เรียกว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง พชร์ อานนท์ หลังจากที่คุณแม่ ศิริ รุ่งเรือง วัย 84 ปี จากไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยเจ้าตัวได้จัดงานสวดพระอภิธรรมศพคุณแม่ ณ ศาลารุ่งแสง วัดบางนาใน พระอารามหลวง ตั้งแต่วันที่ 2-7 ก.ย. 2561
สำหรับบรรยากาศสวดพระอภิธรรมศพในคืนที่ 3 นอกจากจะมีคนในครอบครัว เพื่อนฝูง และผู้ใหญ่ที่เจ้าตัวเคารพนับถือแล้ว ยังมีคนในวงการบันเทิงอีกหลายคน
อาทิ เต๋า สมชาย เข็มกลัด และยุ้ย อัฐมาศ, ก้อง ปิยะ เศวตพิกุล, แทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม ฯลฯ มาร่วมงานเช่นกัน และภายหลังเสร็จสิ้นพิธีสวดพระอภิธรรม พชร์ อานนท์ ได้เปิดใจกับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ถึงความรู้สึกหลังสูญเสียคุณแม่ด้วย

เล่าถึงเหตุการณ์วันที่คุณแม่เสียชีวิต?
"คุณแม่เสียตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. คือก่อนหน้านั้นคือวันที่ 31 ส.ค. เรานัดกันว่าจะเจอกันที่บ้านผม เพราะคุณแม่จะมาหาทุกวันเสาร์ ก็นัดกันว่าพรุ่งนี้ 8 โมงเช้าของวันที่ 1 มาเจอกัน
ก็บอกแม่ว่ามาเร็วๆ นะเพราะต้องไปดูโลเกชั่น เดี๋ยวมันจะสวนทางกัน แม่บอกว่าเดี๋ยวรีบไปตั้งแต่ตี 5 เลย เพราะบ้านแม่อยู่แถวสำโรง บ้านผมอยู่ลาดพร้าว ธรรมดาแม่จะมาหาอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ทุกวันเสาร์แม่จะมาเพราะจะมีแม่บ้านไปทำความสะอาด
...
คืนนั้นแม่ก็นอนปกติ ตื่นมาตอนตี 5 ก็เอ๊ะ โทรศัพท์มาเต็มไปหมด เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็พอดีเห็นโทรศัพท์จากแม่ เราก็นึกว่าแม่มาแล้วมั้ง คงเข้าบ้านไม่ได้เพราะเราต้องไปกดรหัสให้ แต่เราก็เอ๊ะ เราเปิดประตูทิ้งไว้นี่นา แต่พอคนที่ดูแลแม่โทรมา เขาบอกว่าแม่เสียแล้ว
ตอนนั้นความรู้สึกคือช็อกอย่างแรง ร้องไห้ คือชีวิตพี่มีพี่กับแม่อยู่กันสองคน ตลอดระยะเวลาเริ่มเรียนหนังสือมา หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าเราผูกพันกับเขามาก เพราะเป็นลูกคนเล็ก ส่วนพี่จะคนละพ่อกัน
เราเลี้ยงแม่มา ตั้งแต่จบ ม.6 ก็เลี้ยงแม่มาตลอด ทำงานดูแลแม่ไม่ให้แม่ลำบาก ปลูกบ้านให้แม่อยู่ ให้เงินและเลี้ยงดูให้ดีที่สุด เพราะแม่คือที่สุดในชีวิตเราแล้ว
พอแม่จากไปเราก็รู้สึกว่าเราเลี้ยงเขาไม่ดีเหรอ เขาถึงจากเราไป แต่มาคิดอีกทีเขาคงไปสบายแล้ว คนเขาบอกว่าที่เขานอนหลับไปแล้วเสียชีวิตตอนตี 4-5 คือมีบุญมากที่สุดเพราะเป็นแสงเช้า
คิดว่าท่านไปสบายแล้วเพราะท่านก็อายุ 84 ปีแล้วครับ แต่ยังรักและทำใจไม่ได้ ที่สำคัญคือ (นิ่งไปพักหนึ่ง) รู้สึกเสียใจที่เราดูแลเขาไม่ดีหรือยังไง เขาถึงไปโดยไม่บอก แต่คิดอีกทีเขาคงถึงเวลา เราก็ทำเต็มที่แล้ว"

