เข้าใจ ‘นุ่น’ ไม่อยากแต่งเพราะห่วงความรู้สึก

เดินทางมาถึงซีรีส์เรื่องสุดท้ายแล้วสำหรับ “My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก” ตอน “ใต้ปีกปักษา” งานนี้หลุยส์ สก๊อตต์ พระเอกหนุ่ม สวมบท “อคิน” หนุ่มนักบินสุดเท่แต่มีปมในใจ ประกบนางเอกรุ่นน้อง แยม-มทิรา ตันประสุต ความดราม่า-คอมเมดี้ ไม่ใช่ปัญหา แต่อุปสรรคใหญ่หลวงเห็นจะเป็นมือไม้ที่เล่นใหญ่ประกอบการ พูดคุยที่กลายเป็นวางหมากตัวเองเล่นมากกว่า พร้อมเคลียร์เสียงเม้าท์เป็นคนติดแฟนมาก แท้จริงแค่ต้องการ เพื่อนคุย เพื่อนร่วมทาง ส่วนแพลนแต่งงานโดนกดดันถามกันเยอะ ถึงขนาดทำให้ นุ่น รมิดา แฟนสาวซึ่งคบหาดูใจมานานถึง 10 ปี เอ่ยปากไม่อยากแต่งเพราะไม่อยากเพิ่มความกดดัน ใน “คนดังนั่งคุย”

เรื่องสุดท้ายของซีรีส์ มาย ฮีโร่?

“กดดันอยู่เหมือนกัน แต่ละคนมีฮีโร่ของเค้า เราก็มีในแบบของเรา ซึ่งผมว่าของเราสนุกอีกแบบ เราใช้ซีจีค่อนข้างเยอะ มีย้อนยุคมีเรื่องของพี่โอ๊ต พี่อั๋น วิทยา ที่เล่นเอาไว้ก่อนหน้านี้จึงมากระทบถึงเรื่องราวปัจจุบัน ผมกับแยม มทิรา การถ่ายทำอลังการอยู่เหมือนกัน”

ในบรรดาซีรีส์เป็นเรื่องเดียวที่มีเกี่ยวกับวิญญาณเข้ามา?

“ผมจะเจอแบบนี้บ่อย”

...

ถือว่าดวงสมพงศ์กับเรื่องแบบนี้?

“อย่าเรียกว่าสมพงศ์เลยดีกว่า (หัวเราะ) เพราะว่ามันค่อนข้างเหนื่อยกว่าการถ่ายละครปกติ ต้องเล่นซ้ำ 3 รอบ ต้องจำด้วยเราเล่นมีผีเราเล่นอะไรไว้ ตอนที่ไม่มีผีเราต้องเล่นแบบนั้นให้เหมือนเป๊ะ แล้วเป็นคนใช้มือไม้ในการพูดคุย เป็นอุปสรรค อันใหญ่หลวง เป็นการวางหมากตัวเองเลยครับ”

นุ่นแซวมือไม้บ้างมั้ย?

“ไม่ค่อยมี แต่เค้าเริ่มติดจากหลุยส์ไปครับ เค้าติดไปเหมือนกันเวลาจะอธิบายอะไร”

กับคาแรกเตอร์ในเรื่องนี้?

“เค้าเป็นคนสุขุม ตั้งใจทำงาน แต่เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้นิสัยเปลี่ยนไปตามเนื้อเรื่อง เจอผี แต่อคินจริงๆจะไม่เชื่อเรื่องผีเท่าไหร่ ส่วนตัวเรื่องวิญญาณผมเชื่อ แต่เรื่องผีผมไม่ค่อยอิน เรานับถือไปที่ไหนก็ไหว้ก่อนขึ้นเวที ตัวละครอย่างฟอลคอน บุพเพฯ ผมก็ไหว้เพราะท่านมีตัวตนจริง เป็นการลบหลู่ ถ้าเราไม่ให้ความเคารพต่อเค้า”

เคยเจอเรื่องราวลี้ลับอะไรแบบนี้?

