เรื่องนี้สำคัญมาก ขอย้ำรอบที่ร้อย สำคัญมากๆ เพราะรายได้หลักอีกอย่างของประเทศไทยเรา คือรายได้จากการท่องเที่ยว ทั้งจากคนไทยเที่ยวกันเอง และจากชาวต่างชาติทุกมุมโลก ที่ต่างแห่เข้ามาท่องเที่ยวกอบโกยความสุขในไทย
บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปคุยกับกูรูตัวพ่อเรื่องการท่องเที่ยว จ๊อบ นิธิ สมุทรโคจร ดาราดังที่รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ จ๊อบ นิธิ มีมุมมองเรื่องการท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆ ควรค่าแก่การอ่าน และที่สำคัญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในส่วนต่างๆ ต้องคิดต้องปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น เพื่อการท่องเที่ยวไทยด้วย เพราะอย่างที่เรารู้ๆ กันสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งของไทย พบกับความความหายนะไปเรียบร้อยนานแล้ว เพราะนักท่องเที่ยวขาดจิตสำนึกไร้ความรับผิดชอบ และที่สำคัญคือเจ้าหน้าที่รัฐเอง ไม่มีการบริหารจัดการที่ดีพอ
...
รู้สึกอย่างไร ที่จ๊อบได้รับฉายาตัวพ่อด้านท่องเที่ยว? "ถ้าในแง่ดี ก็คือคงจะบอกว่ายินดีครับ เพราะว่าจริงๆ แล้วชีวิตที่ทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวมาประมาณ 20 ปีแล้วครับ โดยเฉพาะรายการสมุทรโคจรที่ย่างเข้าสู่ปีที่ 15 ก็ได้มีโอกาสท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และก็ต่างประเทศมาค่อนข้างเยอะ"
"การไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เราคงไม่ได้เชิญชวนให้คนไทยไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ผมกำลังไปดูว่าเขาทำอะไรกันในต่างประเทศ เขามีการจัดการบริหารอย่างไรกับท่องเที่ยวเหล่านั้น แล้วก็กลับมาเล่าให้คนไทยฟังว่า เขาทำกันอย่างไร และในขณะเดียวกัน เราลองเปรียบเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวไทย ซึ่งบางที่เราอาจจะมีส่วนคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติในแต่ละที่"
"ต่างประเทศหรือประเทศที่พัฒนาแล้ว เขามีการจัดการที่ดีนั้น เขาทำกันอย่างไร ในเรื่องของการท่องเที่ยวน้ำตก จิตสำนึกจะเป็นยังไง การท่องเที่ยวทะเล การระมัดระวังความปลอดภัยมันเป็นอย่างไร ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ คือเจตนาที่อยากจะบอกเล่าแบบนี้ ส่วนคำว่าเป็นตัวพ่อด้านการท่องเที่ยวก็คงจะบอกว่า ก็คงจะใช่แล้วแหละ เราได้เดินทางเยอะแล้วก็ได้เห็นเยอะ แล้วก็มาบอกเล่ามา เป็นเวลาอย่างที่บอกแค่รายการเดียวก็ 15 ปีแล้ว แล้วก่อนหน้านี้ก็ทำรายการอื่นๆ มาอีกด้วยครับ"
ตอนนี้รู้สึกอย่างไรกับชีวิตที่พร้อมหมดแล้ว ทั้งครอบครัว ชื่อเสียงเงินทอง งานที่ดี ยังอยากได้อยากมีอะไรอีกไหม? "คือจริงๆ แล้วเราจะบอกว่าครบหมด ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นความครบ ในเรื่องความเป็นครอบครัวเรามีลูกสองคนทั้งผู้ชายและผู้หญิง และทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ว่า เราจะดูแลอย่างไรให้เขาโตขึ้นมาเป็นคนที่มีคุณภาพในสังคมได้ ซึ่งอันนี้ก็ยังเป็นอยู่ในช่วงเวลาแบบนี้"
