เป็นอีก 1 คุณแม่ ที่หลายๆ คนให้ความสนใจและจับตามองดูถึงการเลี้ยงลูกแฝด สำหรับซุป'ตาร์สาว ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต และหลายครั้งที่สาวชมจะต้องเจอดราม่าชาวเน็ตวิจารณ์และช่วยเลี้ยงลูกให้ หนำซ้ำยังถูกจับผิดเรื่องการอุ้มลูกอีกด้วย

เมื่อได้เจอสาวชมพู่ที่งานเปิดตัวบัตรเครดิต Citi Premier พร้อมทั้งเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน จึงไม่พลาดที่จะสอบถามความรู้สึกของคุณแม่ลูกแฝดกับดราม่าชาวเน็ต

เพิ่งกลับมาจากอิตาลีเมื่อเช้าเลย เป็นอย่างไรบ้างทริปนี้?
“ก็ดีค่ะ ก็สนุกดี ก็ทำงานด้วย แล้วก็เที่ยวด้วย คือเราอยู่ต่อ เพราะจริงๆ ตารางงานมันใกล้วันเกิดลูกพอดีก็เลยคุยกันในบ้านว่าเอาเขาไปด้วยเลย เสร็จงานแล้วก็จะได้ฉลองวันเกิดด้วยกัน”

เหมือนครั้งนี้น็อตก็เหมือนต้องไปทำงานด้วย?
“ช่วยด้วยค่ะ นิดหนึ่งค่ะ (เวลาดูลูกๆ ล่ะ?) เราก็มีทีม เราก็ขนพี่เลี้ยงไปเต็มที่ค่ะ คือจริงๆ ทุกคนที่เราไปกันในทีม ไม่ว่าจะเป็นหวานเจี๊ยบ ช่างหน้าช่างผม พี่ป้อม อ.เอก ก็คือสนิทกันกับครอบครัวเราอยู่แล้ว ไปไหนกันมาทั่วโลกแล้ว ก็ช่วยเลี้ยงได้หมดทุกคน ช่วยกันจับ คนหนึ่งทานข้าว คนหนึ่งจับน้อง ก็ช่วยๆ กัน คนช่วยเลี้ยงเยอะ”

ฉลองวันเกิดบรรยากาศเป็นอย่างไรบ้าง?
“ไม่มีอะไรเลย เพราะเด็กๆ ยังไม่รู้เรื่องว่าวันเกิดคืออะไร เป่าเค้กทำไม (พ่อแม่ตื่นเต้นกว่าใช่ไหม?) พ่อแม่ก็คือจริงๆ เราก็คิดว่าเราอยากให้เขากลับมาดูแล้วเป็นความทรงจำที่ดีของเขา แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้หรอกแต่คิดว่าปีหน้าก็น่าจะแย่งกันเป่าแล้วแหละ”

...

ครบ 1 ขวบแล้ว พัฒนาการเป็นอย่างไรบ้าง?
“ก็ตอนนี้ก็คือต้องไล่จับ สายฟ้าจะวิ่งแล้ว เดินยังไม่แข็ง แต่ว่าเขาวิ่งแล้ว แล้วพายุก็เริ่มเดินแล้ว คืออย่างตอนแรกก็ยังวางพายุไว้ได้ สายฟ้าก็ไล่จับเอา แบบว่าตอนนี้ก็คือมันคลาดสายตาไม่ได้จริงๆ ขนาดว่าพี่เลี้ยง 2 คน มันก็ไม่พอ เพราะว่าต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตามากๆ ก็เป็นงานที่เหนื่อย (หัวเราะ)”

เรียกว่าคุณแม่หัวหมุนเลยไหม?
“ก็มีบ้างค่ะ แต่ก็พยายามไม่ไปบล็อกเขามาก ก็อยากให้เขามีอิสระ สังเกตเวลาถ้าเราปล่อยเขาเดินในพื้นที่เป็นพรม หรือเป็นหญ้าที่เราไม่ต้องไปบล็อกเขา เขาจะมีความสุขมาก สุขจนกรี๊ด ดีใจว่าไม่มีคนมาห้าม ก็อยากให้เขาเต็มที่ ก็มีส่วนให้พัฒนาการเขาไปเร็วด้วย แต่ว่าในขณะเดียวกันก็ต้องดู มันต้องมีความพอดี”

ก็ดูเหมือนเราเลี้ยงปล่อยกับธรรมชาติ?
“ก็ปล่อยประมาณหนึ่ง บางทีก็ว่าดูไม่คลาดสายตาแล้วนะ แต่ว่าเด็กมันก็จะมีจังหวะนรกอะ อย่างบางทีก็ว่านั่งดูแล้วนะ อยู่ๆ ก็เอาหัวโขกพื้น ก็เด็กอะนะ”

ล่าสุดที่เราออกรายการหนึ่งว่าเบื่อมั้ยที่คนชอบถามเวลาอุ้มลูกคนนี้ แล้วอีกคนไปไหน?
“ไม่หรอกคือเขาถามว่าตอนนี้อะไรน่าเบื่อที่สุด ก็เป็นสิ่งแรกที่มันแวบเข้ามาในหัวเลย เพราะว่าเพิ่งเจอมา”

