กำลังแฮปปี้สุดๆ กับว่าที่เจ้าบ่าวป้ายแดง มิกกี้ นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร ที่ล่าสุดเพิ่งคุกเข่าขอสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ แต่งงาน ส่วนฤกษ์แต่งงานนั้นจะอยู่ในช่วงเดือน ต.ค.นี้ แต่จะเป็นวันไหนนั้น ทั้งคู่ขอบอกอีกทีเมื่อถึงเวลา
โดยล่าสุดหนุ่มมิกกี้ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกเกี่ยวเรื่องนี้ เพราะปกติแล้วเจ้าตัวไม่ค่อยให้สัมภาษณ์หรือพูดอะไรมากนัก แต่งานนี้ขอเคลียร์ทุกเรื่องที่คนสงสัยไปเลย ตั้งแต่เรื่องที่คนมองว่า เพิ่งคบกันไม่นาน แต่จะแต่งงานกันแล้ว หรือแม้กระทั่งเรื่องที่หนุ่มมิกกี้เลิกกับแฟนเก่าแล้วมาคบเจนี่ อีกทั้งยังมีกระแสเม้าท์ว่าสถานที่ที่มิกกี้ได้ขอเจนี่แต่งงานนั้น เป็นที่เดียวกับที่เคยขอแฟนเก่าแต่งมาก่อน
ย้อนกลับไปวันที่ตัดสินใจขอเจนี่แต่งงาน ตัดสินใจนานไหม?
“จริงๆ แพลนไว้ว่าจะทำที่กรุงเทพฯ ก่อน แต่หลายๆ อย่างและหลายๆ คนไม่พร้อม เราก็เลยรู้สึกว่างั้นไปเงียบๆ แล้วกัน ไปที่อเมริกาเลย เพราะเรามีแพลนจะไปเที่ยวกันอยู่แล้ว เลยตัดสินใจขอที่นู่นครับ”
...
บรรยากาศในวันนั้นเป็นยังไงบ้าง?
“บอกตามตรงว่าตอนแรกเราใส่คิวไว้ว่า 31 มิ.ย. เราจะไปทะเล แต่ มิ.ย. มันแค่ 30 วันเนอะ เราก็เพิ่งรู้ทีหลังเพราะเราได้เตรียมกับเพื่อนเขาที่นู่นไว้ไงครับ พอรู้ทีหลังเราก็ต้องรีบบอกคนที่นู่นให้เตรียมใหม่ และพอถึงเช้าวันนั้นเจนี่จะไม่ไป เพราะอยากซักผ้า ก็ทำให้เกือบไม่ได้ไป แต่เราก็พยายามดันว่าไม่เคยไป อยากไป”
ตอนที่คุกเข่าขอเขาแต่งงาน เราได้พูดอะไรบ้าง?
“ตอนที่คุกเข่าพูดตรงๆ ว่าเราก็ตื่นเต้นเนอะ ตื่นเต้น 2 อย่าง คือ 1.เราจะขอเขา เราก็ตื่นเต้น 2.เขาก็จะไม่เป็นใจให้เรา เพราะเขาก็อยากจะรีบกลับ วันนั้นยอมรับว่าผมเล่นแต่มือถือคอยเตี๊ยมกับเพื่อนเขา เจนเขาอาจจะรู้สึกว่าทำไมมาเที่ยวกับเขาแต่เล่นมือถือเยอะ
เขาเลยอยากรีบกลับ อารมณ์ไม่ค่อยดีแล้ว เราก็พยายามรั้งๆ เขาไว้ เขาก็จะรีบเดินไปอย่างเดียว เพื่อนเขาก็ส่งสัญญาณมาแล้ว เราเลยคุกเข่าเลยละกัน ไม่รู้จะพูดอะไร”
วินาทีนั้นกลัวเขาปฏิเสธไหม หรือมั่นใจว่าเขาตอบตกลงแน่นอน?
“ผมไม่ได้เตรียมใจไว้ถ้าเขาจะปฏิเสธนะครับ แต่ถ้าคุกสองเข่าแล้วไม่น่าปฏิเสธหรอกครับ กลัวแค่ว่าเขาจะกลับก่อนแค่นั้นเองครับ”
ได้พูดอะไรกับเจนี่บ้าง?
“ผมบอกว่า เบ๋บี๋ แต่งงานกับไอนะ พูดสั้นๆ ครับ(ยิ้ม) เขาก็น้ำตาไหล ผมก็น้ำตาไหล จากนั้นก็กอดเขา และก็สวมแหวน มีเพลงคลอๆ อยู่ข้างหลังที่ผมเตรียมไว้ ตอนนั้นตื่นเต้นจนหูดับ เรารู้อยู่ในหัวเราอย่างเดียวว่า ไอจะขอยูแต่งงานเท่านั้น”
หลายคนมองว่าช่วงเวลาที่รู้จักกันอาจจะสั้นไป ทำไมเราถึงตัดสินใจขอแต่งงานเลย?
