ไปไหนเจอใครก็เรียก “เฮีย” ติดปาก แถมอยากสิงร่างเป็น “อาจู” ให้เฮียคุ้มครองกันซะแล้ว!! กระแสดีแบบนี้ที่ใครๆก็พูดถึง พระเอกหน้าตี๋ เจมส์ มาร์ กับบทบาทเจ้าพ่อเยาวราช บู๊สนั่นจอในละครพีเรียด “ชาติเสือพันธุ์มังกร” ค่ายทีวีซีน ทางช่อง 3 ประกบ เดียร์น่า ฟลีโป นางเอกรุ่นน้อง สนิ้ทสนิทจนมีข่าวด้วยกัน แฟนๆ แอบเชียร์ลุ้น “จิ้น” นอกจอ จะลุ้นขึ้นมั้ย ตี๋เจมส์มีคำตอบ? ใน “คนดังนั่งคุย”
เล่นเรื่องนี้บู๊สมใจเลยสิ
“จริงๆเล่นละครได้บู๊ตลอด แต่เรื่องนี้จะเป็นกังฟู เรื่องราวต่างๆทำให้เฮียต้องออกไปจัดการ ความไม่ยุติธรรม อะไรหลายอย่างในสังคม เรื่องบู๊ต้องมี พี่ฟิวส์-กิตติศักดิ์ (ผู้กำกับ) ล้างภาพไม่อยากให้เราได้แค่บู๊เป็น แต่อยากให้มีกลิ่นของความเป็นกังฟู มีไปเรียนคิวบู๊ 13 ครั้ง ไปเรื่อยๆ แค่เรียนเบสิกเพื่อถึงเวลาเข้าฉาก เราต้องทำให้ได้และเป็นแบบของเราด้วย” เรื่องนี้สิ่งที่เห็นชัดเจมส์หุ่นบึ้กขึ้นเยอะเลย “เราโตขึ้นแล้ว อายุ 25 เมื่อก่อนทุกคนจะบอกทำไมตัวเล็กจังเลย ดูพี่ๆเค้าตัวใหญ่ๆ พี่กิก-ดนัย หุ่นดี เราไม่ได้บิลต์เพื่อที่จะมาเล่นแค่เรื่องนี้หรอก ด้วยเวลาที่ผ่านมาเรารับบทโตขึ้นเรื่อยๆ คนเราก็เปลี่ยนแปลง พอมาเรื่องนี้ร่างกายดูตัวโต ตัวใหญ่ แต่ผมว่าเพิ่มความเชื่อให้กับตัวละครด้วย แต่เรื่องหุ่นไม่เหมือนกัน แต่เรื่องนี้เค้าเป็นเจ้าพ่อ เป็นมาเฟีย จะมาดูตัวเล็กกว่าคนอื่นไม่ได้ จุดสำคัญจะเล่นกังฟูให้ได้ร่างกายต้องแข็งแรง จะผอมตัวเล็กไม่ได้เด็ดขาด มันจะไม่มีแรงโดดเตะ”
...
บู๊จริงเจ็บจริง
“พลาดคิวบู๊บ้างนิดๆหน่อยๆ ไม่ถึงขั้นเจ็บอะไรขนาดนั้น” ได้ยินว่าทำสตันต์เจ็บตัวจนเค้าฟันหักด้วย “อ๋อๆ ฉากนั้นเหมือนเขวี้ยงจานใส่ปืนเค้า ตอนซ้อมโอเค แต่ถ่ายจริงจานที่เราเขวี้ยงไปไปโดนที่หน้าพี่เค้าแต่เราไม่รู้โดนตรงไหน คือ
พี่เค้าฟันหลออยู่แล้ว จานไปโดนฟันที่มีน้อยอยู่แล้ว ฟันหน้าก็หลุดออกมา เราเลยรู้สึกแย่มากเลยบอกพี่เค้าว่าให้เงินพี่เค้าไปรักษาพยาบาล ไปหาหมอฟัน ไปทำฟัน พี่เค้ามีฟันไม่กี่ซี่ ฟันโยกๆอยู่แล้ว เค้าดึงออกมาเราเลยใจเสีย แต่ไม่เป็นไรผมให้สตางค์พี่หาหมอฟันแล้วกันนะ พี่ๆสตันต์จะบอกเสมอ หน้าที่ของเค้าคือมารับอะไรที่มันเสี่ยงๆแบบนี้ เค้าเทรนมาเพื่ออะไรเสี่ยงๆแบบนี้ การโดนเตะต่อยเค้ามีวิธีที่จะเซฟ เราคงรู้สึกไม่ดีถ้าเราปล่อยผ่านไป เรารู้สึกสิ่งที่เราทำต้องรับผิดชอบ มีส่วนร่วมรักษาไม่มากก็น้อย ผมทำแบบนี้เสมอ ถ้าทำสตันต์คนไหนเจ็บผมจะให้เงินไปรักษาพยาบาลไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว” แสดงความรับผิดชอบ “เป็นการรับผิดชอบจิตใจเราด้วย รู้สึกดีขึ้น ผมว่าเป็นการรับผิดชอบซึ่งกันและกัน ผมว่าคนทำงานด้วยกันต้องทำแบบนี้ ผมเชื่อว่า หน้าฉากเราเต็มที่ นอกจากนั้นเค้าเป็นนักแสดง เป็นทีมงานคนนึง เราแสดงน้ำใจดูแลกันไป”
ร่วมงานกับเดียร์น่าครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง
“จริงๆเราร่วมงานกันเรื่อยๆอยู่แล้ว หลายๆงานไม่ว่าจะเป็นถ่ายแบบ ละครสั้น ก่อนถึงเพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษก็มี สนุกดีครับ ตอนแรกก็รู้สึกน้องน่ารักดี ด้วยคาแรกเตอร์ อาจู ผมว่าเหมาะกับเดียร์น่ามาก มีความไม่กลัว กล้าพูด กล้าทำ และสู้คน น้องเป็นนักแสดงที่มีของเยอะ และมีความตั้งใจสูงมาก” เราเลยแกล้งเค้าไว้เยอะ “ไม่ได้แกล้งหรอก พอผมมาเล่นบทนี้ผมกลายเป็นติดคาแรกเตอร์เฮียมาด้วย จู้จี้ขี้บ่นนิดนึง เหมือนผู้ใหญ่ เป็นเฮียที่บ่นตลอด” ทำไมกับคนอื่นเธอไม่เป็นหนักขนาดนี้ “เป็นครับ (หัวเราะ) ถามทุกคนได้ ทุกคนจะบอกเรื่องนี้ดุมาก แต่เดียร์จะเป็นพิเศษ ชอบเล่นไง เวลานางเล่นจะเฮฮาคือยังเด็กอยู่ เราก็จะเสียงดุๆ เดียร์อ่านบทหรือยัง? แต่ทั้งหมดที่ทำเป็นความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเดียร์ เป็นแบบพี่น้อง เพื่อนกัน มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก เมื่อก่อนอาจจะไม่ดุเท่านี้ พอเล่นเรื่องนี้ไม่รู้ทำไม อะไรขัดหูขัดตาไปหมด ก็เลยขอดุสักหน่อย เค้าไปฟ้องทุกคนว่าผมดุ” สิ่งที่เดียร์รู้สึกขัดใจที่สุดคือเรื่องที่เจมส์ให้เค้าพูดค่ะ “ใช่ครับ อันนี้ผมขัดใจมาก ผมคิดว่าเราเป็นเด็ก เราคุยกับคนโน้นคนนี้ ถ้าผู้หญิงพูดคะขา จะเพิ่มความน่ารัก ความสวย ความอ่อนโยน จะคอยบอกเดียร์พูดคะขานะ พูดดีก็แล้ว ดุก็แล้วก็ยังไม่พูด (หัวเราะ) อาจจะเป็นเพราะเราเป็นเด็กบ้านพี่เอ-ศุภชัย ด้วยกันเลยสนิทกัน จริงๆ น้องก็น่ารักแต่เราอยากให้น่ารักขึ้น” สรุปเดียร์ยอมพูดคะขาตามเฮียบอกมั้ย “พูดเฉพาะต่อหน้าผมนี่แหละ ทุกคนบอกเวลาเจมส์ไม่อยู่เดียร์แสบมาก (ยิ้ม)”
...