"ชื่อเสียงเงินทองต่างๆ นานา ผมบอกว่ามันก็อีกเรื่องเช่นเดียวกันแหละครับ เป็นเพราะเราได้รับแรงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน ที่ชมผลงานเราต่างๆ นานา ซึ่งก็มีรายได้ แต่อย่างไรก็ตามก็คงเป็นหน้าที่ของผม ที่ดูแลแล้วก็รักษาความไว้เนื่อเชื่อใจที่ประชาชนมอบให้กับเรา แล้วเราก็คงต้องทำให้ดีที่สุด หน้าที่การงานอันนี้เป็นหน้าที่หลักเลย ทุกวันนี้ยังดำเนินอยู่ ก็คือในวันนี้ไม่ว่าเป็นการเล่นละคร ยังแสดงละครอยู่เหมือนเดิม
"ในขณะเดียวกันงานที่เราชื่นชอบ งานที่เราทำก็คืองานของการเดินทาง การเดินทางที่ว่านี้ มันเพิ่มบทบาทมากยิ่งขึ้น เราไม่ใช่แค่คนที่ไปท่องเที่ยวแล้วก็ไปบอกเล่า แต่ในวันนี้มันเป็นเรื่องของการร่วมกันสร้างแหล่งท่องเที่ยว
"โดยเฉพาะชุมชนที่เราไปสัมผัส ที่เราไปแนะนำเขา บอกเล่าเขา หรือในหลายๆ ครั้งที่เราไปร่วมเสวนากับเขา ซึ่งอันนี้ก็เป็นหน้าที่ ของคนมีประสบการณ์การท่องเที่ยว นำไปแชร์กับผู้ที่อยู่ในสถานที่ต่างๆ เผื่อบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว รวมไปถึงชุมชนที่เปิดรับให้ประชาชนเข้าไปท่องเที่ยว มีเสน่ห์ที่น่าสนใจแบบนี้ตลอดไป ถ้าถามว่างานผมสิ้นสุดหรือยัง ก็คงต้องบอกว่ายัง แล้วก็คงต้องตั้งหน้าตั้งตาทำเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ"
ภาครัฐต้องสนับสนุนส่งเสริม เรื่องการปลูกจิตสำนึกของนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติ ที่เข้ามาเที่ยวไทยอย่างไร? "ในมุมมองของผมนะ ผมมีความคิดว่าเรามีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เรามีศิลปวัฒนธรรมประเพณีที่น่าสนใจเยอะแยะมากมาย ในช่วงเวลาที่ในแต่ละปีเรามีนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาสัมผัสปีหนึ่งก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่จะทำอย่างไรไม่ให้แหล่งท่องเที่ยวทรุดโทรมจากการท่องเที่ยว อันนี้คือเป็นสิ่งที่สำคัญ"
"เราจะทำยังไงให้บุคคลเจ้าของพื้นที่ ไม่ต้องการแค่เงินจากการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่ทำให้นักท่องเที่ยวเขามีความรู้และความเข้าใจประเพณีและวัฒนธรรมศิลปะในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งทำอย่างไรให้เงินไม่รบกวนเขามากจนเกินไป เช่น เขามีประเพณีทำบุญใหญ่ของจังหวัด ถ้ามีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยอะๆ บางทีผู้ประกอบการท่องเที่ยว เปลี่ยนแปลงลักษณะของงานของการดำเนินชีวิต ซึ่งอันนี้เราจะต้องการกวดขันแล้วก็ควบคุมให้ดีๆ นะครับ"
...
"ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทย บางทีเขาไม่รู้หรอกว่า ความลึกซึ้งของประเพณีวัฒนธรรม เรื่องราวของแหล่งท่องเที่ยวทางพระพุทธศานา หรือศาสนาอื่นๆ คืออะไร เพราะฉะนั้นคนในชุมชนหรือมัคคุเทศก์ก็ต้องใส่ใจ และบอกเล่าให้เขาฟังอย่างชัดเจน ถ้าถามย้อนกลับไปภาครัฐต้องทำอย่างไร ในมุมมองของผมนั้น
"หนึ่งเราต้องการนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาเรียนรู้เรื่องราว ความน่าสนใจของประเทศเรา เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องมีการคัดกรองนักท่องเที่ยวบางส่วนเบื้องต้น ความหมายเช่นในปีนี้ 2561 เราคาดการณ์ว่าเราน่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยราวๆ 40 ล้านคน แต่การรองรับของเรานั้นอาจจะอยู่ที่ 30 ล้านคน แล้วทำอย่างไรให้ไม่ใช่แค่เพิ่มปริมาณการท่องเที่ยว แต่เราต้องการเพิ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
