“หนุ่มไร่อ้อย” สุภาพบุรุษรากหญ้าสามัญชนคนตรากตรำคนเดิม ผู้เคยคว้าชัยชนะไปครอบครองมาแล้วทั้งศึกวันดวลเพลง และศึกวันดวลเพลงเสาร์ 5 เมื่อมกราคมที่ผ่านมา
หวนคืนกลับมาชิงชัยในเวทีเดิม แต่เพิ่มรูปแบบ กติกา และเงื่อนไขต่างไปจากเดิมเพิ่มปรับรสชาติไปอีกแนวทางหนึ่ง
กลายเป็น “สงครามเทพบุตร” ที่ร้องสู้เชือดเฉือนกันระหว่างแชมป์เก่าจอมเก๋ากับเลือดใหม่จอมเก่ง
“ตรี ชัยณรงค์” กับ 2 เพลงสุดท้าย “ระเบิดเวลา–พร้อมจะไปกับอ้ายบ่” ขณะที่ “เบียร์ พร้อมพงษ์” กับเพลง “กับคนนั้นถึงขั้นไหน–คนน่าฮักอกหักบ่คือ”
ทั้งคู่มีพลังและศักยภาพในการร้องที่ควรคู่และควรค่าแก่การคว้าชัยชนะมาครอบครองเสมอพร้องต้องกันในทุกอิริยาบถความฉกาจเก่ง
แต่ตรีมาพลาดในชั่วกะพริบลมหายใจ “ร้องแฉลบ” ลึกเป็นแผลฉกรรจ์ (ตามคำตัดสินของครูสลา) ทำเอาสูญเสียคะแนนในเพลงหลังไปอย่างน่าเจ็บปวด ไม่มีอะไรมาเยียวยาแก้ไขได้
แต่หลังการประกาศผล ตรียืนยันอย่างลูกผู้ชายด้วยใบหน้าและแววตาอิ่มเอิบ
“ผมไม่มีอะไรต้องเสียใจครับ เหมือนการได้กลับมาส่งการบ้านให้คุณครูทั้งสามท่าน เวทีศึกวันดวลเพลงได้มอบชีวิตใหม่ให้กับผมในทุกอย่าง จนผมได้มาและได้มีวันนี้ และชัยชนะในวันนี้ ก็ควรจะเป็นของน้องชายคนนี้ของผมอย่างแท้จริงครับ”
“เบียร์ พร้อมพงษ์” กับชัยชนะในชั่วกะพริบลมหายใจ ก็หลั่งน้ำตาด้วยความเข้มแข็งปลาบปลื้มอย่างลูกผู้ชายเช่นกัน
“ผมเคยตัดอ้อยเป็นมัดๆ ยากลำบากกว่าจะได้เงินมาสัก 60 บาท ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะได้มายืนอยู่ตรงนี้ และมามีวันนี้ได้ครับ”
เขาก้มลงกราบพื้นเวที กราบลงตรงหน้ากรรมการทั้ง 3 ท่าน ผู้หยิบยื่นและมอบชีวิตใหม่ จาก 60 บาทมัดอ้อย เป็น 1,000,000 บาทมัดเทพบุตร พลิกชะตากรรม และเปลี่ยนผันโชคชะตาหนุ่มไร่อ้อยคนนี้ไปโดยสิ้นเชิง
...
ติดตามศึกวันดวลเพลงกันในเวอร์ชันต่อไป “ศึกวันดวลเพลง เพื่อมาตุภูมิ” ครับ.
“ดร.ศาสตร์ธนิก จุลมณี”
‘‘แจ๋วริมจอ’’
jaewrimjor@gmail.com