เตรียมเป็นเจ้าสาวป้ายแดงคนล่าสุดของวงการบันเทิงเรียบร้อยแล้วสำหรับนักแสดงสาว บี มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์ หลังจากไฮโซหนุ่ม กร กรกฤช จุฬางกูร ขอแต่งงานไปเมื่อวันก่อน ท่ามกลางเพื่อนๆ ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานรักครั้งนี้ ทำเอาสาวบีถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจและซึ้งใจ เพราะไม่คิดว่าจะถูกแฟนหนุ่มขอแต่งงาน พอนักข่าวได้เจอสาวบีมาร่วมงาน The Iconic Night Party ณ โรงภาพยนตร์ ไอคอน ซีเนคอนิค ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม เลยถามถึงเรื่องดังกล่าว

บี มาติกา
บี มาติกา

ถามถึงวันที่ถูกขอแต่งงาน โมเมนต์วันนั้นเป็นยังไงบ้าง?

“วันนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นและก็ตกใจมากๆ เพราะจริงๆ วันนั้นแค่จะไปกินข้าวฉลองครบรอบกันสองคน ก็ปฏิบัติตามธรรมเนียมทั่วไปคือได้รับดอกไม้แล้วก็กลับบ้าน แต่เป็นแผนของทางพี่กรให้พนักงานโรงแรมซึ่งเป็นฝรั่งมาเชิญเราให้ไปถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ของโรงแรมเพื่อได้รับส่วนลด พอเดินไปเสร็จตากล้องก็บอกให้ถ่ายรูปตรงมุมนั้นมุมนี้ เราก็คิดในใจว่าทำไมถ่ายหลายมุมจัง

...

เราก็ทานข้าวเพิ่งเสร็จ พอถ่ายเสร็จเขาก็เชิญเข้าไปในห้อง หลังจากนั้นมันเหมือนในความฝันเลยค่ะ หูอื้อ มันเบลอๆ ยังไงก็ไม่ทราบ มองไปทางไหนก็เจอเพื่อน เจอพี่ๆ แล้วเพื่อนก็โกหกลงไปในกรุ๊ปว่าจะไปกินข้าวกันแล้วมีรูปยืนยันว่าไปถึงนั่นแล้วนะ ทำเป็นนัดกัน พอเดินเข้าไปก็เจอเพื่อนทุกคน เราก็ตกใจจริงๆ ค่ะ”

ก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้เอะใจเลยใช่มั้ยว่าจะมีเซอร์ไพรส์?

“ไม่ค่ะ ไม่ได้เอะใจเลยค่ะ คือเราก็คบกันมานาน แต่ก็ยังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง ถามว่าไม่มีทีท่าเลยเหรอ ไม่มีทีท่าอะไรเลยค่ะ เพราะปกติพี่กรจะเป็นคนที่ทำเลย ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว"

เขาพูดอะไรกับเราบ้างในตอนที่เขาขอเราแต่งงาน?

“พอเข้าไปก็มีเพื่อนๆ และมีที่เขาอัดคลิปวิดีโอเอาไว้ เขาก็บอกว่ามองมาทางนี้สิ แล้วบอกว่าขอโทษนะที่ทำให้ต้องรอนานขนาดนี้ เพราะเขาไม่ค่อยมีเวลาอยู่แล้ว เขาก็บอกว่าเขาอยากจะขอใช้ชีวิตที่มีความสุขที่เหลือของเขากับบีไปตลอดค่ะ”

8 ปีที่ผ่านมาเรารู้สึกว่าเขาเป็นยังไงบ้าง?

"เราผ่านเหตุการณ์อะไรด้วยกันมาหลายเหตุการณ์ค่ะ ทั้งสุขและทุกข์ ทั้งเหตุการณ์ในชีวิตบีและเขา แต่บีรู้สึกว่าบีหันไปยังไงเขาก็อยู่ข้างๆ บีเสมอ ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ที่เป็นคนรอบตัวบีขอความช่วยเหลือจากเขา เขาก็พร้อมให้ความช่วยเหลือ ถามว่าอะไรที่ทำให้ประคับประคองมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างที่บอกว่าเราสองคนคบกันมานาน พี่เขาเป็นคนที่ไม่มีเวลา เราก็ต้องใช้ความเข้าใจ เราก็ไม่ทำให้มันตึงจนเกินไป ต่างคนต่างมีสเปซของตัวเอง อะไรที่ปล่อยวางได้ก็ควรจะปล่อย”

เห็นว่าวันนั้นร้องไห้เลย?