"ผมว่าอันนี้เป็นมุมมองที่สำคัญและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว ก็คงจะฝากเอาไว้ว่า เรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่งที่ยังคงสมบูรณ์ ถ้าเกิดว่าเรามีนักท่องเที่ยวที่มีแต่ปริมาณไม่มีคุณภาพ มันอาจจะส่งผลกระทบให้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่สมบูรณ์เหล่านั้น ถ้าเราเปลี่ยนเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ อันนี้จะน่าสนใจมากกว่าครับ
"อย่างที่รู้กันว่าแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งได้เสื่อมถอยไป เพราะขาดการบริหารจัดการที่ดีพอ เราจะสามารถป้องกันแหล่งท่องเที่ยวที่เหลืออยู่ต่อไปอย่างไร ให้ดีเหมือนเดิมได้
"ก็ในความคิดผมนะครับ ผมทำแคมเปญหนึ่งร่วมกับ ททท. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อย่างแคมเปญที่ชื่อว่า 7 Greens Turismo นะครับ ซึ่งแคมเปญนี้เป็นแคมเปญที่ดีมากๆ เลยครับ คือมันเป็นการท่องเที่ยวสำหรับคนที่มีหัวใจสีเขียว คือคนที่รักในธรรมชาติ รักในสิ่งแวดล้อม รักในการท่องเที่ยวแบบชุมชน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้มันจะก่อให้เกิดการลดใช้ แล้วก็พูดถึงการลดใช้ขยะด้านพลังงาน ด้านสิ่งแวดล้อม ที่อยากให้ผลักดันให้เกิดขึ้น
...
"นี่เป็นเครื่องมือสำคัญ ที่เราจะได้นักท่องเที่ยวคุณภาพดีที่มาท่องเที่ยว ยกตัวอย่างเช่น ประเทศที่เรามองเขาว่าเป็นประเทศพัฒนาแล้ว อยู่ไม่ไกลจากเรา เช่น ประเทศญี่ปุ่น ผมแอบไปดูว่าเวลาเขาไปเที่ยวเกาะต่างๆ ปัญหาขยะตามเกาะของเขาก็ไม่ได้เยอะแบบเรา
"นักท่องเที่ยวของเขามีความเข้าใจและใส่ใจในเรื่องของการบริหารการจัดการขยะ บางทีอาจจะเป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่มันเป็นปัญหาใหญ่ แต่บางทีเราอาจจะคาดไม่ถึง เพราะเขามีการปลูกจิตสำนึกแบบนี้ เรื่องราวแบบนี้ หรือจะเป็นการใช้รถสาธารณะ ซึ่งเราจะบอกว่าวันนี้บ้านเรา มันยังไม่เพียงพอ บางทีเราอาจจะร่วมกันผลักดันให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยทีเดียว
"ในขณะเดียวกันพอเราไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ นักท่องเที่ยวทุกคน มีการดูแลและใส่ใจด้วยจิตสำนึกอย่างแท้จริง ขยะสักชิ้นที่เราทิ้งลงไป เราคิดคำนึงเพียงเท่านี้ ก็จะก่อให้เกิดความสมบูรณ์กับสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นได้
"ย้อนกลับมาอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ คือปัจจัยที่ทำให้แหล่งท่องเที่ยวทรุดโทรมได้อย่างรวดเร็วคือเพราะว่าเราไม่ได้มีการจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างเต็มระบบ มีแหล่งท่องเที่ยวหลายๆ แห่ง จากก่อนนั้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วมันเคยสวยงามที่ใครหลายๆ คน ใฝ่หาอยากจะไปเที่ยว แต่เพียงเวลาผ่านไปเพียงแค่ 5 ถึง 10 ปีเท่านั้น
"วันนี้เราย้อนกลับไปแหล่งท่องเที่ยวเดิมมันกลายเป็นว่า เฮ้ย มันไม่ได้มีเสน่ห์ในแหล่งท่องเที่ยวเหล่านั้นแล้ว กลายเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ รีสอร์ต รวมไปถึงผู้คนที่แออัดกันอยู่ในสถานที่เหล่านั้น เพราะฉะนั้นมันก็ทำให้เสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวเหล่านั้นทรุดถอยลงไป ถ้าหากเราเลือกได้ เราเลือกที่จะมีการควบคุมจำกัดมีการดูแลแหล่งท่องเที่ยวเหล่านั้นให้เป็นอย่างดี ซึ่งมันน่าจะดีที่สุดครับ"
...
