หลังจากที่ จั๊ด ธีมะ ได้จัดรายการ ฟ้าทะลายโจร ในช่อง ฟ้าวันใหม่ และพูดถึงเกี่ยวกับเพลงประเทศกูมีไม่ใช่การทำเพลงของเด็กธรรมดา เพราะมีทุนหนุนหลัง และไม่สามารถลบคลิปนี้ออกได้ เพราะมีการใส่ในระบบเทคโนโลยีบล็อกเชน คลิปนี้จะอยู่ในระบบถาวร ทางการไทยลบออกไม่ได้ และมีคนช่วยจากต่างประเทศ และสิ่งที่ตนพูดเป็นเรื่องจริง มีเป็นขบวนการ
เพราะเหตุนี้ จึงทำให้เกิดดราม่าขึ้นจนในที่สุด เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา จั๊ด ธีมะ ได้ประกาศอำลาฟ้าวันใหม่ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของตนเอง โดยมีข้อความดังนี้
อำลา “ฟ้าทะลายโจร” เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคมปี พ.ศ.2554 ในวันที่ผมยังเป็นดีเจ พิธีกร รายการบันเทิง หากยังจำกันได้ ช่วงเวลาดังกล่าวชาติเราประสบกับมหาอุทกภัย ไม่ทราบว่าอะไรดลใจให้ผมอัดคลิปโพสต์ลงยูทูบ วิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการภัยพิบัติของรัฐบาลขณะนั้นว่าไร้ประสิทธิภาพ
ส่งผลให้หลังจากนั้นไม่กี่วัน งานที่มีทั้งหมดถูกระงับ เป็นการตกงานอย่างสมบูรณ์แบบครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มทำงานในฐานะดีเจเมื่อครั้งยังเป็นนิสิตปีสาม เมื่อปีพ.ศ.2546 เคว้งคว้างอยู่เดือนกว่าๆ พฤศจิกายน 2554 ผมได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่รู้จัก ติดต่อทาบทามให้ไปจัดรายการที่สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ชื่อ “บลูสกายแชนแนล” ผู้ที่โทรหาผมในตอนนั้นคือคุณเถกิง อดีตผอ.บลูสกาย ผ่านการแนะนำของคุณกรณ์ จาติกวณิช
ในฐานะคนตกงาน ผมตกลงรับงานทันที จากวันนั้นถึงวันนี้ นับเวลาได้เจ็ดปี “ฟ้าทะลายโจร” ถือเป็นรายการที่ผมทำหน้าที่พิธีกรต่อเนื่องยาวนานที่สุดในชีวิต และเป็นหนึ่งในรายการที่ผมรักมากเป็นอันดับสองรองจากรายการป๊อปอัพไลฟ์ซึ่งเป็นรายการทีวีรายการแรกที่ผมจัด...
...
เจ็ดปีที่ว่านั้นทรงคุณค่า เป็นช่วงเวลาที่หล่อหลอมให้ผมกลายเป็นคนข่าว สร้างเสริมประสบการณ์การประกาศและวิเคราะห์ข่าว เพิ่มพูนความรู้รอบตัวมากมายที่เกี่ยวเนื่องกับข่าว มากไปกว่านั้นยังทำให้ผมได้มีโอกาสสัมผัสกับงานการเมืองในรัฐสภา ในฐานะผู้ช่วยส.ส.กรณ์ จาติกวณิช และโฆษกผู้นำฝ่ายค้าน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หลังยุบสภาเมื่อปลายปีพ.ศ.2556 การเมืองนอกสภาร้อนแรง เกิดการชุมนุมใหญ่ ผมได้มีส่วนร่วมในฐานะผู้ปราศรัย ในมุมของนักสื่อสาร การไฮด์ปาร์คท่ามกลางผู้ชมเรือนแสนเรือนล้านถือเป็นประสบการณ์ที่อาจจะไม่อาจหาได้อีกแล้วในชีวิต
เจ็ดปีที่สถานีบลูสกาย หล่อหลอมให้ผมค้นพบสไตล์การจัดรายการที่ผลักดันเอาศักยภาพสูงสุดออกมา พัฒนากลายเป็นเอกลักษณ์ที่ผู้คนจดจำ นั่นคือการจัดรายการสาระผ่านการนำเสนอแบบบันเทิงเชิงเสียดสี...