“เป็นคำถามที่หลายคนถาม แต่สำหรับผม ผมเป็นคนที่รู้ว่าต้องการอะไรตั้งแต่สมัยเรียนแล้วครับ ผมรู้ว่าภายในช่วงเวลานี้ผมอยากได้อะไร ผมอยากมีอะไร หรือเราจะทำอะไร เราแพลน และเราเป็นคนที่รู้ว่าเราต้องการอะไร อย่างคุณพ่อคุณแม่ผมท่านก็คบกัน 3 เดือน แต่งงานกันและอยู่กันมา 25-30 ปี ซึ่งผมรู้สึกว่าเวลาที่คบกันไม่ใช่ปัญหาครับ”
อะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่า เจนี่ คือผู้หญิงที่อยากใช้ชีวิตคู่ด้วย?
...
“ผมเชื่อว่าหลายๆ คนเวลาได้เกิดมา คุณแม่จะเป็นรักแรกที่รู้สึกว่าอบอุ่นและทะนุถนอมเรา เวลาผมอยู่กับเจนี่ สิ่งที่เขาให้ผม หรือความรักที่เขามีให้ผม เป็นสิ่งที่อ่อนน้อม ทะนุถนอม และเขาดูแลผมดีมากครับ
ผมไม่เคยคุยกันเรื่องอดีตที่ผ่านมาของเขาเลยครับ เพราะเราอยู่กับปัจจุบันและมองแต่อนาคต เรื่องอดีตเอามาคุยก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรครับ เลยไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย”
เจนี่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้วแต่ชีวิตคู่ไม่ประสบความสำเร็จ ตอนที่เราขอเขา เรากังวลมั้ยว่าเขาจะปฏิเสธเรา เพราะอดีตที่ผ่านมาอาจจะทำให้เขากลัว?
“สำหรับผม เจนี่เหมือนผมตรงที่ว่าใครเป็นยังไง แล้วเขารู้ว่าตัวเขาต้องการอะไรครับ ถ้าเขามั่นใจที่ตอบตกลงกับผม ผมก็เชื่อใจเขาว่า เขามองเห็นได้ว่าเราทั้งคู่ไปด้วยกันได้”
ทางครอบครัวเราว่ายังไงบ้าง เห็นว่าเข้ากับคุณแม่ได้ดีมาก?
“ทั้งคุณพ่อคุณแม่ก็รักและเอ็นดูเจนี่เหมือนลูกแท้ๆ บางทียังมีโมเมนต์รักมากกว่าผมอีก ผมรู้สึกว่าตรงนี้เราก็ดีใจนะครับ ที่เขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา และเข้ากับที่บ้านได้ทุกคน”
...
แพลนงานแต่งไว้ยังไงบ้าง?
“ตอนนี้เราก็ทำทุกอย่างเองครับ อย่างที่เจนี่พูดไปเราไม่มีเวดดิ้งแพลนเนอร์ เพราะเขาเป็นคนที่ละเอียดและเลือกทุกอย่างด้วยตัวเอง ทุกอย่างในงานมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นการ์ด เป็นการตกแต่งดอกไม้ทุกอย่าง ก็เหนื่อยนิดหนึ่งแต่รู้สึกว่าคุ้มค่าครับ”
วันแต่งที่แน่นอนพอบอกได้หรือยัง?
“เรามีดูไว้แล้วครับ แต่อยากให้ใกล้กว่านี้ดีกว่า เดี๋ยวเราจะเชิญพี่ทุกคนแน่นอนครับ เป็นช่วง ต.ค. จริงครับ ส่วนสถานที่แต่งก็จัด 2 ที่ครับ ที่แรกคือกรุงเทพฯ ส่วนอีกที่จะจัดที่ต่างจังหวัด
ตอนนี้กำลังดูโรงแรมอยู่ว่าที่ไหนสะดวกที่สุด ที่จัดก็จะมีจะจัดงานเกี่ยวกับครอบครัวและญาติผู้ใหญ่ จากนั้นก็จะจัดเกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนเราเองที่สนิทๆ เรียกว่ากลุ่มงานเลี้ยงเด็กๆ ครับ”
อีกไม่กี่เดือนแล้ว ตื่นเต้นมั้ย?
“จริงๆ ผมว่าคนรอบข้างตื่นเต้นมากกว่าตัวผมกับตัวเจนี่เอง เลยทำให้ผมรู้สึกว่าตื่นเต้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”
...
พอเราได้คบกับเจนี่ อีกไม่กี่เดือนก็จะได้แต่งแล้ว อาจจะถูกจับตามองเยอะขึ้น ชีวิตเราเปลี่ยนไปยังไงบ้าง?
