ตั้งใจจะจูงมือ กวาง แฟนสาวนอกวงการ แต่งงานในปีนี้ แต่สุดท้ายงานวิวาห์กลับไม่เกิดขึ้นสำหรับตลกดัง โก๊ะตี๋ อารามบอย ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจในรายการ “คุยแซ่บ Show” ทางช่องวัน ถึงสาเหตุที่ทำให้งานวิวาห์ล่ม รวมทั้งยอมรับว่าเคยนอกใจแฟนสาวคบซ้อนผู้หญิงถึง 4 คน แต่สุดท้ายกลับใจและแฟนสาวให้อภัย ทำให้ความรักกลับมาหวานเหมือนเดิม รวมไปถึงเรื่อง น้องโอม ลูกชายบุญธรรมวัย 12 ปี ที่เจ้าตัวภาคภูมิใจมากๆ ด้วย
ถามถึงเรื่องงานแต่งงานล่ม เป็นเรื่องจริงรึเปล่า?
“จริงๆ มันล่มมานานแล้วนะ คือก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปีที่แล้วไปขอเขาแต่งงานที่มัลดีฟส์ และกะจะแต่งในปีนี้ แต่ด้วยความที่คิดเยอะ เป็นคน 2 บุคลิก เวลาเราออกทีวีจะเป็นคนนึง แต่เวลาอยู่บ้านจะเป็นอีกคนนึง อยู่ที่บ้านจะเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร
พอเรามีแฟน เราก็หลุดอารมณ์ส่วนตัว เป็นคนตลกแต่ไม่ตลอด ที่สำคัญเราเป็นลูกคนเล็ก เป็นหัวหน้าครอบครัว ภาวะผู้นำหรือการตัดสินใจ เราตัดสินใจด้วยหนึ่งสมองสองมือเราเพียงคนเดียว ฉะนั้นพอมีใครสักคนเข้ามาในชีวิต เราก็ไปตัดสินใจแทนเขา แต่เขาก็เป็นลูกคนสุดท้อง ถูกสปอยล์มาโดยตลอด เราเองก็ดูแลตัวเองมาตลอด ค่อนข้างเผด็จการ พอมาเจอกันมันก็ไม่ค่อยเข้ากัน ไม่มีใครฟังใคร
...
เลยเป็นที่มาของโพสต์ระบายในไอจี เพราะเราเป็นหัวหน้าครอบครัวก็ไม่รู้จะปรึกษาใคร ส่วนก่อนหน้านั้นที่โพสต์ว่าไม่เอาแล้ว คือเราไปทำอะไรหลายอย่างที่ทำให้เขาหมดความเชื่อมั่นในตัวเรา ทั้งพูดจาไม่ดี ทำกิริยาไม่ดีกับเขา ไม่ให้เกียรติเขา เลยเป็นที่มาของโพสต์แรก”
มีเรื่องเจ้าชู้เข้ามาด้วยมั้ย?
“มีครับ คือตอนแรกเราตัดเลย ไม่เอาแล้วคนนี้ หลังจากที่ขอหมั้นปีนึง เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.พ. ปีนี้เอง หลังจากนั้นก็ไปคุยกับคนโน้นคนนี้ ถึงเป็นที่มาที่โพสต์ว่า “ความซื่อสัตย์ที่มันหายไป” ถ้าสมมติเขาตัดสินใจที่จะเลิกกับเรา เราก็ต้องรับสภาพให้ได้นะ”
ตอนนั้นใครขอเลิก?
“เรา แต่เขายังไม่ได้ตอบ เขายังอดทน สุดท้ายเรากลับมามองเห็นความรักที่เขามีให้กับเราว่าขนาดเราทำเลวใส่เขาขนาดนี้ เขายังยืนอยู่ที่เดิม และยังรอว่าสุดท้ายคำตอบที่คุณอยากจะพูดกับฉันคืออะไร”
แล้วกลับมาจูนกันยังไง?
“เอาจริงๆ ด้วยพื้นฐานเราไม่ใช่คนเจ้าชู้อยู่แล้ว เขารู้อยู่แล้วมาตลอด 4-5 ปี แต่พอเราตัดสินใจว่าไม่เอาแล้ว แต่เขายังไม่ไปไหน แต่เขายังรอคำตอบอยู่ แต่ระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมามันทรมานมาก เป็น 5 เดือนที่คบซ้อน คุยอยู่ 4-5 คน
พยายามหาตัวตายตัวแทน แต่พอเราหาแล้วไม่มีใครรักเรา ไม่มีใครเข้าใจเราได้แบบเขา คือเมื่อก่อนเขาเยอะพอสมควรกับเรา แต่พอรู้จักกันปรับจูนมา เขาก็ปล่อยฟรีสไตล์ แต่ขอแค่มีเวลาว่างให้เขาบ้างแค่นั้นเอง”
แฟนเราดูใจกว้างมากเลยนะ?
“ต้องยอมรับจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นไปนานแล้ว สภาพหนังหน้าแบบนี้ด้วย เขาบอกว่าเขารักหนูที่เป็นคนเก่ง จะบอกว่าช่วง 5-6 เดือนนั้นเป็นช่วงที่ทรมานมาก เหมือนเราจะออกไปแรดลั้นลา คุยกับคนนั้นคนนี้
ดูเหมือนชีวิตจะมีความสุข แต่ทำไมทุกข์จังวะ มันเหนื่อยมาก จากนั้นก็สารภาพว่ากวาง พี่ไปแรดมาว่ะ ขอโทษนะที่ผมทรยศความรู้สึกที่คุณมีให้กับผม ต่อไปนี้ผมจะรักคุณให้มากกว่าเดิม ไม่มีใครรักผมเท่าคุณแล้วละ”
...
