เปิดตัวว่ามีครอบครัวมาปีกว่าแล้ว สำหรับลิเกเงินล้าน เอ ไชยา มิตรชัย ที่ในตอนนั้นกลายเป็นข่าวใหญ่โตไม่น้อยกับการยอมรับว่ามีภรรยาแล้ว และลูก 2 คน ซึ่งหลังจากเปิดตัวว่ามีครอบครัวไป เอ ไชยา ก็ขยันโพสต์ภาพลงในโซเชียลส่วนตัวกับลูกๆ และภรรยาบ่อยครั้ง และควงกันออกรายการเปิดเผยเรื่องราวที่ต้องเก็บเอาไว้มานาน 

และล่าสุด เอ ไชยา ได้เปิดบ้านต้อนรับรายการ ตีท้ายครัว ที่ออกอากาศทางช่อง 3 ทุกวันอาทิตย์ โดยพาลูกๆ และภรรยามาเปิดใจเล่าถึงเรื่องราวในช่วงที่ยังต้องเก็บเรื่องครอบครัวเอาไว้เป็นความลับ ต้องพาลูกย้ายบ้านย้ายโรงเรียนหนีหากเริ่มมีเพื่อนสนิทเพราะกลัวข่าวจะรั่วออกไป พร้อมทั้งโชว์ชอตสวีตกลางรายการด้วยการจุ๊บหน้าผากของ หนูนา ภรรยาสุดที่รัก 

ทำไมตั้งชื่อแชมป์กับแป้ง?
เอ : ตอนนั้นเค้าชื่อแชมป์กับพลอย ตอนนั้นพอมีข่าวทุกคนเลยต้องเปลี่ยนชื่อ แล้วต้องลาออกจากโรงเรียน ย้ายหลายที่มาก แล้วก็ต้องย้ายเด็ก 2 คนนี้แยกออกจากกัน เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันเพราะว่าสะดวกกับการไปส่ง แต่พอข่าวลงอย่างนั้นแล้ว ต้องแยก น้องแชมป์ก็เลยเป็นคนคิดเปลี่ยนชื่อให้พี่สาว เค้าก็เรียกว่าพี่แป้งมาโดยตลอด

ลูกๆ รู้สึกอย่างไร น้อยใจกันบ้างมั้ย?
แชมป์ : สนุกดีครับ ได้เจอสังคมที่มันต่างออกไป คือผมไม่มีเพื่อนเลยแต่รู้สึกสนุกดีครับ ไม่มีเพื่อนเพราะว่าย้ายบ่อย เหมือนพอจะสนิทกับคนนี้ กลุ่มนี้ พอเค้าเริ่มจะรู้ว่าเป็นลูก เอ ไชยา ก็ต้องย้าย หรืออยู่สักพักแม่ก็จะมาบอกว่าเราต้องย้ายบ้านกันแล้ว ก็ย้าย มันชินจนสนุกไปแล้ว

...

เอ : บ้านที่ซื้อเอาไว้บางทีเราก็ขายเลย พอมีเด็กข้างบ้านมาเล่นกับลูกเรา ขายเลย เดี๋ยวเค้าจะรู้ ขายจนขนาดว่าเราซื้อบ้านไม่ทัน เอาไปหาที่ไม่ทัน ก็เลยไปเอาคอนโดที่แบบว่าดีที่สุดสำหรับลูก ให้ลูกอยู่ แล้วเค้าก็อยู่กันแค่ในห้องสี่เหลี่ยมของเค้า