“ผมเจอบ่อยนะ ขับรถต่างจังหวัดเห็นคนโบกไม้โบกมือ เห็นอยู่ใกล้รถมาก รอแป๊บก่อนไม่มั่นใจจะถามนุ่นที่นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อกี้เห็นมั้ย นุ่นก็จะบอกว่าไม่มี ผมจะยืนยันมีข้างๆตัวเค้าผ่านนุ่นไปเลยผมเห็นบ่อย พอเห็นปุ๊บผมจะแตะตัวนุ่น เค้าก็จะรู้แล้ว อีกแล้วเหรอ”

การร่วมงานกับแยมเป็นอย่างไรบ้าง?

“น่ารักครับ พูดจากันเองมาก เราพูดจาไบลิงกัว ทั้งคู่ ทั้งอังกฤษ-ไทย ผสมกันเละเทะตุ้มเป๊ะแต่จนเข้าขากันได้ดี เราเล่นกันตลอดเวลา”

เวลากุ๊กกิ๊กกับแยมใครเขินใคร?

“เค้าเขิน ผมมากกว่าเพราะว่าผมจะแซวไปแซวมาเค้าจะอาย”

อาชีพนักบินถือเป็นอาชีพในฝันของหลุยส์ด้วยมั้ย?

“ตอนเด็กอยากที่จะเป็นในช่วงที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกๆ เหมือนกับว่าชีวิตผู้โดยสารฝากไว้กับนักบินกับคนคอนโทรลเครื่องบินจะลงได้เมื่อไหร่ ชีวิตเราฝากไว้ 2 ท่าน เป็นอาชีพที่ไม่ได้แบกภาระแต่แบกความกดดันเยอะเหมือนกันทำให้เราอยากลอง อะไรที่เกี่ยวกับขับรถ ขับมอเตอร์ไซค์ จะชอบขับเครื่องบินก็อยาก แต่ผมลองถามสายการบิน สายเกินไปมั้ยถ้าผมจะทำ เค้าก็บอกดีๆว่าสายเกินไปแล้วครับคุณหลุยส์ (ยิ้ม) เรื่องนี้ก็ได้ตอบโจทย์แต่ พอลองแล้วปวดหัวเลยครับ เราไม่ใช่นักบินที่จะเรียนรู้ใน 3 ปี ปุ่มแต่ละอย่างอยู่ตรงไหนเรามีเวลาวันเดียว แค่ตอนเช้าเท่านั้นจำลองเหตุการณ์เครื่องบินจะตก อาจารย์ใส่ข้อมูลลงไปในเครื่องว่าอาการเครื่องบินตกจะเป็นยังไง ผกก.ใจดี หลุยส์แลนดิ้งด้วยเลย แต่ไฟเพิ่งดับไปแล้ว จำไม่ได้ต้องกด ปุ่มไหนๆ สุดท้ายไม่รอด ผมเลยขี้โกงแต่ไม่บอก ผกก.ผมถามอาจารย์เลย ออโต้ไพลอตอยู่ตรงไหนครับ 5-4-3 พอแก้เครื่องบินตก ได้แล้ว กดปุ่มออโต้ไพลอตลัดขั้นตอน ผมก็ลงแลนดิ้งสวยๆ อาจารย์ก็นั่งยิ้ม (หัวเราะ) ไม่ดีตรงโมเมนต์ที่เราจำจะตั้งใจจำมาก มันอยู่ลึกอยู่นานในความทรงจำ บางบทเรายังจำได้ แต่ในชีวิตประจำวันคนพูดอะไรมา เราตกลงอะไรกับเค้าเราไม่ได้ตั้งใจที่จะเมมฯ มันจะหลุดแล้ว ลืม กลายเป็นคนขี้ลืมโดยไม่รู้ตัว แต่ตอนนี้รู้ตัวแล้วครับ”

เวลาเล่นฉากหวานมุ้งมิ้งกับใคร นุ่นมาดูมาส่องมั้ย?

“ไม่ครับ เป็นวิธีการของผมตั้งแต่ไหนแต่ไร พอรู้ตั้งแต่วันแรกหลุยส์เข้ากับคนไหนผมจะไปนั่งข้างๆ ไปนั่งคุย พยายามเข้าใจ ทำความรู้จักเค้าให้เร็วที่สุด เราชินเมื่อไหร่เคมีจะมาเร็วกว่า เราเจอกันน้อยมีวันเดียวแต่ไม่ใช่แลกเบอร์เพื่อคุยกันเป็นยังไง แบบนั้นไม่มี”

โดนนุ่นเช็กเบอร์แปลกๆบ้างมั้ย?

