Hereditary คือหนังกระแสแรงจากเทศกาลหนัง Sundance ปีนี้ เอาเข้าจริงพวกหนังกระแสแรงจากเมืองนอก หลายครั้งก็ไม่ได้ถูกรสนิยมการดูหนังแบบไทยๆ เท่าไร ซึ่งจะว่าไปหนังระทึกขวัญประเภทบ้านประสาทหลอน (เอาตามที่เห็นในตัวอย่าง) มันมีออกมาเยอะแล้ว ความคาดหวังต่อ Hereditary ก็คงขอให้ไม่แย่ไปกว่าเรื่องที่ผ่านๆ ก็พอ

...แต่กลับผิดพลาด เมื่อตัวหนังเองมีชั้นเชิง และมีวิธีในการนำเสนอที่ฉีกกรอบจากขนบเดิมๆ จนคาดเดาเรื่องไม่ถูก ยิ่งไปกว่านั้นความดำมืดของเรื่องเมื่อถูกเผยออกมา มันก็เป็นอะไรที่ช็อกความรู้สึกของคนดูได้หนักหน่วงพอสมควร


Hereditary หรือในชื่อไทยว่า กรรมพันธุ์นรก เล่าเรื่องราวของครอบครัวเกรแฮม ที่เพิ่งสูญเสียคุณยาย ที่จากไปพร้อมปริศนาอันแปลกประหลาด ครอบครัวที่เหลืออยู่พ่อ แม่ ลูกชาย และลูกสาว ผ่านช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าอย่างอยากลำบาก ซึ่งหนังก็ไม่ปกปิดถึงความผิดปกติของครอบครัวนี้จากอุปนิสัยแปลกๆ ของแต่ละคน

ในขณะเดียวกันครอบครัวนี้ยังต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากมาย ไปจนถึงเรื่องราวในอดีตอันเลวร้ายที่ยังคงตามหลอกหลอน ทำให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวที่ต้องร่วมมือผ่านช่วงเวลาของการสูญเสีย กลับต้องย่ำแย่มากขึ้นเรื่อยๆ จนสภาวะจิตใจของคนในครอบครัวไม่ต่างจากคนวิกลจริต! เรื่องราวทั้งหมดค่อยๆ เคี่ยวกรำคนดูและนำไปสู่บทสรุปที่ชวนอึ้ง! จนอยากจะอุทานว่า WTF !!

...

ความบ้าบิ่นของหนัง Hereditary คือการเผยรายละเอียดสำคัญของเรื่องไว้ให้เห็นกันชัดๆ ซึ่งผิดธรรมชาติของหนังแนวนี้ ที่ไม่ค่อยเผยอะไรให้รู้มากนัก จนกว่าจะถึงท้ายเรื่อง แต่ก็ทำทีว่ามันไม่ใช่สาระสำคัญนะ ผ่านๆ ไป ยังไม่ต้องไปสนใจ และหนังก็พาเราไปเล่าเรื่องราวอื่นๆ จนคนดูอาจหลงลืมรายละเอียดที่เคยนำเสนอนั้นไป ก่อนที่ในตอนท้ายจะกลับมาเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยมีรายละเอียดดังกล่าว (ที่เคยเห็นไปแล้วนั่นแหละ) เป็นแกนกลาง และเมื่อประกอบเข้าด้วยกันทั้งหมด มันก็กลายเป็นเรื่องราวที่ชวนขนลุก หลอน หดหู่ ติดความรู้สึกออกมาจากโรงหนัง

ตอนต้นเรื่อง เปรียบได้กับการ “เพาะความกลัว” ใส่คนดู ก่อนจะใช้จุดนั้นมาขยี้จนหลอนไปหมดในช่วงกลางและท้ายเรื่องผู้กำกับ อารี่ แอสเตอร์ เก่งกาจมากๆ ในการสร้างบรรยากาศชวนหลอน ตัวหนังมีส่วนผสมของหนังระทึกขวัญคลาสสิกมากมาย เช่น Psycho, The Omen หรือ The Shining แต่หนังก็สร้างจุดเด่น จนออกมาโดดเด่นมีเอกลักษณ์ของตนเอง

เรื่องราวในหนังทำให้เราคาดเดาไม่ถูกเลยว่า พฤติกรรมประหลาดของตัวละครในเรื่อง เกิดจากภาวะกดดันจากการสูญเสียและปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้า จนเกิดเป็นอาการทางจิต หรือว่าเกิดจากปิศาจเข้าสิงกันแน่ ที่น่าชื่นชมมากคือหนังสร้างเหตุการณ์ที่ชวนอึดอัด กดดัน ที่ทำเราอินเข้าไปกับเรื่อง และรู้สึกไม่ต่างจากที่ตัวละครในเรื่องเผชิญ หนังยังมอบนิยามของคำว่า “บ้าน” และ “ครอบครัว” ในแบบที่แตกต่างออกไป องค์ประกอบสำคัญอย่างอาชีพของแม่ ที่เป็นศิลปินในการสร้างแบบจำลองขนาดเล็ก มันคือการล้อเล่นของหนังอย่างเจ็บแสบที่สุด ที่แสดงให้เห็นว่า “สถาบันครอบครัว” นั้นบอบบางและง่ายต่อการล่มสลายแค่ไหน

...

เหนืออื่นใด! ความยอดเยี่ยมอีกอย่างใน Hereditary คือทีมนักแสดงที่สุดยอดมาก ที่ช่วยกันผลักดันความน่าสะพรึงกลัวของเรื่องราวให้มากขึ้น โดยเฉพาะในรายของ “โทนี่ คอลเล็ตต์” ในบทแม่ ที่มอบการแสดงที่ลึกแต่รุนแรง เต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่ง เป็นประสบการณ์ในการดูความยอดเยี่ยมทางการแสดงที่ชวนหลอนและติดตามากๆ

สุดท้ายนี้ Hereditary เป็นหนังกระแสแรงจากเมืองนอก ที่ครั้งนี้เป็น “ของจริง” ไม่ได้เกิดจากแรงโปรโมต ใครที่ชอบหนังประเภทนี้ แต่เริ่มเบื่อกับแนวทางของ The Conjuring, Insidious เรื่องนี้คือความแปลกใหม่ ที่ไม่ควรพลาดจริงๆ

...

--- ชาแมน ---