รู้สึกผิดมากเลยใช่มั้ย?
เอ : ใช่ครับ

ตอนที่จะบอกว่าเรื่องลูก หน้าลูกต้องลอยมาเลยใช่มั้ย?
เอ : ตอนนั้นไม่มีเวลาตั้งตัวเลยนะ สาเหตุที่ต้องมาเปิดว่ามีข่าวที่ปล่อยข่าวเสียหายเลย แล้วมีนักข่าวมากระซิบบอกเรา เราก็เลยบอกว่าไม่มีอะไรปิดบัง ผมกำลังนั่งรถไป ผมเขียนลงในเฟซบุ๊ก ใช่ครับนี่คือลูกสาว ผมมีลูก 2 คน ก็แถลงไปทางเฟซบุ๊กก่อน ลูกสาวยังไม่รู้เลย พอเห็นในเฟซบุ๊ก โรมาร้องไห้ บอกพ่อ เรามีวันนี้แล้วเหรอ

อะไรทำให้ตัดสินใจบอกไปเถอะ?
เอ : พ่อกับแม่บอกว่าตามสบายเลย มันถึงเวลาแล้ว เราก็เลยเปิด พอเปิดไปปั๊บ มันก็กลายเป็นว่ามันดี

ไปเจอกับแม่ของน้องๆ ได้อย่าง?
เอ : เจอที่เวทีลิเกนี้แหละครับ แม่ยายเป็นคนที่ทำบุญเยอะมาก แล้วก็จ้างลิเกผมไป ตั้งแต่เป็นลิเกเด็กกำพร้าวัดสระแก้ว จ้างไปเล่นแล้วก็ดูผมว่าป็นคนไม่เที่ยวไม่เล่นใดๆ ทั้งสิ้น ทำงานเรียนหนังสือ

จริงๆ เค้าก็ไม่ได้อะไรกับผมนะ เค้าหาว่าผมเป็นคนที่หยิ่ง ต่างคนต่างไม่คุยกัน แต่เผอิญวันนั้นผู้ใหญ่เค้าตกลงกันเรื่องงาน เราไม่รู้จะทำอะไร เลยนั่งคุยกัน แต่พอคุยกันแล้ว แม่เค้าก็ทำบุญเราก็คุยเรื่องสายบุญ ถึงได้รู้ มันเปลี่ยนทัศนคติไปเลย เราก็เลยเริ่มคบกัน

พอรู้ว่าเมียท้อง ด้วยความที่เป็น เอ ไชยา ทำอย่างไร?
เอ : ดีใจที่สุดในโลก จริงๆ ผมตั้งใจและผมพร้อมหมดทุกอย่าง ในตอนนั้นผมไม่มีอะไรทที่จะไม่พร้อมมีลูก ขอบอกว่า ถึงจะเป็นวัยรุ่น ผมขอฝากเอาไว้นะ อย่าชิงสุกก่อนห่าม แต่ว่าที่เราอยู่เราอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่

แต่ถามว่าทำไมไม่เปิดเลยตอนนั้น พ่อบอกว่าคิดดูให้ดีนะลูก หนูต้องคิดนะว่าการหนูไปสบายคนเดียวแล้ว แต่ตอนนี้พื่อนหนูต้องเต้นกินรำกินแล้วเค้าไม่มีอาชีพ เค้าจะทำอย่างไร อีกหลายครอบครัวนะลูก ผมก็เลยต้องเลือกที่ว่า ไม่เป็นไร

น้องแป้งอายุเท่าไหร่?
เอ : 20 ต้นๆ

แป้งได้เข้าวงการก่อนคนจะรู้ว่าเป็นลูกเอ ไชยา คนไม่สงสัยเหรอ?
เอ: ผมไม่ได้ปิดเลยนะ คนที่ใกล้ชิดเค้าจะถามว่าลูกหรือเปล่า ครับ ก็บอกเท่านั้น จบ แต่เราไม่ได้ไปโฆษณาว่าผมมีลูกมีเมียแล้ว เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่อง

เขามีกระแสอย่างไรตอนที่เค้ารู้ว่าเรามีลูก?
เอ : คนที่ไม่รักก็หายไปเลยครับ แต่ว่าส่วนน้อย คิดอย่างนี้นะครับ ผมอยากบอกผ่านว่า สงสารเด็ก 2 คนเถอะ ผมเป็นพ่อ ผมก็สุดๆ แล้วนะ เด็ก 2 คนอยู่กันน้ำตาเข้าน้ำตาออก เค้าพูดไม่ได้ เค้าเรียกร้องไม่ได้ ผมถึงได้บอกว่าผมรู้สึกผิดมากๆ

โดยเฉพาะกับภรรยา ผมไม่เคยให้อะไรเค้า และเค้าก็ไม่เคยเรียกร้อง เค้าไม่เคยออกมายืนแถวหน้าว่าฉันคือเมียไชยา ไม่เคย ให้อยู่ตรงไหน ให้อยู่มุมไหนเค้าก็อยู่

...