“ไม่เคยครับเพราะโทรศัพท์ผมก็ฝากไว้กับเค้าครับ นุ่นไปกองเค้าไป เป็นเพื่อนผมจริงๆ ตอนนั้น 4 เรื่อง เป็นเพื่อนคุยให้เราไม่ง่วง ให้เราไม่หลับ”

ไม่ใช่ว่าหลุยส์ติดแฟนหนักอย่างที่เป็นข่าว?

“ไม่ๆ ฟีลคนภายนอกเห็นก็คิดแบบนั้น แต่ความจริงไม่ใช่ บางทีเค้าไม่อยากไปก็ไม่ไป ช่วงนั้นผมรับ 4 เรื่อง มีงานทุกวัน เค้าถ่ายเรื่องนึงเวลาว่างมากกว่า ส่วนมากเค้าเลยมาตามผมมากกว่าผมตามเค้า มาเป็นเพื่อนคุยเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ก็มีหลับใส่เหมือนกันนะ”

ช่วงที่ผ่านมาดูเหมือนหลุยส์งานแน่นๆอยู่นะ?

“ครับ หลังใต้ปีกปักษาผมก็บอกว่าขอพักสักครู่เหมือนรีชาร์จแป๊บนึง ถ่ายละคร 3 ปีติด มีดราม่า เราโตขึ้นอินกับบทมากขึ้น ยังแบกภาระของดราม่าอยู่กับตัว ต้องปล่อยออกไปบ้าง แต่ต้องใช้เวลา”

...

มีโปรแกรมเที่ยวที่ไหนหรือเปล่า?

“ยังไม่มี พักคือพัก ถ้าเรามีโปรแกรมคือเราไม่ได้พัก การพักคือปล่อยวาง เข้ายิม ออกกำลังกาย กินอาหารดีๆ กลับมานอน ชีวิตเราก่อนหน้าถูกบังคับมาตลอด ต้องตื่นกี่โมง ตอนนี้เราเลือกได้ไม่ทำอะไร จะกินอะไรต่อเมื่อเราหิว”

ฟังดูเสี้ยวนึงหลุยส์โหยหาอิสระ?

“ใช่ครับ ถึงติดมอเตอร์ไซค์ แต่ตอนนี้เราโตขึ้นไม่อยากขับแล้ว เพื่อนไม่ค่อยมีขับเลยหาวิธีอื่น เข้ายิม”

มอเตอร์ไซค์ขายทิ้งหรือเก็บไว้ครบ?

“ขายไปบ้าง ตอนนี้เหลือ 2 คันเบาๆ”

นุ่นก็โล่งอกหลุยส์ไม่ต้องเป็นสายซิ่ง?

“ใช่ครับเพราะมีเวลาน้อยลง ผมแค่ขับแป๊บเดียวในเมือง ไม่มีข้ามประเทศแล้ว”

...

ตอนนี้ทุกคนลุ้นหลุยส์-นุ่นเรื่องแต่งงาน?

“ผมแค่รู้สึกว่าการแต่งงานเป็นเรื่องส่วนตัวม้ากมาก เป็นอะไรที่ตั้งแต่ผมเป็นนักร้องมาไม่มีอะไรปิดบังเลย มันเหมือนเปิดทุกอย่าง ไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความจำ หรือเมมโมรีที่ดีๆ ออกสื่อหมดเลย ผมมีความรู้สึกอันนี้เป็นความสำคัญของผู้ชายคนนึง มีความหมายสำหรับเค้ามากเป็นเรื่องที่อยู่ ใกล้ใจมากไม่อยากที่จะเปิดเผย การแต่งงานคือความรู้สึกคนสองคนและครอบครัวสองครอบครัวที่เข้าใจกัน มีความรู้สึกดีๆต่อกัน นั่นคือความรู้สึกของเรา ไม่ จำเป็นจะต้องมาอธิบายให้ใครฟัง ถ้าผมบอกแต่งวันนี้ครับจะถามต่อสินสอดเท่าไหร่ คำถามก็จะมาเรื่อยๆ แต่งงานเสร็จปุ๊บเมื่อไหร่มีลูก อ้าวทำไมไม่มี ไม่มีน้ำยาเหรอ เตียงจะหักหรือเปล่า ผมต้องการทำความเข้าใจของทุกคน เหมือนกันเวลาถาม ถามได้แต่วิธีการถามดีๆนะ บางครั้งถามแรงจนเกินเหตุเกินไปก็รู้สึกไม่ดี การเป็นดาราไม่ใช่ว่าคุณจะมาอยู่ใต้เตียงผมเลยนะ บางคนชอบให้อยู่ใต้เตียง ความต้องการของแต่ละคนของผมต่างกัน”

