สวยเปรี้ยงสวยเด่นขึ้นเยอะเลย หลังจากรับมงแล้ว ก็ยิ่งสวยขึ้นๆ แบบทวีคูณ ถึงแม้จะเป็นนางงามรุ่นพี่ไปนานหลายปีแล้ว แต่ยังดูแลรูปร่างหน้าตาได้เป๊ะปังอยู่ จึงโดดเด่นไม่แพ้ใคร ริด้า ณัฐพิมล นาฏยลักษณ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ Miss Universe Thailand 2012 เติบโตขึ้นด้วยประสบการณ์หลายอย่าง ริด้าน่าจะมีมุมมองต่อชีวิต และสังคมเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ต้องไปคุยๆ คั้นๆ สาระในหลายเรื่องๆ กันหน่อย

ภาพลักษณ์ของผู้หญิงไทยโดยรวม ก็ยังไม่ค่อยดีนัก ในสายตาชาวต่างชาติ คิดว่าการประกวดมิสยูนิเวิร์ส Miss Universe 2018 ที่ไทยในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยให้ภาพลักษณ์ของสาวไทยดีขึ้น หรือว่าเหมือนเดิม? "ก็หวังว่าจะว่าดีขึ้นนะคะ (ยิ้มหวาน) การประกวดมิสยูนิเวิร์สที่ผ่านมา นางงามไทยก็ได้เข้ารอบลึกๆ ได้เข้าไปตอบคำถาม ได้ฟังมุมมองความคิดของเขา หนูว่าก็น่าจะช่วยทำให้คนอื่นมองว่า เออ ผู้หญิงไทยเราก็สวยฉลาด มีความสามารถเหมือนกัน ไม่มีเหตุผลที่คุณจะมองผู้หญิงไทยในแง่ที่ไม่ดีอีก"

แต่ชาวต่างชาติส่วนหนึ่ง ก็ยังติดภาพลักษณ์เก่าๆ ยังมองผู้หญิงไทยในแง่ที่ไม่โอเคอยู่นะ จะแก้ตรงนี้อย่างไร? "ริด้าว่าแล้วคนมอง ถ้าสังคมเขาไม่ปิด ได้มาเมืองไทยบ้าง ได้เห็นวัฒนธรรมจริงๆ เขาก็จะรู้ว่าอะไรยังไง แต่คนที่มองว่าผู้หญิงไทยไม่ดี เขาเป็นคนที่ปิด ไม่รู้ว่าจริงๆ เป็นยังไง อาจจะแค่ฟังจากคนอื่นเล่า หรือว่าจากอะไรหลายๆ อย่างค่ะ"

มีเสียงจิกกัดมาเรื่อยๆ ว่าประชาชนของประเทศที่สนใจเรื่องนางงามมากเกินไป บ้านางงามเกินเหตุ มักจะเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนา เป็นประเทศกำลังพัฒนา ส่วนประเทศที่พัฒนาแล้วเจริญจริงๆ แล้ว เขาจะสนใจในเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตมากกว่า สนใจในเรื่องที่สำคัญๆ มากกว่านางงาม มองประเด็นนี้อย่างไร? "มันเป็นความชอบส่วนบุคคล (ยิ้ม) ไม่เกี่ยวเลยกับประเทศจะพัฒนาหรือไม่พัฒนา หนูว่าดูนางงามก็เหมือนเชียร์กีฬา ถ้าคุณชอบก็คือชอบ ไม่เกี่ยวว่าคุณคือประเทศที่ 1 หรือประเทศที่ 2 ประเทศที่ 3" 

...

นางงามจากประเทศต่างๆ ที่เข้ามาประกวดมิสยูนิเวิร์สในไทย อยากให้นางงามเหล่านั้นสื่อสารอะไรดีๆ ออกไปสู่สายตาคนทั้งโลก? "อยากให้นางงามไปดูรำไทยพวกนี้ ได้ซับซึมวัฒนธรรมเก่าแก่ ที่มีมานานไม่เหมือนชาติไทย ที่มีความเป็นออริจินัลจริงๆ ที่ไม่เหมือนชาติไหนในโลก อยากให้นางงามได้ไปดูกัน และอีกอย่างนางงามก็มีกระบอกเสียง ถ้าเขาได้เห็นและได้กลับไปบ้านเขาเอง เขาอาจจะพูดถึงเรื่องของประเทศไทยได้ดีขึ้นได้ค่ะ"