เค้าคือผู้จัดการส่วนตัว?
เอ : ไม่ จริงๆ แล้วเค้าไม่ใช่ผู้จัดการ คือผมพยายามให้เค้าอยู่ใกล้ๆ เป็นห่วงเค้า

ย้อนเวลากลับไป ตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมถึงตกลงรับรักกับ เอ ไชยา?
หนูนา : ติดสินใจแล้วว่าถ้าจะอยู่กับคนนี้ต้องทำทุกอย่างให้ได้ค่ะ รู้ว่าถ้าจะคบกับเค้าชีวิตตัวเองจะต้องเปลี่ยนไป จนแม่ถามว่าไหวมั้ย เราบอกไหว

เอ : แม่เค้ารักผมมากนะ แม่ยาย รักมากแล้วเค้าก็ไม่ได้เกลียดเรา แต่ด้วยอาชีพเค้าก็สงสารลูกเค้า เค้าก็บอกว่าถ้าไม่ไหวก็ถอยนะลูก เค้าก็บอกว่าไหว หนูทนได้ คืออยู่แค่นี้ อยู่ด้วยความอดทน

ลูกๆ ต้องห้ามบอกว่าเป็นลูกไชยา มิตรชัย ทำแบบนั้นอยู่กี่ปี?
หนูนา : ตั้งแต่เกิดมาเลย ก็มาเรื่อยๆ จนปัจจุบันค่ะ

น้องเกิดช่วงที่เพลงกระทงหลงทาง เอดังมาก?
เอ : ใช่ครับ

เอเซ็นรับเป็นพ่อมั้ย?
เอ : เซ็นครับ ปีเกิดของเค้าผมดังเพลงกระทงหลงทาง ยิ่งเกิดแชมป์ ยิ่งดังไม่ธรรมดา ตกแพ ไม่เจอลูกเจอเมียเลย 1 ปี โทรศัพท์ก็ไม่เคยรับ เค้าก็พยายามหมั่นโทร ผู้จัดการก็ไม่รู้ว่าผมมีเมีย ไม่มีใครรู้ครับ

...

พอเค้าโทรมาพอไม่ใช่เสียงผมรับเค้าก็วาง ผู้จัดการก็คิดว่าเป็นผู้หญิงทั่วไปโทรมา จนวันนั้นผมเผลอมารับสายแล้วบอกว่า พ่อๆ อย่าเพิ่งวางสายนะ หนูจะร้องเพลงให้พ่อฟัง รุ่นน้องมายู ฟังเพลงลูกจนจบ นึกถึงสภาพนั้น (จะร้องไห้)

แล้วเด็กๆ วันที่ยังบอกไม่ได้ว่าพ่อคือไชยา พวกหนูอดทนกันขนาดไหน?
แชมป์ : ผมไม่สามารถเข้าใจในความรู้สึกแบบนั้น เพราะว่าผมโตมาในฐานะที่ไม่สามารถเรียกพ่อได้ ถ้าอยู่ในบ้านเรียกพ่อ ผมจะไม่เรียกชื่อ

แป้ง : หนูเรียกพี่ แต่อยู่บ้านเรียกพ่อ

แม่อดทนมาก?
หนูนา : ใช่ค่ะ ไม่ปล่อย ไปรับไปส่งที่โรงเรียนและคุยกันทุกเรื่อง ไปโรงเรียนลูกเจออะไร แม่โทรหาพ่อแล้วนะ รู้ทุกอย่าง