แพลนแต่งงานจริงๆล่ะ?

“อันนี้คุยกับทางนุ่นเหมือนกัน นุ่นบอกเค้าไม่อยากจะแต่งผมเข้าใจการพูดแบบนี้ไม่ให้น้ำหนักอยู่บนไหล่ของผมเยอะเกินไป เหมือนกดดันแฟนตัวเอง เค้าเข้าใจผมโดนกดดันมาเยอะแล้ว หลุยส์ออกไปข้างนอกเจอคำถาม กลับมาบ้านเจอคำถามนี้อีก เค้าเลยจะบอกไม่จำเป็น เปลือง สตางค์ แต่ผมรู้ว่าวิธีการพูด เพื่อให้เราสบายใจ แต่จริงๆ แล้วผมในหน้าที่ผู้ชายต้องให้เกียรติเค้า แต่วิธีการจะทำแบบไหน ผมไปชัยภูมิขอกับคุณพ่อคุณแม่เค้าแต่งงานที่บ้านเค้า หรือแต่งที่โรงแรมหรูๆ ในกรุงเทพฯ ความแตกต่างของ ผมไม่มีคือเท่ากัน เหมือนกัน ถ้าผมจัดต้องรู้จักทุกคนที่อยากจะมา และมีความสุขกัน แค่นั้น ไม่ใช่หน้าที่ ไม่ได้จัดเป็นอีเวนต์”

...

นุ่นเจอแรงกดดันเหมือนที่หลุยส์เจอมั้ย?

“มีครับ เค้าโยนให้ผมหมด เพราะผู้หญิงเองไม่สามารถพูดอะไรเยอะได้ อ่อ อยากแต่งค่ะแต่หลุยส์ยังไม่ขอ อย่างนี้เหรอ? มันก็ไม่ได้ เค้าก็บอกอยู่ที่หลุยส์อย่างเดียว อันนี้ผมก็เข้าใจ ไม่ใช่แต่งเงียบๆไม่บอกใคร ผมก็ต้องเอารูปที่ผมให้เอง ไม่ใช่มารายงานสดอะไรแบบนั้น”.

10 ปี วันแรกที่รู้จักนุ่นจนวันนี้มีความเปลี่ยนแปลง?

“ผ่านปัญหามาเยอะ ผ่านความสุขมาเยอะ ทำให้เราเรียนรู้กันจนถึงทุกวันนี้ คือเป็นบทเรียนชีวิตที่ดีในระดับผู้ใหญ่เพราะว่าเราต้องให้อภัยและยอมรับ เยอะกว่าที่เราเคยมีมาก่อน”

ระหว่าง 10 ปีเคยมีทะเลาะ มีหยุดมีพัก?

“ไม่มีครับพัก 2-3 วัน พักหยุด ผมขับมอเตอร์ไซค์ ไปต่างจังหวัด 2-3 วันได้ความคิด ได้ความใจเย็นลงก็กลับมา คุยด้วยสติ ช่วยได้เยอะ ทะเลาะแรงมีบ้างแต่หยุดทั้งคู่ พูดไปปุ๊บเราพูดได้ยังไงเพราะไม่ใช่ปัญหาที่เราคุยตั้งแต่ต้น มันนอกเรื่องเหมือน จะด่ากันแล้ว ยืนในจุดที่ไม่ดี เราปล่อยวาง เค้าใจเย็นลงค่อยกลับมาคุย”

ช่วงนี้จะมีงานคู่กัน?

“แล้วแต่ โอกาส ถ้าเค้าจ้างครับ (ยิ้ม)”.

ทีมข่าวบันเทิง