เก้าอี้ฟาดๆ ตีศพใน ประเทศกูมี โยงถึงหนังต้องแบน! ฉากคล้ายกัน?

ศพสยองที่โดนเก้าอี้ตีๆ ฟาดๆ โดยมีไทยมุง คนรุมล้อมยืนยิ้มให้อย่างสะพรึง ในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 จากประวัติศาสตร์การเมืองไทยอันโหดร้าย ได้กลับมาหลอนความรู้สึกของคนรักประชาธิปไตยอีกครั้ง ผ่านแร็ปเกรี้ยวกราด ประเทศกูมี ที่เป็นกระแสแรงแห่งปี

ประเด็นหลายอย่างในเพลง ประเทศกูมี ที่ตั้งใจเอามาร้องอย่างดุดัน มันจริง! เจ็บ! จุก! จนหลายคนไม่กล้ายอมรับ มันหยาบตรงเกินไปจะยอมรับได้ สำหรับใครหลายคนที่อยากจะลบเลือนภาพอันโหดร้ายในอดีต ที่มีการเมืองสกปรกหนุนหลังอยู่

ประวัติศาสตร์ร้ายๆ จะวนซ้ำมาอีกเรื่อยๆ ถ้าคนรุ่นก่อนไม่ระลึกถึง คนรุ่นหลังไม่เรียนรู้ ไม่จดจำ ไม่ศึกษา ไม่ทำความเข้าใจ และไม่ปกป้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก ทีเด็ดของเพลงประเทศกูมี นอกจากนักร้องหลายคนที่มาร่วมตะโกนร้องอย่างทรงพลังแล้ว มิวสิกวิดีโอสีขาวดำก็ทรงพลัง เหมือนดึงคนดูให้ร่วมย้อนอดีต ไปในคืนวันอันโหดร้ายของชาวสยาม 

ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอ ประเทศกูมี ไม่ใช่คนธรรมดา เพราะกำกับโดยหนุ่มใหญ่ฝีมือเข้มข้นอยู่ มีประสบการณ์อย่างโชกโชนมายาวนานหลายสิบปี เขาคือ เปีย ธีระวัฒน์ รุจินธรรม เคยได้รับตุ๊กตาทอง รางวัลพระสุรัสวดี ด้านการกำกับภาพ จากหนังเรื่อง 14 ตุลา สงครามประชาชน เมื่อปี 2543 หนังอิงการเมืองนิดหน่อยจากค่ายไฟว์สตาร์ Five Star และเคยเป็นผู้กำกับหนังมาแล้วในเรื่องปาฏิหาริย์รักต่างพันธุ์, เจนนี่ กลางวันครับ กลางคืนค่ะ

รุ่นใหญ่ไฟแรง เปีย ธีระวัฒน์ รุจินธรรม ยังเคยทำงานเป็นผู้กำกับภาพ ในหนังหลายแนวหลายเรื่อง เช่น โคลิคเด็กเห็นผี, โกสต์เกม Ghost Game, เขาชนไก่, รักสยามเท่าฟ้า, บังเอิญรักไม่สิ้นสุด, ไทม์ไลน์ Timeline จดหมายความทรงจำ, รูมเมท Roommate เพื่อนร่วมห้อง ต้องแอบรัก

ด้วยฝีมือผลงานโดดเด่นที่ผ่านมา จึงไม่น่าแปลกใจที่มิวสิกวิดีโอ ประเทศกูมี ผลงานกำกับของ เปีย ธีระวัฒน์ รุจินธรรม จึงทิ่มแทงใจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะฉากสุดท้ายที่มีชายนิรนามเอาเก้าอี้ฟาดๆ ศพที่ห้อยอยู่บนต้นไม้ เพื่อต้องการสื่อให้เห็นประวัติศาสตร์การเมืองอันชั่วร้ายของไทยในอดีต หวังให้คนรุ่นปัจจุบันจดจำระลึกเตือนใจ เพื่อไม่ให้เกิดซ้ำรอยเดิมอีก 

ฉากเอาเก้าอี้ตีๆ ฟาดๆ ยังมีอยู่ในตอนท้ายๆ ในหนังไทยต้องแบนเรื่อง เชคสเปียร์ต้องตาย Shakespeare Must Die ผลงานกำกับของ อิ๋ง สมานรัชฎ์ อำนวยการสร้างโดย มานิต ศรีวานิชภูมิ หนังต้องอึ้งอย่างแรง ในกระบวนการคิดการทำออกมา ให้เป็นหนังที่สะท้อนกิเลสความบ้าอำนาจของคนเรา เป็นหนังที่กระตุกต่อมความคิดต่างของคนในชาติ รอรัฐใจกว้างเลิกแบนเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แฟนหนังทั่วไทยน่าจะได้ดูกัน (มั้ง).