จริงๆ ก่อนหน้านี้คุณแม่มีโรคประจำตัวบ้างมั้ย?
"ไม่มีโรคอะไรเลย ตั้งแต่สาวจนแก่ไม่เคยเป็นอะไรเลย ไปตรวจสุขภาพทุกปี ตรวจมาก็เป็นแต่โรคคนแก่ มีเรื่องความดันนิดหน่อยครับ พี่ไม่เคยเสียเงินรักษาแม่เลยทั้งชีวิต ให้เงินแม่ไว้ใช้ตลอดเวลา
แม่อยากได้อะไรก็ให้ แม่เป็นคนดื้อ เขาชอบขึ้นรถเมล์ ให้ขึ้นแท็กซี่ก็ไม่ขึ้น ซื้อรถให้ก็ไม่เอา เขาไม่ยอม เราก็ตามใจเขา ไม่อยากขัดใจ เราก็คิดอีกทีว่าแม่แข็งแรงไง เราก็เลยตามใจแม่"
คุณแม่เสียมา 3 วันแล้ว ความรู้สึกในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
"ถ้าอยู่คนเดียวก็จะร้องไห้เพราะคิดถึง คือเขามาหาเราทุกวัน โทรศัพท์มาหา หมายถึงว่าโทรคุยว่าทำอะไร อยู่ไหน ฝนตกมั้ย เก็บผ้ารึยัง
แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เราก็รู้สึกว่ามันโหวงเหวง แต่คุณแม่ก็ไปสงบมาก ถ้าคนไปอย่างสงบคือมีบุญ เพราะแม่เป็นคนชอบทำบุญเยอะมาก"


...
ก่อนคุณแม่เสียไม่มีลางสังหรณ์อะไรเลยใช่มั้ย?
"ไม่มีเลย เมื่อเดือนที่แล้วก็เข้าไปกอดแม่และบอกว่าแม่อยู่กับหนูนานๆ นะ แต่แม่ก็คงหมดกังวลแล้วล่ะ เพราะว่าเราเคยให้เงินแม่เก็บไว้ แม่ก็บอกว่าแม่ไม่เก็บหรอก เอามาเก็บไว้กับเรา
เราคืนกลับมาแล้วบอกแม่ว่าไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่อยากเก็บก็เอาไว้กับหนูเพราะว่าเงินหนูทุกบาททุกสตางค์ก็เป็นของแม่อยู่แล้ว แกคงเป็นห่วงว่าถ้าอยู่ๆ แกไปเลย แกกลัวไม่ได้เซ็นมอบ
แต่แกก็เซ็นมรดกให้พี่หมดแล้ว แต่เราไม่ได้อยากได้หรอก อยากให้แม่อยู่กับเรามากกว่า บ้านแม่เราก็ทำให้ แม่ก็คืนให้
หลังจากนี้ก็จะเก็บศพแม่ไว้ที่บ้าน 100 วัน เพราะบ้านนั้นเป็นบ้านแม่เขา ไม่มีใครอยู่ มีแม่กับเด็กที่พี่จ้างให้ดูแลแม่อยู่ อยู่กันสองคน แล้วก็ค่อยฌาปนกิจศพ น่าจะเป็นเดือน ธ.ค. ครับผม"
อยากบอกอะไรถึงคุณแม่มั้ย?
"แม่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะแม่เป็นคนที่ห่วงผมมากที่สุด ผมดูแลตัวเองได้ หลับให้สบาย จะเป็นคนดีแบบที่แม่สอนไว้ ช่วยเหลือคนอย่างที่แม่บอกไว้ครับ"

...
หลังจากนี้ต้องอยู่คนเดียวแล้ว?
"มันก็ต้องอยู่ให้ได้นะ คงอีกไม่นานหรอก พี่ก็คงตามแม่ไป ก็จะทำดีเยอะๆ เพราะแม่ทำบุญเยอะก็ขึ้นสวรรค์ พี่ก็ต้องทำดีเยอะๆ เพื่อที่จะไปอยู่บนสวรรค์กับแม่ รักแม่ครับ".