สนิทกันแบบนี้เวลาหวานๆจะเล่นออกมั้ย
“ผมไม่ได้ดุตลอดเวลา จะดูพัฒนาการการแสดงของเค้าด้วย ผมจะบอกเสมอเป็นคนสวย น่ารัก คนเก่ง ฉากนี้เดียร์ชอบขำ ผมจะบ่นเดียร์จะหัวเราะทำไม หัวเราะแล้วก็ต้องเทกอีก บางทีนางบ้าจี้ เข้าใกล้จะมีอาการหลุดขำ พี่ฟิวส์ก็บอกว่าเหมาะกับเฮียและอาจู มันมีความสู้กัน เถียงกัน คนดูจะได้เห็นว่าสองคนนี้เถียงกันด้วยความรัก สิ่งที่เราทำไปช่วยให้ตัวละครมีชีวิตชีวา”
ยังทำงานเจ็ดวันอีกหรือเปล่า
“ช่วงนี้มีหลายๆอย่างที่จะต้องทำ ถ้าละครมีเรื่องเดียวครับ มีเวลาได้ใช้ชีวิต ได้ทำโน่นทำนี่บ้าง ไปเที่ยวบ้าง” ล่าสุดเจมส์เตรียมทำโฟโต้บุ๊กแค่รูปเดียวที่พี่อ๋า ผู้จัดการลงปุ๊บไปสร้างความฮือฮา “จริงๆโฟโต้บุ๊ก ผมตั้งใจเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับแฟนๆ ถ้าเป็นคนรู้จักผมจะรู้ว่าผมไม่ค่อยได้มีโอกาสถ่ายนิตยสาร ไม่ค่อยมีรูปอะไรที่เป็นรูปไลฟ์สไตล์ รูปสวยๆ เพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว เลยคิดว่าถ้าเรามีของขวัญอะไรให้พวกเค้าเป็นการขอบคุณแฟนคลับ พ็อกเกตบุ๊กหรือโฟโต้บุ๊ก มันคือเรา เป็นภาพของเรา ณ ตอนนี้และในอดีต มีความพิเศษ ผมไม่น่าทำบ่อยๆ ทำออกมาสามารถจับจองได้” มีภาพมากกว่าบนเตียงที่พี่อ๋าลงโซเชียลมั้ย “อันนี้ต้องดูครับ ต้องรอดูไปก่อน รับรองภาพสวยแน่นอน เราได้ช่างภาพดี และทุกอย่างที่เราทำมาจากเราจริงๆ” มีนางเอกมาร์กี้ มิ้นต์ คิมเบอร์ลี่ เข้ามาแซว “(หัวเราะ) เพื่อนๆทั้งนั้น เค้าชอบแกล้งผม ชอบแซว ความพิเศษนิดนึงตั้งใจไว้ว่าจะมีเขียน ไม่ใช่แค่เซ็น เขียนให้เฉพาะคนจริงๆ รับรองเป็นภาพที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนแน่ๆ การที่ผมจะทำแบบนี้ บอกเลยผมไม่ใช่คนทำอะไรแบบนี้บ่อยๆ เพราะไม่ใช่สไตล์ผม ที่อยากทำเพราะน่าจะเป็นอะไรที่แฟนคลับสามารถเก็บเอาไว้ได้ สามารถอ่านมุมมองของผมในหลายๆเรื่อง มีเรื่องราวของผม ความพิเศษแต่ละเล่มก็จะไม่เหมือนกัน ในสิ่งที่เราจะเขียน หวังว่าจะมีคนสั่งเยอะๆ น่าจะเป็นต้นปีหน้า เปรียบเสมือนของขวัญปีใหม่ชิ้นพิเศษจากผมจริงๆ ผมเป็นคนเก็บรายละเอียดของแฟนคลับทุกคน เพราะ
แฟนคลับอยู่กับเรามาหลายปี เราพยายามรู้จักทุกคนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ใครชอบอะไร มีลูก มีกิจการทำอะไรที่ไหนอย่างไร เราคิดว่าเราใส่ใจใครสักคนเราจะได้สิ่งนั้นกลับมาด้วย ถึงแม้การใช้เวลาเขียนข้อความแต่เราให้คุณค่าซึ่งกันและกัน”
...