การท่องเที่ยวเป็นอีกรายได้หลักของประเทศไทย เราจะช่วยอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวให้อยู่ยั่งยืนได้อย่างไร? "มันอยู่ที่จิตสำนึก ถ้าเกิดพูดถึงเรื่องของการรักษาแหล่งท่องเที่ยวมันอยู่ที่จิตสำนึกของผู้เที่ยวเป็นหลัก และผู้ที่อยู่ในสถานที่เหล่านั้น ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญ
"ในประเด็นที่คุยตอนนี้ ผมอยากจะบอกนักท่องเที่ยวทุกคนต้องรู้จักให้เกียรติสถานที่ท่องเที่ยวที่เราได้ไปสัมผัส เราต้องรู้จักที่จะดูแลรักษาสถานที่ท่องเที่ยว และในขณะเดียวกัน ถ้าเรามีเวลาอยู่กับสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นให้มากขึ้น หรือเราอินกับสถานที่ท่องเที่ยวเราก็จะรักสถานที่นั้นๆ ไปโดยปริยายอันนี้ความรู้สึกของผมที่เป็นผู้ไปเที่ยวครับ
"แต่ในขณะเดียวกันคนที่ดูแลพื้นที่เหล่านั้น หากเขาไม่มีรายได้จากการท่องเที่ยวเหล่านั้นแน่นอนครับ เขาก็จะไม่มีความสุขกับนักท่องเที่ยวที่เข้าไปมากมาย เพราะฉะนั้นการเกื้อกูลกัน ความหมายก็คือนักท่องเที่ยวที่เข้าไปในแหล่งท่องเที่ยวเรา มีการกระจายรายได้สู่ชุมชนลงสู่คนในพื้นที่ มันก็คงจะทำให้คนในพื้นที่หวงแหน ซึ่งมันก็ทำให้เขาอยากได้รายได้ในระยะยาว ไม่ใช่ระยะสั้นๆ เท่านั้น
"เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องมีการจัดการ และดูแลพื้นที่ของเขาให้เป็นอย่างดี เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าไปอย่างไม่ขาดสาย ดังนั้นคำถามนี้ผมจะจำแนกออกเป็นสองส่วน นักท่องเที่ยวคือผู้ที่ไปเที่ยวและคนที่อยู่ในพื้นที่และรองรับนักทักท่องเที่ยว เรามีหน้าที่สอดประสานซึ่งมันก็ช่วยให้
"1. มีการจัดการบริหารการท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์ 2. มันก็คือการยืดอายุการท่องเที่ยวเหล่านั้นไปให้นานที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ที่สำคัญทำให้แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์แบบนี้ตลอดไป ทั้งนี้ทั้งนั้นผมคงฝากในเรื่องของการท่องเที่ยวโดยชุมชน และฝากไปถึงเรื่องราวของศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่น ทั้งหมดทั้งมวลนั้นคือเสน่ห์ทำให้แหล่งท่องเที่ยว หรือคนที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวเหล่านั้น ไม่ตามกระแสจนทิ้งตัวตนของตัวเองไป ไม่ใช่กระแสต้องการอะไรอย่างไร
"วันนี้เท่าที่มองอยู่นั้นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ นานา คนจะเข้าไปแชะและแชร์เท่านั้น แต่ไม่ได้เข้าเรียนรู้และทำความเข้าใจแล้วก็มีความกระจ่างและถ่องแท้กับแหล่งท่องเที่ยวนั้น มันก็เลยก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ มากมาย หากวันนี้เรามีการทำงานอย่างเป็นระบบ หน่วยงานภาครัฐที่เข้ามาดูแลแหล่งท่องเที่ยว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เข้ามาดูแลมากมาย เป็นกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมการพัฒนาชุมชน
"เรื่องของการดูแลชุมชน และหน่วยงานอื่นๆ ที่ผมไม่ได้กล่าวถึงในช่วงเวลานี้ แต่เวลาที่เข้ามา มันต้องสอดประสานกับความต้องการของชุมชน และทำอย่างไรให้เอื้อกับประชาชนอย่างสูงสุด และสุดท้ายคนที่เขาไปท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น ททท. การท่องเที่ยวของประเทศไทย หรือการเชิญชวนต่างๆ นานา เราต้องการคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและชุมชน มีความใส่ใจในการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นหากเรามีระบบเหล่านี้ มันจะทำให้แหล่งท่องเที่ยวของเรานั้นสมบูรณ์ และสวยงามแบบนี้ตลอดไป".