“ผมก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม เสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่วันแรก ไม่ได้มองว่าเราเป็นแฟนเจนี่ เราต้องมีหน้ามีตามากขึ้น ไม่เคยมองแบบนั้น เราก็ใช้ชีวิตของปกติ แต่แค่ทำอะไรเราต้องนึกมากขึ้นว่าตอนนี้เรามีเจนี่เข้ามาอยู่ในชีวิตเรา จะทำอะไรก็ต้องรักษาหน้าตาและภาพพจน์เขา”
ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ รู้สึกอึดอัดไหมที่ถูกจับตา?
“ไม่อึดอัด แต่หลายคนใจร้อนอยากให้เราตอบทันที ซึ่งเจนี่บอกตั้งแรกเลยว่า ถ้ามีอะไรคืบหน้าหรืออัพเดต ทุกคนก็จะรู้เอง และเขาจะออกมาพูดเอง เราก็ใช้ชีวิตปกติ”
ได้ให้คำสัญญาอะไรกับเจนี่มั้ยเพราะที่ผ่านมาความรักเขาไม่ค่อยประสบความสำเร็จ?
“ผมว่าแค่คำพูดใครก็พูดได้ เราทำตัวให้เขาเห็นดีกว่า ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เขาจะได้เห็นว่าเราเสมอต้นเสมอปลาย อนาคตจะเป็นยังไงเขาก็ทราบดี”
เรื่องลูกแพลนไว้อย่างไรบ้าง อยากมีเลยมั้ย?
“ก็โดยส่วนตัวแล้ว ผมเป็นคนชัดเจนกับตัวเองมาตลอดว่าต้องการอะไร ทั้งเรื่องเรียน เรื่องครอบครัว แม้กระทั่งเรื่องบวช และผมอยากมีครอบครัวก่อนอายุ 30 ปี ซึ่งก็อีกไม่กี่ปี
เราก็กำลังคุยๆ กันอยู่ครับ ถามว่าแต่งแล้วจะมีลูกเลยไหม เราก็หวังว่าแบบนั้น แต่ต้องดูคิวละคร แล้วก็งานอื่นๆ ของทั้งตัวผมเองและเจนี่ด้วย กลัวเดี๋ยวไม่มีคนดูแลลูก(ยิ้ม)”
มีคนมาคอมเมนต์ค่อนข้างเยอะว่า เราขอเจนี่แต่งงานที่เดียวกับที่เคยขอแฟนเก่าแต่งงาน?
“จริงเหรอ ผมไม่เคยขอแฟนเก่าแต่งงานนะ แล้วแฟนเก่าก็ไม่ได้เข้ามาใกล้ชิดกับที่บ้านผม ซึ่งตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าข่าวมาจากไหน สำหรับการที่คนขุดข่าวเก่ามาโจมตีผม ผมก็ไม่สามารถห้ามเขาได้
แต่อยากให้เขาให้เกียรติกับคนที่เขาเขียนถึง อยากให้เขาให้ความเคารพ เพราะเวลาเราทำงานในวงการ เราจะได้ทำงานด้วยกันง่ายๆ ไม่ต้องมีเรื่องที่ไม่เกิดสาระขึ้นมาครับ”
หลายคนมองว่าช่วงเวลาที่เราคบกับเจนี่ อาจจะคาบเกี่ยวกับแฟนเก่าเรา คิดว่าเป็นมือที่สามหรือเปล่า?
“ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ผมกล้าพูดได้ว่าผมหยุดกับแฟนคนเก่าก่อนจะมาเริ่มใหม่ เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ผมสอนมาให้เป็นลูกผู้ชาย ให้เกียรติ ให้ยกย่อง ให้ความเคารพผู้หญิงทุกคน แม้กระทั่งเพื่อนด้วยกันเองครับ”
ถามถึงการที่เราเอาตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลมาใช้ในการ์ดแต่ง?
“จริงๆ เรามีตราประจำตระกูลมานานแล้ว แต่พอมีเรื่องแต่งงานเข้ามา ทำให้ผมเพิ่งได้รู้ประวัติอะไรหลายๆ อย่างของครอบครัวเหมือนกัน แม้กระทั่งตราประจำตระกูลก็เพิ่งเห็นเมื่อปีที่แล้ว เพราะตอนที่คุณตาเสีย เราก็เพิ่งได้เห็นตราประจำตระกูลครับ ผมก็อยากให้เจนี่รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกับเราครับ”
ก็รอติดตามงานแต่งเนอะ?
“ครับผม ก็อยากให้รอติดตาม แล้วก็ยังไงอย่างที่บอกไป ว่าจะวันไหนผมก็เชิญพี่ๆ สื่อแน่นอนครับ(ยิ้ม)”.