กาลเวลาผ่านไป สถานการณ์เปลี่ยน บริบทแวดล้อมของชีวิตเปลี่ยน ผมได้รับโอกาสให้จัดรายการข่าวบนสถานีทีวีดิจิทัลและทีวีออนไลน์ การจัดรายการที่บลูสกายกลับกลายเป็นปัญหาที่ทั้งผู้ใหญ่และผู้ชมมากมายต่างตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือและเป็นกลางในการรายงานข่าว เพราะขาหนึ่งของผู้ประกาศข่าวยังเกาะเกี่ยวกับสถานีข่าวที่ชัดเจนว่าสนับสนุนพรรคและฝั่งฟากทางการเมืองฝั่งหนึ่งเป็นพิเศษ
นอกจากนั้นยังมีเหตุปัจจัยอันละเอียดอ่อนอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่อาจอธิบายได้หมดจดผ่านช่องทางนี้ แต่ทั้งหมดทั้งปวงประกอบกันส่งผลให้ในท้ายที่สุด ผมจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะขอยุติการจัดรายการ “ฟ้าทะลายโจร” นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เสียดายและเสียใจอย่างไม่อาจหาคำอธิบายใดๆ มาอุปมาพรรณนาให้เห็นภาพได้...
อย่างไรก็ตาม ผมยังยืนยันในความไม่มีอยู่จริงของความเป็นกลางในวงการสื่อสารมวลชน บรรณาธิการ ผู้ประกาศ รวมไปถึงทีมข่าวทุกคนต่างก็มีฝั่งฟากทางการเมืองที่รักในใจ และพร้อมจะใช้ทุกโอกาสที่มีในการสอดแทรกข่าวที่ส่งผลบวกต่อขั้วที่ตัวชอบ และข่าวที่ส่งผลลบต่อขั้วที่ตัวเกลียด...เป็นเช่นนี้ทุกที่ ทุกสถานี
อย่างที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ไปหลายต่อหลายครั้งถึงหลักการในการรายงานข่าวว่าต้อง “เล่าเรื่องยากให้ง่าย เล่าเรื่องง่ายให้มีมุมคิด เรื่องคนชั่วต้องโจมตี เรื่องคนดีต้องสรรเสริญ” มาวันนี้หลักการที่ว่ายังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ผมไม่ได้นิยมในพรรคการเมืองหรือระบอบการปกครองแบบใดแบบหนึ่ง หากแต่นิยมในตัวปัจเจกบุคคลมากกว่า...
...
ผู้ใดเป็นคนดี มีความรู้ความสามารถรอบด้านในการบริหารประเทศ มีอุดมการณ์หนักแน่นไม่โอนอ่อนผ่อนไปตามสถานการณ์ มีนโยบายที่เน้นการสร้างวินัยไม่ใช่ตามใจฐานเสียง มีจิตสาธารณะ ทำงานเพื่อชาติตลอดเวลาแม้ในยามที่ไม่มีอำนาจหรืองบประมาณ ที่สำคัญ ไม่เคยทุจริตงุบงิบงบประมาณสักบาทเข้ากระเป๋า...ผู้นั้นย่อมสมควรได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้เป็นผู้นำของรัฐชาติ
ไม่ว่าจะจัดรายการที่ไหน หลักการในย่อหน้าด้านบนจะไม่เปลี่ยนไป ในทางการเมือง ผมจะทำทุกทางเพื่อสนับสนุนให้คนดีได้มีอำนาจ เพื่อควบคุมไม่ให้คนชั่วเข้ามากอบโกย ล้างผลาญ
ในทางการสื่อสาร ผมจะนำเสนอข่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะ กำจัดขยะในวงการสื่อ ข่าวงมงายไร้สาระจะพยายามตัดออกหรือเล่าผ่านๆ ข่าวดีมีคุณค่าจะถูกขยาย และเชิญชวนให้เกิดการคิดวิเคราะห์ต่อยอด
เหนือสิ่งอื่นใด บลูสกายเป็นสถานีข่าวการเมืองที่ไร้การเมืองภายใน ผมได้รับอิสระในการทำข่าวอย่างเต็มที่ โดยมีทีมงานที่น่ารักรู้ใจและไว้วางใจได้อย่างสนิทใจ ไม่มีวาระซ่อนเร้นให้ต้องขุ่นข้องหมองใจ เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองที่ผมใช้ชีวิต ทำงาน กิน นอน ได้อย่างสบายใจ ตัวตนเป็นอย่างไรก็เป็นไปเช่นนั้น
ขอบคุณทุกโอกาส ทุกการสนับสนุน และทุกมิตรภาพอันอบอุ่นจากทุกผู้ทุกคนที่สถานีแห่งนี้ ท้ายที่สุด ขอบพระคุณอย่างที่สุดจากใจสำหรับทุกการติดตาม ทุกการติชม จากคุณผู้ชม ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา... จำใจ จำจาก จำลา จนกว่าจะพบกันใหม่ครับ..."
...
...