เอ๋ นรินทร ณ บางช้าง นักร้องชื่อดัง ที่ได้ยื่นมือพาทีมดำน้ำเข้าไปเป็นหนึ่งในทีมงานช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ช ทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ให้สัมภาษณ์โฟนอินผ่านรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31

หลังรู้ข่าวดีที่คนไทยทั้งประเทศรอคอยว่า ได้เจอน้องๆ ทีมหมูป่าทั้ง 13 คนแล้วอย่างปลอดภัย ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทำให้ร่างกายของน้องๆ แข็งแรง และเจ้าหน้าที่ หน่วยซีลกำลังจะหาทางเอาน้องๆ ออกมาจากถ้ำ โดย เอ๋ นรินทร ก็ได้เล่าถึงบรรยากาศในการทำงานว่า 

“ยังหยุดไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว แม้ว่าเราจะเจอน้องๆ แล้ว ก็ยังไม่ได้เอาออกมา ทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไปด้วยความรวดเร็ว เพราะยังไงซะเราก็ไว้ใจธรรมชาติไม่ได้ เพราะเรื่องฝน

ตอนนี้ห่วงเรื่องน้ำจะขึ้น คือน้องๆ เค้าเป็นวัยรุ่น ยังแข็งแรงและมีพละกำลัง ตอนนี้ก็จะต้องรีบฟื้นฟูให้น้องๆ แข็งแรงเร็วที่สุด และในขณะเดียวกัน เราต้องรีบสูบน้ำออกอย่างต่อเนื่อง เพราะเนื่องจากว่าเท่าที่คุยกับคนในพื้น น้ำอาจจะเต็มถ้ำในเร็ววันนี้อีก”

แผนการที่จะเอาเด็กออกมา ได้กำหนดไว้อย่างไรบ้าง?

“อย่างที่ท่านผู้ว่าฯ บอกเลยค่ะ คือทางแรกก็คือทางน้ำ ก็คือให้เราสูบน้ำออกมาเยอะที่สุด ก็อาจจะมีบางช่วงให้เด็กเดินออกมาได้อย่างสบายๆ ช่วงที่บอกในตอนแรกว่าน้ำมันท่วมหนัก แล้วเป็นคอคอดมันเล็กๆ ต้องเอาถังอากาศยัดไปถึงจะออกมาได้นั้นตอนนี้ไม่มีแล้ว

เพราะน้ำมันลงมาเยอะแล้ว แต่ก็ยังมีบางช่วงที่จะต้องผ่านน้ำอยู่ดี เพราะฉะนั้นต้องรอให้น้องร่างกายแข็งแรง แล้วก็คงให้หัดใช้หายใจทางเรกกูเรเตอร์ หรือทูเฟสแมสก็หายใจอย่างปกติอย่างเราเลย”

...

แล้วน้องอายุแค่นั้น เค้าจะมีความสามารถในการดำน้ำออกมามั้ย?

“จากทีมผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ต่อให้เราว่ายน้ำไม่เป็น แต่เราก็สามารถดำน้ำได้ ถ้าเราดำน้ำอย่างถูกต้อง ซึ่งเรียนเรื่องการหายใจโดยใช้เรกกูเรเตอร์ 2-3 ชม. ก็เป็นแล้วค่ะ”

มีบางสื่อบอกว่า การที่ดำน้ำออกมาก็มีอันตรายและเสี่ยงมากๆ?

“ใช่ค่ะ อันตรายและลำบากพอสมควร แต่ถามว่ามากมั้ย ก็ไม่มากเท่าตอนแรกค่ะ อย่างที่ท่านผู้ว่าฯได้บอกไว้ว่า น้อง 1 คน อาจจะมีทีมซีล 2 คนที่ประกบ อาจจะไม่ได้ดูอันตรายมากเท่าตอนแรก”

ถ้าไม่ใช่ออกมาทางน้ำ จะมาทางไหนได้บ้าง?

“อาจจะเป็นเจาะถ้ำมั้งคะ ซึ่งทางนี้ก็เป็นทางที่ยากมากเหมือนกัน ทางน้ำดีที่สุดแล้วค่ะ ถ้าเราสูบน้ำออกมาได้เร็วเราก็จะเดินออกมาได้อย่างสบายๆ ค่ะ”

ได้มีโอกาสคุยกับหน่วยซีลมั้ย ว่าเด็กๆ พูดอะไรบ้าง?