พูดตรงๆ ไทยเราก็มีมุมมืดอยู่ค่อนข้างเยอะ อย่างบริเวณใกล้ๆ โรงแรมดุสิตธานีที่นางงามใช้เป็นที่พัก แถวๆ สีลม ก็มีมุมมืดอยู่เยอะ เช่น เรื่องสถานบริการทางเพศ ผับบาร์เธค อโคจรต่างๆ อย่างที่เรารู้ๆ กัน? "เรื่องมุมมืด มีทุกประเทศแหละค่ะ (ยิ้ม)"

จะมีวิธีอย่างไร ที่ไม่ให้นางงามที่เข้ามาประกวดในไทย ไม่นำเสนอมุมมืดของไทยเราออกไป? "ก็อยู่ที่ตัวนางงามแล้วแหละค่ะ ก็หวังว่าในเมื่อบ้านเราต้อนรับเขาดีขนาดนี้แล้ว พาไปล่องเรือ ชมวัด ทำอาหาร ดูวัฒนธรรมต่างๆ แล้ว พาไปต่างจังหวัดด้วย ก็หวังว่าเขาจะนำเสนอสิ่งดีๆ ของบ้านเราออกไปด้วยค่ะ"

คิดว่าแหล่งอโคจรคาวโลกีย์ของไทยเรา ควรจะกำจัดโซนต่อไปให้ดีๆ หรือว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องกำจัดทิ้งไปเพราะทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยดูแย่ หรือว่าต้องขยายออกไปอีกเรื่อยๆ เพื่อธุรกิจการท่องเที่ยวที่มีรายได้เยอะ? "(หัวเราะ) ถามจน...ตอบไม่ถูกเลยเนี่ย!!! (ยิ้ม) ของแบบนี้มันก็มีทุกประเทศ ขยายแหล่งเที่ยวแบบนี้ออกอีกไปมั้ย มันไม่ควรอยู่แล้ว ควรจะตัดทิ้งไป แต่ถ้ายังให้มีอยู่ ก็ควรจะให้อยู่แบบภายใต้การควบคุม"

ไม่ใช่ว่าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็ปล่อยๆ หยวนๆ ให้เข้าไปดูได้? "อะไรประมาณนั้นค่ะ เพราะอย่างที่ต่างประเทศ ก็อยู่ภายใต้การควบคุม อยู่ภายใต้กฎหมายค่ะ เช่น เรื่องการปกป้องสิทธิสตรี สิทธิคนทำงานที่นั้นด้วย เช่น ถ้าแขกมาเที่ยวแล้ว อย่างน้อยก็ไม่มีการเหยียดหยาม เพราะอย่างน้อยก็เป็นงานบริการอย่างหนึ่งของเขา ถ้าจะมีต่อไป ก็ต้องมีการควบคุมให้ดี เพื่อความปลอดภัยในทุกๆ ส่วน ทั้งในเรื่องธุรกิจ การทำงาน ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จริงๆ ประเทศไทยเรามีอะไรที่อีกหลายอย่างที่ดี เราก็ควรจะเน้นโปรโมตการท่องเที่ยวเรื่องวัฒนธรรม การท่องเที่ยวที่สวยงามด้วยค่ะ" 

ในยุคๆ หนึ่งที่ไทยเราไม่มีนะ สถานที่อโคจร โชว์เรื่องเพศแบบโจ๋งครึ๋ม ทั้งของชาย-หญิง หรือชาย-ชาย เช่น ตามแหล่งอโคจรรอบๆ สีลม เพิ่งจะมีในยุคหลังๆ นี้เอง จนทำให้ภาพลักษณ์ของไทยเสียหายไปด้วย ถึงเวลาที่เราควรจะเปลี่ยนแปลง กำจัดทิ้งไปเลยดีมั้ย? "ถ้าเรามองในมุมมองธุรกิจก็จะอีกแบบหนึ่ง แต่ถ้าเรามองในอีกมุมมองหนึ่ง ในแง่วัฒนธรรมของประเทศไทยก็จะอีกมุมมองหนึ่ง คือนักท่องเที่ยวมีหลายแบบค่ะ".

...