เป็นเพราะตอนนั้นมันมีดราม่าด้วยหรือเปล่า?
“ก็ไม่อยากจะให้ถึงกับเรียกว่าเป็นดราม่านะคะ เพราะว่ามันก็เป็นแค่คอมเมนต์ถูกไหมคะ เราอย่าไปเรียกมันว่าดราม่าเลยค่ะ”

พอเจอคอมเมนต์แบบนี้เซ็งไหม?
“ชมเชื่อว่าหัวอกคนที่เป็นพ่อเป็นแม่พอมาเป็นเองก็จะรู้ว่าบางทีคนจะมาแสดงความคิดเห็นว่า ทำไมเราไม่เลี้ยงแบบนั้น ทำไมเราไม่ทำแบบนี้ คือชมว่าคนที่เป็นพ่อเป็นแม่แล้วเข้าใจทุกคน ส่วนมากคนที่มาเมนต์น่าจะยังไม่เคยมีโอกาสได้เลี้ยงเองจริงๆ และเขาจะไม่รู้ว่าเลี้ยงเด็กมันไม่มีสูตรตายตัวนะ และมันมีข้อจำกัดในบริบทอะไรหลายๆ อย่าง ที่สำคัญสิ่งที่เราเห็นในโซเชียลกันก็เป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของชีวิตเรา”

เจอคอมเมนต์แนวนี้บ่อยไหม?
“หลังๆ ก็มีน้อยลงแล้วนะหลังจากที่พูดในรายการไป (หัวเราะ) คือบางคนที่เขาไม่ได้อะไรกับเรา เขาก็ออกมาพูดว่า เออใช่ เห็นด้วยกับเรา คือเราไม่รู้หรอกว่าข้างหลังมันคืออะไร”

แสดงว่าเราค่อนข้างอ่านในคอมเมนต์อยู่บ่อยๆ?
“ก็ถ้ามีเวลาก็อ่าน บางทีอยู่ว่างๆ ก็สไลด์ดูว่าฝากร้านเยอะไหม แต่บางทีก็ไม่ได้อ่าน แล้วแต่จังหวะค่ะ”

พออ่านแล้วมีนอยด์บ้างไหม?
“คือเราจะเอามาให้มันเป็นผลต่อการที่เราจะตัดสินใจจะเลี้ยงลูกยังไงมันไม่ได้ เพราะเขาคือลูกเรา สุดท้ายแล้วเขาคือลูกเรา เราคือคนที่ตัดสินใจว่าเราจะเลี้ยงยังไง เพราะฉะนั้นชมว่าคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนแหละต้องมีโดนบ้าง ไม่ใช่จากประชาชนทั่วไป แต่บางทีเป็นเพื่อนร่วมงานหรือคนนู้นคนนี้ เพื่อนของเพื่อน คนข้างบ้าน หรือคนในหมู่บ้าน ทำไมบ้านนี้เลี้ยงลูกแบบนี้ มันมีเป็นเรื่องปกติ ต่อให้คุณไม่ได้เป็นดารา คุณก็ต้องเคยเจอ ถึงบอกว่าถ้าคนเป็นพ่อเป็นแม่คนแล้วจะเข้าใจ มันทางใครทางมัน บ้านใครบ้านมัน”

...

ถามถึงเรื่องพรีเซ็นเตอร์ลอรีอัล มีข่าวว่า ใหม่ ดาวิกา จะมาแทนเราหรือเปล่า?
“สัญญาชมก็ยังอยู่นะ เรื่องนี้คนก็จับตามองกันตลอดอยู่แล้ว เราก็มีหน้าที่ยืนตอบคำถามอยู่แล้วค่ะเพราะเรามายืนหน้าแบ็กดรอปใช่ไหมคะ ยังตอบได้อยู่”

คนเลยมองว่าน้องจะมาแย่งตำแหน่งเราไปอีก?
“ไม่หรอก คือจริงๆ ในครอบครัวลอรีอัลก็มีคนที่มาทำงานมากกว่า 1 คน ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และน้องก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้มาก่อน น้องก็เคยร่วมงานกับทางแบรนด์มาก็นานพอสมควร”

คนเลยจับตาว่าการไปเดินพรมแดงที่เมืองคานส์ปีหน้า จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า?
“มันก็เป็นเรื่องปีต่อปีนะ ตัวชมเองก็ไม่ได้รู้ล่วงหน้านานนะว่าแบรนด์จะส่งหรือไม่ส่ง มันก็เป็นเรื่องของทางผู้ใหญ่เขาว่าจะตัดสินใจยังไง เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินใจง่ายๆ ต้องใช้อะไรหลายๆ อย่าง”

เหมือนกระแสออกมาว่าเขาจะมาแทน เพราะเราอิ่มตัวแล้ว?
“ยังๆ ไม่อิ่ม (หัวเราะ) ก็แล้วแต่ เราอยู่ตรงนี้เป็นจุดให้คนวิพากษ์วิจารณ์แสดงความเห็น นานาจิตตังค่ะ”

...