กลายเป็นกระแสสังคมร้อนๆ เมื่ออดีตนักแสดงหนุ่ม คูณ คณิน บัดติยา ถูกตำรวจเข้าจับกุมที่คลินิกทำฟัน เดอะแซ็ป สหคลินิก (The ZAP Clinic) ถ.พหลโยธิน หลังได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบเปิดคลินิกทันตกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ทางญาติและทนายความยืนยันว่าคลินิกดังกล่าวไม่ใช่ของอดีตนักแสดงหนุ่ม

พร้อมทั้งยืนยันว่าคูณ คณิน เรียนจบทางด้านทันตกรรมจริงๆ จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของประเทศฟิลิปปินส์ และเป็นทันตแพทย์ในคลินิกดังกล่าว แต่ยังไม่ได้ทำการรักษาให้กับลูกค้า เนื่องจากอยู่ในระหว่างขอใบประกอบโรคศิลปะจากแพทยสภา

คูณ คณิน
คูณ คณิน

ล่าสุด พล.ร.ต.หญิง สุชาดา วุฑฒกนก คณบดีวิทยาลัยทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ทางช่อง 3 ว่ากรณีของคูณ คณิน นั้นเป็นที่จดจำของคณะไม่มีวันลืม คูณ คณิน เคยเป็นนักศึกษาของที่นี่จริง และเป็นนักศึกษารุ่นแรกของที่นี่ แต่ถูกรีไทร์

ตอนนั้นคูณเรียนอยู่ชั้นปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ภาคปฏิบัติ ต้องไปฝึกปฏิบัติกับคนไข้จริงในชั้นคลินิก ซึ่งตอนนั้นคูณ คณิน เข้าวงการแล้ว แต่ทางคณะไปตรวจเจอว่า ลายเซ็นที่ปรากฏอยู่ในบันทึกคนไข้ไม่ใช่ลายเซ็นจริงของอาจารย์ผู้สอน ทางคณะก็เลยไปตรวจย้อนหลังทั้งหมด ก็ยิ่งตกใจว่ามีการปลอมทั้งลายเซ็นอาจารย์ ลายเซ็นแคชเชียร์ที่ลงบันทึกการจ่ายเงินของคนไข้ ลายเซ็นเพื่อนที่ใช้ในการแลกเวรสลับคนไข้ รวมทั้งหมด 70 ครั้ง

...

ซึ่งลายเซ็นเหล่านี้ถือเป็นหลักฐานสำคัญในการจบการศึกษา และในชั้นปฏิบัติคลินิกจะต้องเก็บชั่วโมงในการฝึก แต่การปลอมลายเซ็นเท่ากับว่าเจ้าตัวไม่ได้มาฝึกจริง แต่ปลอมลายเซ็นเหมือนตัวเองมาฝึกในชั้นคลินิก ทางมหาวิทยาลัยจึงมีมติให้ไล่ออก ซึ่งอดีตนักแสดงหนุ่มพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาตั้งแต่ปี 2555 และทางมหาวิทยาลัยรังสิตได้แจ้งเรื่องไปยังแพทยสภา

แต่เนื่องจากกระบวนการสอบสวนใช้ระยะเวลาพอสมควร ทำให้ตอนนั้นคูณใช้วิธีขอทรานสคริปต์ ซึ่งเป็นเกรดที่ยังไม่ได้มีการปรับตกหรือปรับรีไทร์ และใช้ทรานสคริปต์นั้นไปศึกษาต่อที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งความจริงแล้วความผิดเรื่องการปลอมลายเซ็นมีความผิดทางอาญา มีโทษจำคุกคดีละ 5 ปี ถ้า 70 คดีก็จะเยอะไป และตอนนั้นอาจารย์ประชุมกันว่าด้วยความเป็นศิษย์และอาจารย์จึงไม่อยากแจ้งความ เลยไม่ได้แจ้งความเป็นคดีอาญา

กับคำถามที่ว่า ในเมื่อคูณจบที่ฟิลิปปินส์มาจะสามารถเป็นหมอฟันที่ประเทศไทยได้รึไม่ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ บอกว่า จริงๆ สามารถมาขอใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะในไทยได้ แต่ปรากฏว่าสถาบันที่อดีตนักแสดงหนุ่มจบมานั้นไม่ได้เป็นสถาบันที่ประเทศไทยรับรอง จึงไม่ได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกแล้ว และได้แจ้งให้เจ้าตัวทราบตั้งแต่ปี 2558 ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิ์เข้าสอบใบประกอบโรคศิลปะ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 2 และไม่สามารถประกอบวิชาชีพทันตแพทย์ในประเทศไทยได้.