“หลังๆ พี่ไม่ได้เข้าไปเลยค่ะ พี่ได้คุยกับหัวหน้าหน่วยซีลตั้งแต่วันสองวันแรกที่เข้าไปค่ะ น้องชายคือคุณเป้ เป็นคนที่เข้าไปวางแผนและคุยกับซีลทุกวันตอน 6 โมงเช้าและทำงานร่วมซีลทุกวัน ซึ่งพี่เอ๋จะเป็นฝ่ายประสานงานค่ะ”

แล้วตอนนี้เด็กๆ ได้รับอาหารปกติรึยัง?

“ไม่ทราบค่ะ แต่ถ้าปกติคงเป็นไปไม่ได้ค่ะ เพราะการที่เด็กๆ ขาดอาหารมานานๆ แค่กินน้ำเข้าไปเร็วเกินไป ยังสามารถช็อกได้เลยค่ะ น่าจะเป็นพวกคอลลาเจลไปก่อน ไม่น่าจะเป็นอาหารปกติได้”

สำหรับพี่เอ๋เอง อยู่ที่นั่นตลอด พี่คิดว่าเมื่อไหร่น้องๆ จะออกมาได้?

“อย่าถามว่าเมื่อไหร่ เพราะไม่มีใครตอบได้ แต่ถ้าถามความหวังและในใจของพี่ พี่อยากให้ไม่เกิน 3 วัน เพราะว่าถ้าเร็วกว่านั้นในความรู้สึกพี่จะไปเร่งน้องเกินไป

เพราะไม่รู้ว่าร่างกายน้องแข็งแรงพอรึยัง แต่พี่ก็ไม่อยากให้เกิน 3 วัน เชื่อว่า พ่อแม่ญาติพี่น้องของน้องก็อยากเห็นหน้าน้องจริงๆ ตัวเป็นๆ ได้คุยกับน้อง”

บรรยากาศเมื่อคืนหลังทราบว่าเจอน้องแล้ว ได้อยู่ตรงนั้นมั้ย เป็นยังไงบ้าง?

“เมื่อคืนพอดีนักดำน้ำพี่กลับมาที่พักพอดีค่ะ และกำลังนั่งทานข้าว นั่งคุยกัน พี่ก็รู้ก่อนออกอากาศ 1 นาทีเองค่ะ เฮกันลั่นเลยค่ะ พอเฮเสร็จทีมพี่ก็กลับเข้าไปในถ้ำทันทีเลยค่ะ เพื่อดูว่าทางหน่วยซีลเอง ต้องการการช่วยเหลืออีกมั้ย หรือมีอะไรที่จะช่วยได้”

ทีมงานเหนื่อยมากมั้ย?

“เหนื่อยไม่ใช่แค่ทีมพี่นะคะ เหนื่อยมากทุกทีมค่ะ ทุกคนนอนกันวันละชั่วโมงสองชั่วโมง ยันทีมแม่บ้านเก็บกวาดล้างขยะ ห้องน้ำ ทุกทีมค่ะ”

แผนของทีมงานต่อจากนี้ พี่เอ๋พอจะสโคปได้มั้ยว่าจะทำอะไรต่อไป?

“ไม่ได้ค่ะ สำหรับทีมพี่ ตอนนี้เจอน้องแล้ว ตัวทีมเราที่ไปสนับสนุนทีมก็น่าจะครบแล้ว ส่วนพี่น่าจะกลับภายในวันพรุ่งนี้ แล้วจะทิ้งนักดำน้ำถ้ำไว้ให้ซีล 6 คนพร้อมกับอุปกรณ์ที่เอามาทั้งหมด

ก็ยังเอาไว้อยู่ ถึงแม้จะเสร็จภารกิจแล้ว ก็ต้องเอาของขึ้นมาคัดแยกอีก ว่าอันไหนเป็นของใคร อันไหนที่เราสนับสนุนซีล อันไหนที่เราจะเอาไปคืนคนที่เรายืมมา”.

...