ตอนนั้นที่บอกกวาง คิดว่าเขาจะเซย์โนแล้วเลิกกับเรามั้ย?
“ไม่ ผมเชื่อว่าเขารักเรามากๆ ตอนที่พูดไป เขาบอกว่าเขาโอเค ขอให้จบจริงๆ กับทุกอย่างทุกคน ซึ่งเราบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว จะมีผู้ชายสักกี่คนไปบอกแฟนว่าไปคบผู้หญิงมา 4 คน หลังจากที่บอกกับเขาไปจนถึงตอนนี้ก็เกือบเดือนแล้ว ตอนนี้ก็กลับไปหวานเหมือนเดิม เราเจอเขา เราอยากเจอเขา หอมแก้มเขา อยากจูงมือและประกาศให้ทุกคนรู้ว่านี่แฟนเรานะ”
เห็นว่าส่วนนึงที่ทำให้รักคุดอยู่พักนึงคือมาจากอาการป่วยของเรา?
“หนูให้คำนิยามตัวเองว่าเป็นเหมือนไบโพลาร์ แต่จริงๆ ไม่ได้ป่วยหรอก คือเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เราจะบอกกวางไว้ตลอดว่าอย่าพูดเรื่องนี้ซ้ำๆ นะ พี่ไม่ชอบ ซึ่งเราป่วยหรือไม่ป่วยก็ไม่รู้ (แบบนี้เรียกติสต์แตกรึเปล่า?) พี่ยุทธ (สรยุทธ สุทัศนะจินดา) ชอบด่าหนูว่าติสต์ไปแล้ว แต่หนูไม่เคยคิดฆ่าตัวตายเพราะรู้สึกว่าเรายังมีคนต้องดูแลครับ”
จนถึงตอนนี้เราพูดได้เต็มปากมั้ยว่ากับผู้หญิงคนนี้เรารักจริงหวังแต่ง?
“รักจริง คงไม่ใช่ใครแล้วแหละ ตั้งเป้าไม่เกิน 2 ปีแต่ง ก่อนหน้านี้เคยบอกกวางว่าอย่าเพิ่งแต่งงานนะเพราะยังไม่พร้อม เราก็มานั่งคิดว่าบนโลกนี้มันมีอะไรที่พร้อมบ้าง คนเราถ้าคิดจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ไม่พร้อมไม่เป็นไร แต่งแล้วใช้ชีวิตร่วมกัน ฝ่าฟันกันไปครับ ไม่เกินปี 2563 แต่งแน่นอน และงานแต่งของหนูจะต้องมีคนกล่าวถึงแน่นอน”
...
เห็นว่าเรามีลูกชายบุญธรรม?
“คนนี้ชื่อน้องโอม ด.ช.อวยพร อ่อนละม้าย เขาเป็นลูกของพี่หมี่ ผู้จัดการคนเก่า เขาไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนึงชื่อเปิ้ลและท้องขึ้นมา พี่หมี่ก็มีแฟนอยู่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็มีแฟนอยู่แล้ว
ซึ่งพี่หมี่บอกว่าไม่พร้อมที่จะเลี้ยง ผู้หญิงก็ไม่อยากเอาไว้เหมือนกันและจะเอาออก เราก็เจรจาขอจนกว่าจะคลอดออกมา ถ้าพี่ไม่เอาก็เลิกกันไป แต่ลูกเดี๋ยวผมเลี้ยงเอง พอคลอดออกมาเราก็ไปเซ็นรับรองบุตร ซึ่งกลายเป็นปัญหาในเวลาต่อมา เพิ่งเคลียร์ไปเมื่อต้นปี
คือที่มีปัญหาเพราะในทางกฎหมายเหมือนเปิ้ลเป็นเมียหนู แต่จริงๆ ไม่ใช่ เราเพิ่งมารู้ทีหลังว่าถ้าเราเซ็นแล้วเราเป็นอะไรไป ทรัพย์สินทุกอย่างจะเป็นของน้องโอม แม่เราก็ไม่ได้ ลูกหลานเราก็ไม่ได้ เลยไปทำเรื่องถอนการเซ็นรับรองบุตรเมื่อต้นปีที่ผ่านมา คือในทางกฎหมายน้องโอมไม่ใช่ลูกหนู แต่ทางความสัมพันธ์ความรู้สึกเหมือนเขาเป็นลูก พอโอมเกิดมา พี่หมี่ก็เลิกกับแฟนเขา เปิ้ลก็เลิกกับแฟนเขา แล้วมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน จนมีลูกสาวชื่ออันอัน
...
ทุกวันที่ 5 ธ.ค. น้องโอมจะเอาดอกไม้มาไหว้หนู เขารู้เรื่องราวทั้งหมดเพราะพ่อแม่เล่าให้ฟัง เขาจะเรียกผมว่าป๊าโจ๊ะ ตั้งแต่เด็กๆ หนูก็ส่งเสียให้เรียนโรงเรียน 2 ภาษา พอเขาโตขึ้นก็ให้พ่อแม่เขาส่งเสียเพราะเขาเริ่มทำงานได้ ทุกวันนี้ก็ให้พวกเขาอยู่บ้านหลังแรกของหนูฟรี
โอมเนี่ยเป็นเด็ก มีความคิดดี ตอนนี้อายุ 12 แล้วตัวสูงเลยเพราะชอบเล่นบาส หนูก็สอนให้เขาตั้งใจเรียน จนเขาสอบชิงทุนเรียนฟรีตั้งแต่ ม.1-6 เราก็ซื้อรองเท้าให้เขาตามที่เขาอยากได้ ตอนนั้นที่รู้ว่าเขาสอบได้ก็น้ำตาไหล รู้สึกภูมิใจมาก”.