
เอ็ม “ก็อยากขอบคุณเค้าครับ เพราะว่าตั้งแต่อย่างที่พี่ๆ รู้ เราไม่เคยมีแฟนด้วยกันทั้งคู่ เป็นคนแรกของกันและกัน เค้าเข้ามาโลกก็เปลี่ยนไปเนอะ มันไม่ได้แค่เปลี่ยนไปแต่มันทำให้ดีขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นตัวผมเอง แต่เป็นความรักที่เรามีให้กันทุกอย่าง ก็อยากขอบคุณเค้าที่เข้ามาแล้วทำให้ทั้งโลก ทั้งตัวเองและตัวเค้าด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างมันดีไปหมดเลยครับ”

ซาร่า “เราโตมาด้วยกัน ซาร่าชอบบอกพี่เอ็มว่า โชคดีมากเลยที่ซาร่าได้มาเจอพี่เอ็ม เหมือนกับชีวิตคนหนึ่งได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้มาเจอพี่เอ็มแล้วได้ใช้ชีวิตที่เหลือกับคนๆ นี้ ซาร่าว่าโชคดีมากเลย ขอบคุณที่พี่เอ็มดูแลซาร่ามาอย่างดีมากๆ แล้วมีอะไรหลายๆ อย่างที่พี่เอ็มพิสูจน์ ขอบคุณนะคะ”

เอ็ม “ขอบคุณเช่นกันนะครับ(หันบอกไปเจ้าสาว)”.