เอ : สิ่งหนึ่งที่ลูกไม่รู้สึกว่าพ่ออยู่ห่าง พ่อทำงาน ตรงนี้ถึงได้บอกว่าต้องขอบคุณคุณมากนะ เค้าจะพูดอยู่เสมอ แม่เล่าให้พ่อฟังแล้วนะลูก พ่อฝากมาบอกว่ารักหนูนะ คือจะมีคำว่าพ่ออยู่ใกล้เด็กพวกนี้ตลอด

เคยไม่เจอพ่อนานที่สุดแค่ไหน?
แป้ง : นานเป็นกี่ปี นานค่ะ หรือไม่ก็เจอกันในวันสำคัญ วันเกิด พ่อแอบเอาของขวัญมาให้หลังโรงเรียนเก่า ขึ้นคอนโดไม่ได้จะต้องไปแอบให้

เมื่อก่อนดาราต้องขนาดนั้นเลยเหรอ?
เอ : คำว่าดาราก็ขั้นหนึ่ง ลิเกก็อีกขั้นหนึ่ง นักร้องก็อีกขั้นหนึ่ง ผมไม่ได้ทำแค่ลิเก พอลิเกเลิกเที่ยงคืน เดินทางไปต่อคอนเสิร์ต ตอนเช้ามีงานอีก เข้าที่พัก นอน 2-3 ชม. เช้ามาถ่ายรายการ ตอนนั้นผมมีงานทุกรายการเลยนะ ทุกวัน วันละ 2-3 รายการ

...

คุณต้องอยู่เป็นบุคคลที่เงียบที่สุด?
หนูนา : พยักหน้า ใช่ค่ะ

เคยน้อยใจมั้ยว่ากี่ปีๆ ก็ต้องอยู่อย่างนี้?
หนูนา : ไม่ค่ะ ไม่เคยน้อยใจ มีควาสุขที่ได้อยู่กับลูก นี่คือความสุข 2 คนนี้ ทำให้ทุกอย่าง

ตั้งแต่เปิดตัวว่ามีครอบครัวเป็นอย่างไร?
เอ : ดีครับ มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในครอบครัว แล้วก็มีแต่ความสุข ความสุขอย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกได้เลย คือพวกเค้ามีรอยยิ้ม วันก่อนจะลงบันไดเลื่อน แล้วเหมือนเค้าจะล้ม เค้าต้องมาคว้ามือผม แล้วแค่จับมือ ผมรู้สึกจริงๆ นะเหมือนที่เราถ่ายละคร รู้สึกว่าเราเป็นคนที่ปกป้องเค้า

รู้สึกอย่างไรที่เค้าบอกว่าวันนี้สามารถปกป้องเราได้แล้ว?
หนูนา : ดีใจค่ะ ดีใจ (ยิ้ม)

รู้สึกอย่างไรที่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือ?
แชมป์ : รู้สึกว่าพ่อเค้าทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีอยู่แล้ว ไม่รู้สึกว่าขาดหายในหน้างาน พ่อเป็นหัวหน้างานที่ดี ในทางด้านครอบครัวเค้าก็เป็นผู้นำที่ดีอยู่แล้ว ผมเลยไม่รู้สึกว่ามันต่างกันอย่างไร

แป้ง : อย่างที่บอกว่าเค้าจะห่วงคนรอบข้างก่อนเสมอ แม้กระทั่งลูกน้อง ห่วงมากกว่าตัวเอง ก็อยากให้พ่อดูแลตัวเองบ้าง พักผ่อนเยอะๆ เพราะว่าเค้าไม่ค่อยห่วงตัวเองเลยที่ผ่านมา จนทุกวันนี้ก็ไม่ห่วง ก็อยากให้รักษาสุขภาพด้วย เพราะถ้าเกิดว่าพ่อแย่ เราแย่กันมากเลย (น้ำตาคลอ)