มีข่าวเดียร์น่า คนเชียร์จิ้นนอกจอ
“ถามว่าเคยกินข้าวกับเดียร์น่ามั้ย เคยครับ แต่มีเพื่อนๆ ตอนนั้นถ่ายเพียงชายฯ ถึงเวลากินข้าวกองถ่าย พักซีน นักแสดงกินข้าวหลายๆคนก็มีหรือนั่งร้านกาแฟ ใกล้ๆกองก็ไปกินด้วยกัน แต่ไม่ได้ไปกันสองต่อสอง หรือไปแบบแฟนกัน ไม่มีอยู่แล้ว” ความเป็นไปได้คบกันล่ะ แต่ฟังๆน่าจะยากหรือเปล่า “อย่างที่บอก ณ ตอนนี้ ผมกับเดียร์ เราเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี ถามว่าเราเป็นห่วงเป็นใย สนิทสนมกันมั้ย สนิทครับ แต่เราสนิทแบบเพื่อนแบบพี่น้องจริงๆ ตอนนี้ไม่รู้สึกแบบนั้น” เดียร์น่าจะน้อยใจโดนข่าวเกาะกระแสเจมส์ “อ๋อ ผมจะบอกเค้า สิ่งที่คนอื่นคิดเป็นสิทธิ์ของเค้าที่แต่ละคนมีความคิดเห็นในแบบของเขา แต่เราไม่ควรไปคิดแบบนั้นเพราะในความเป็นจริงมันไม่ใช่ ถ้าจะมาแบบนั้นผมจะไม่ให้เดียร์ทำแบบนั้นอยู่แล้ว จะบอกเดียร์เสมอต้องเก่งด้วยตัวเอง ต้องสู้ ต้องตั้งใจทำงาน จะให้กำลังใจเค้า เป็นสิ่งเดียวที่เค้าจะประสบความสำเร็จในการทำงาน เค้าต้องทำด้วยตัวเอง ให้คนรู้จักตัวตนที่แท้จริงด้วยตัวเอง ไม่ใช่รู้จักเพราะมาเล่นกับผม อย่างนั้นจะไม่เวิร์ก แม้แต่ตัวผมก็จะเดินมาเอง ผมเจออะไร คนวิพากษ์วิจารณ์หลายๆ แบบเหมือนกัน ผมไม่โกรธเขา ผมขอบคุณที่ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์เพราะทำให้ผมแข็งแรง ผมมีความรู้มากกว่าคนอื่นๆ ว่าผมจะพัฒนาตัวเองยังไง ใครก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ไปได้ พัฒนาตัวเอง สุดท้ายเค้าจะมาชื่นชมเราเอง เค้าเป็นคนดูของเรา ห้ามอคติ”
...
มีความฝันอยากทำเพราะดูเป็นคนคิดอะไรอยู่ในหัวตลอดเวลา
“ผมเป็นคนชอบคิดเรื่อยๆ ผมมีนิสัยไม่ชอบอยู่นิ่งๆ ไม่ชอบอะไรเพียงอย่างเดียว ทุกวันนี้ยังเรียนอยู่ คิดตลอดเวลา ตอนนี้ยังคิดไม่ออก เชื่อว่าอนาคตมีการลงทุนอยู่แล้ว อาจจะซื้อบ้าน ธุรกิจ บางท่านอาจเล่นหุ้น จะเล่นละครทุกๆวันได้แต่เราจะเสียดายโอกาสและเวลาที่เรามี ผมเป็นคนคิดเยอะ ทำหลายอย่าง ให้อยู่นิ่งๆไม่ใช่เรา แต่เราจะทำเงียบๆ ไม่ใช่ปิดบัง อะไรที่ชัวร์เท่านั้นเราถึงจะให้คนเห็นเราทำอะไรบ้าง อะไรที่ไม่ชัวร์ยังไม่บอกดีกว่า”
ทุกอย่างที่เจมส์ทำจะต้องผ่านการคิดและวางแผนหมด แล้วความรักล่ะยังไง
“ความรักเป็นสิ่งเดียวที่วางแผนไม่ได้ แต่ยังไม่มี” ไม่เปิดใจด้วยหรือเปล่า “เปิดใจนะ ผมไม่เคยปิดตัวเอง คิดเสมอ วันนึงเจอคนที่ใช่แล้วเดินเข้ามา แล้วเราอยากคบหาดูใจ เราคิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ณ ตอนนี้ผมมีอะไรที่คิดแล้วทำเยอะมาก กิจกรรมเยอะ ตีกอล์ฟ เล่นเกม ยิ่งโตยิ่งเล่นเกมเยอะ (หัวเราะ) อาจจะเป็นวิธีการของคนเหงาที่ทำตัวเองไม่ให้เหงาแต่บังเอิญทำแล้วสนุก ยังสนุกตื่นมาตีกอล์ฟ เล่นเกมออนไลน์ หรืออีกอย่างแต่งรถ แค่นี้ชีวิตไม่ได้ขาด เราเป็นคนไม่ใช่คนทำอะไรโดดเดี่ยว แต่โชคดีอยู่คนเดียวได้แต่ถ้ามีก็ดี เป็นเรื่องที่ดี ไม่ได้อยากมีเพื่อแค่เค้ามาคุยกับเรา แต่อยากมีเพื่อเราจะดูแลกันและกันไปนานๆ ผมไม่อยากมีแฟนแล้วต้องเสียใจ มาเจ็บ ถ้าเกิดมีแล้วไม่ใช่ ไม่อยากให้มีความรู้สึกไม่ดีต่อกัน ความรักจริงๆง่ายมาก ถ้ามาก็มา ไม่มาคือไม่มา ตอนนี้ก็อยู่แบบนี้ไปก่อนครับ”.