เป็นคู่ฝาแฝดที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเรื่องการทำศัลยกรรม สำหรับ เนย วรัฐฐา และ แจม ชรัฐฐา หรือ เนย แจม เนโกะ จัมพ์ โดยล่าสุดในรายการ เล่นใหญ่จัดใหญ่ ทางไบรท์ทีวี ช่อง 20 เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงเรื่องการทำศัลยกรรมของแต่ละคน โดยบอกหมดเปลือกว่าไปทำอะไรกันมาบ้าง พร้อมกับบอกว่า ในช่วงแรกๆ ก็ไม่ค่อยโอเคเพราะเวลามีข่าวศัลยกรรมมักจะมีเธอ 2 คนอยู่ในข่าวนั้นๆ ด้วย ซึ่งทั้งสองเปิดใจว่า
ตอนแรกก็รู้สึกว่าคนอื่นเค้าก็มีนะ ทำไมถึงมาสังเกตแค่เรา แต่ว่าหลังๆ ก็ชินแล้ว ไม่เป็นไร อาจจะมีอายรูปเก่าๆ บ้าง แต่อยู่ในยุคนี้เราไม่สามารถลบรูปเก่าๆ ออกไปได้ ก็ต้องยอมรับกันไป
ส่วนเรื่องต้องทำให้โครงหน้าเหมือนกันมั้ย ทั้งคู่บอกว่า คือหน้าเราอาจจะคล้ายกันอยู่แล้ว แต่รายละเอียดบางอย่างมันไม่เหมือนกัน แต่เราไม่ได้ทำให้มันเหมือนกันขนาดนั้น ต่างคนต่างมีจุดบกพร่องที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเราต่างมีจุดบกพร่องเราก็จะแก้ของเราเอง ไม่เกี่ยวกับอีกคน คือตอนที่เราไปทำ เราทำพร้อมกัน หมอเดียวกัน
สำหรับ เนย ตอนแรกทำจมูก ตอนนั้นก็หารูปไปให้หมอดู บอกว่ารู้สึกปีกจมูกใหญ่ไปหน่อย ขอให้ทำให้เล็กลงหน่อยได้มั้ย ส่วนแจมก็ทำครั้งแรกที่จมูกเหมือนกัน เพราะตอนแรกที่เข้าวงการมาเรารู้สึกว่าเราดั้งแบน ก็เลยทำ ของเนยก็มีแบบของเขา ของแจมก็ชอบไปหารูปดาราเกาหลี บอกว่าอยากหน้าเหมือนดาราคนนี้ แต่ก็ออกมาไม่เหมือน ซึ่งตอนที่ทำเราจะเอาเหมือนเค้าเลยไม่ได้ เพราะด้วยพื้นฐานของหน้าแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ของเราที่ทำมาก็มีปรับแก้บ้าง
...
สำหรับ แจม จมูกไม่เคยแก้ แต่ทำตาแก้ 2 ครั้ง ครั้งแรกทำที่ไทย เวลาผ่านไปเหมือนชั้นตาตก เราเป็นคนตาตี่ ก็เลยไปแก้ที่เกาหลี ส่วนคางไม่ได้ทำ มีฉีดฟิลเลอร์ แต่ขอแนะนำว่า ถ้าใครคิดจะทำ ให้ทำไปเลย อย่าฉีด หมอบอกว่าคนไทยชอบฉีดมา แล้วเวลาจะทำคาง หมอก็ต้องมาขูดออก ก็ให้ตัดสินใจไปเลยถ้าฉีดก็คือฉีด ถ้าจะทำก็คือทำเลยไม่ต้องฉีด
ส่วนของ เนย ทำหน้าอกมา คือเหมือนเราจะเป็นคนเดียวในบ้านที่หน้าอกเหมือนมีแต่กระดูกก็เลยไปทำหน้าอก ทำที่ไทยมา ตอนแรกดูปกติแต่เราไม่ค่อยพอใจเพราะมันใหญ่เกินไป เราอยากให้แค่พอมีบ้างไม่ให้เห็นกระดูก เลยไปแก้ที่เกาหลี ซึ่งหมอที่นั่นเค้าบอกว่า หมอที่ไทยผ่าผิดวิธี ผ่าใต้หน้าอกเลยทำให้ทรงมันผิดต้องไปแก้เยอะเลย ส่วนตาก็ทำครั้งเดียว
ถามว่ารู้สึกยังไงที่คนมองว่าเราสองคนทำศัลยกรรมเยอะมาก คือจริงๆ แล้วเรามองว่ายุคนี้เป็นยุคที่เราค่อนข้างเปิดเผย เรื่องความสวยงามเป็นเรื่องภายในความรู้สึกของเรา บางครั้งถ้าเราจะทำอะไรสักอย่าง เราทำเพื่อตัวเราเอง เราตื่นมาเราส่องกระจกดูว่าชอบหน้าเรารึยัง ถ้าเราแฮปปี้มันก็เหมือนกับเรามั่นใจในตัวเองด้วย
เมื่อก่อนตอนที่เข้าวงการใหม่ๆ ไม่เคยรู้เลยว่าต้องลดความอ้วน ต้องมีดั้ง ด้วยความที่เรายังเด็กมากก็ไม่รู้ว่าวันหนึ่งจะต้องสวย จะต้องเป็นเหมือนเค้าให้ได้ แต่พอถึงจุดหนึ่งเราก็คิดได้เองค่ะ ณ ตอนนี้เราก็พอใจกับหน้าตัวเองแล้ว ยกเว้นถ้ามีตีนกาก็จะไปฉีดโบท็อกซ์ ด้านเนย ก็บอกว่า ตอนนี้รู้สึกโอเค ยังไม่คิดจะทำเพิ่ม ยังโอเคอยู่.
...