"ร้องทั้งคืนเลยค่ะ ดูรูปที่โดนเซอร์ไพรส์คือไม่มีรูปไหนเลยที่เราหน้าตาสมประกอบเลยค่ะ (ยิ้ม) เพื่อนสนิทบอกว่าเวลาร้องไห้ให้ร้องไห้สวยๆ บ้างสิ แต่พอหันไปที่เพื่อนสนิทแล้วเข้าไปกอด เพื่อนก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนคลอดเรามา มันเป็นเหมือนภาพความทรงจํา ภาพความประทับใจมากที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ"

เราเคยคิดมั้ยว่ามันจะมีการคุกเข่าขอแต่งงาน?

“เอาจริงๆ ไม่ได้หวังค่ะ ไม่ได้อยู่กับความหวังมากจนเกินไป ถ้าหวังมากแล้ววันนึงมันไม่เกิดขึ้นเดี๋ยวมันจะเสียใจมากๆ”

หลังจากนี้เราวางแผนเรื่องแต่งงานยังไงบ้าง?

“หลังจากนี้เดี๋ยวก็คงจะมีครอบครัวนะคะ อาจจะไปเที่ยวกันก่อนสักพักนึงค่ะ แล้วค่อยคุยกันเรื่องลูก ถามว่าจะวางแผนแต่งเมื่อไหร่ยังไง ยังไม่ได้ดูฤกษ์เลยค่ะ เดี๋ยวจะไปดูฤกษ์กันก่อน ก็เป็นปีหน้าค่ะ”

ความรู้สึกของบีตอนนี้พร้อมรึยัง?
“ถ้าถึงขนาดนี้แล้วก็พร้อมนะคะ พร้อมที่จะมีครอบครัวแล้วค่ะ”

...

เขามีพูดอะไรมั้ยตอนที่เขาขอเราแต่งงาน?
“เขาไม่ได้พูดอะไร เขาน้ำตาคลอๆ แล้วเขาก็ยื่นแหวนมาให้อย่างเดียว เราก็ยื่นมือไปก่อน (หัวเราะ) ตอนนั้นยังตกใจอยู่ เพื่อนก็บอกว่าอ่านป้ายก่อนสิ เราก็ถามว่าป้ายอยู่ไหนอะ เขาก็บอกว่าอยู่นี่ไง ตอนแรกเขาเขียนว่า Happy Anniversary ก่อน แล้วพลิกอีกฝั่งเป็นคำว่า Will you marry me ค่ะ

เป็นชอตที่ทำให้บีน้ำตาแตก?

“ใช่ เป็นชอตที่ทำให้น้ำตาแตก เพราะไม่ได้คิดไม่ได้หวัง คือคิดว่าสมมติถ้าแต่งงานคงคุยกันสองคนมากกว่า ถามว่าทำไมถึงไม่เคยคิด คือพี่เขาไม่เคยพูดเรื่องนี้มาก่อนเลยตลอดเวลาที่เราเป็นแฟนกัน ก็คุยกันคร่าวๆ แต่ไม่ได้คุยกันเป็นทางการหรือคุยจริงจังมากๆ”

คุณพ่อคุณแม่ว่ายังไงบ้าง?

“คุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจมากค่ะ เพราะคุณพ่อคุณแม่ก็แก่แล้ว เราก็เป็นลูกสาวด้วย ก็อยากให้เป็นฝั่งเป็นฝามีครอบครัวค่ะ"

...

พี่ๆ อย่างนุ่น วรนุช, เจี๊ยบ ชมพูนุช ว่าไงบ้าง?

“ก็หันไปเห็นพี่นุ่น พี่เจี๊ยบ พี่ส้มจุกน้ำตาคลอร้องไห้ เราก็เลยยิ่งร้อง ก็รู้ว่าเพื่อนๆ พี่ๆ ทั้งเพื่อนบีและเพื่อนเขาลุ้นกันมานานมาก ขอบคุณทุกคนนะคะ”.