เซอร์ไพรส์กันยกใหญ่เมื่อรายการดัง “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” และ “กิ๊กดู๋ ซุปตาร์ เงินล้าน” ทางช่อง 7 ต้องลาจอไปกะทันหัน และมีข่าวว่า รายการ “กิ๊กดู๋สงครามเพลงเงินล้าน” ย้ายไปอยู่ช่องพีพีทีวี กลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ว่า เจเอสแอลฯทิ้งช่อง 7 เลิกทำรายการกะทันหัน

ล่าสุด “หน่อย–จำนรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี” ผู้บริหารเจเอสแอลฯได้ชี้แจงถึงสาเหตุการย้ายช่องว่า “เจเอสแอลฯทำงานกับช่อง 7 มาเป็นเวลาถึง 32 ปี เป็นคู่ค้าเช่าเวลาสถานี ผลิตและหาสปอร์เซอร์เอง ไม่เคยทอดทิ้งไปไหน แต่ตอนนี้โมเดลทางธุรกิจมันเปลี่ยนไป ทำให้เราต้องเปลี่ยนมาเป็นผู้รับจ้างผลิตเพื่อความอยู่รอด ซึ่งก่อนหน้าก็ได้ยื่นหนังสือขอลดค่าเช่าเวลา และขอให้ช่อง 7 จ้างเราผลิตรายการแต่ไม่ได้รับการตอบรับว่าจะช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งพีพีทีวีให้โอกาสเราผลิตรายการ “กิ๊กดู๋ฯ” โดยเป็นผู้ลงทุนและหาสปอนเซอร์เอง อีกทั้งยังใจกว้างให้ผลิตรายการให้กับที่ใดก็ได้ ซึ่งตอบโจทย์ทำให้เราหลุดพ้นจากวิกฤติตรงนี้และเราก็ปฏิบัติตามกฎกติกา ที่ทางช่อง 7 ได้กำหนดไว้ว่าถ้าสัญญานั้นหมดและเราจะยุติการเช่าเวลาจะต้องมีการแจ้งก่อนล่วงหน้า 1 เดือน โดยสัญญาหมดในปลายเดือน ธ.ค. แต่ตนเดินทางเข้าไปแจ้งด้วยตัวเองล่วงหน้า 40 วัน หลังจากนั้นมาทางช่อง 7 ก็ได้ส่งจดหมายให้เราเลิกรายการโดยบอกล่วงหน้าก่อนที่รายการจะออกอากาศแค่ 2 วัน ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายมูลค่า 20 ล้านบาท โดยเราก็ไม่ได้ว่าอะไรกันเพราะในสัญญาระบุว่าทางสถานีสามารถเปลี่ยนแปลงรายการได้โดยฉับพลัน ทางสถานีแจ้งเหตุผลการยกเลิกว่าจะหารายการที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์มาลงแทน“

...

คนมองว่าจบกันไม่สวย? ”ในฐานะที่อยู่ในวงการมา 40 กว่าปี เราไม่เคยเป็นผู้ทรยศหักหลังใคร อยู่ในวงการนี้มีแต่มิตร ยืนยันในความจงรักภักดี ความกตัญญูรู้คุณ มันอยู่ในหัวใจตลอดเวลา เพียงแต่ว่าในขณะนี้มันไม่สามารถต่อสู้ต่อไปได้ ถามว่าเรารู้สึกยังไงกับช่อง 7 ก็ต้องตอบตรงนี้ว่า 32 ปีที่ช่อง 7 ให้อะไรกับเรามาชาวเจเอสแอล ไม่เคยลืม ไม่ได้โกรธ หรือเกลียด ไม่เคยทอดทิ้งผู้มีพระคุณไปอย่างฉับพลันทันใด แต่เพื่อแก้วิกฤติ เพื่อทำให้เรารอด ไม่ต้องปิดบริษัทไป เราก็จำเป็นต้องทำเช่นนี้ แต่สิ่งที่เราเสียใจก็คือคนที่ไม่ได้ รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย เช่น สปอนเซอร์ที่ทำสัญญากับเราไปจนถึงสิ้นปี มันทำให้เค้าเสียหายมาก แต่ทางสถานีเองพูดว่า ไม่ไปวันนี้ก็ต้องไปวันข้างหน้าเพราะฉะนั้นก็ไปวันนี้เลยดีกว่า เป็นคำพูดที่ดิฉันรู้สึกเสียใจ ไปวันหน้าไม่มีใครเสียหายแต่ไปวันนี้มีคนเสียหาย สปอนเซอร์เสียหาย สองคือคนดูเสียหาย คนดูที่รักช่อง 7 คนดูที่รัก “กิ๊กดู๋ฯ” ถ้างั้นตรงนี้การกระทำอะไรก็แล้วแต่ให้เราลดละเลิกอะไรที่เป็นตัวตนกันไปเถอะ ทุกคนวันนี้ต้องอยู่ด้วยการต้องช่วยกัน ตอนนี้โลกมันปรับเปลี่ยนแล้ว ถ้าเกิดสถานีช่องใดยังมีความเป็นตัวตนสูง ยังคิดอยู่กับสิ่งเดิมๆ ก็ต้องอยู่คนเดียวในโลก”.