มานั่งเล่าเปิดใจเรื่องความรักที่ผ่านมาของตนเองเป็นครั้งแรก สำหรับคุณแม่ลูกแฝด นานา ไรบีนา ในรายการ คลับฟรายเดย์โบว์ Club Friday SHOW ทางช่อง GMM 25 ซึ่งนานาได้เผยตัวตนเรื่องความรักของตัวเองให้ฟังว่า
รูปร่างหน้าตาดีขนาดนี้? “คือเป็นเด็กบ้านนอก ตอนนั้นยังใส่ฟันเหล็ก ยังไม่สวย ไม่ป๊อบ ถ้าไปกับเพื่อนหลายคนเราไม่ใช่ทาร์เก็ตของคนที่จะมองค่ะ บ้านอยู่หาดใหญ่ค่ะ ย้ายมาอยู่กรุงเทพตอนมหาลัย พอเข้ามาอยู่ก็แข่งรถ เราเป็นคนไทยค่ะ แม่เป็นมุสลิม เราไม่ได้เป็นลูกครึ่งค่ะ”
มีแฟนคบนานด้วย? “ใช่ค่ะ คือเราก็กลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวว่าเค้าจะมาหลอก พ่อแม่ก็จะพูดใส่หัวตลอด เราก็จะพยายามให้เวิร์ค ให้มันดีที่สุด เราพยายามอดทนทุกอย่าง ตอนเด็กเราก็คิดว่าทุกคนต้องจบด้วยการแต่งงานตลอด”
ความรักครั้งแรก? “ประมาณอายุเกือบ 20 ค่ะเค้าอายุโตกว่าเรา แล้วเหมือนผ่านอะไรมาเยอะกว่าเรา พ่อแม่นานาแยกกัน เค้าก็เหมือนเป็นพี่ชาย คนที่อบอุ่น เค้าทำงานแล้ว เรายังเรียนอยู่ โตกว่าเรา 7-8 ปี เราก็รักคนนี้มาก ไม่มองใครแล้ว คิดว่าต้องแต่งงาน แต่ด้วยหน้าที่การงานของเค้า เค้าจะหาคนที่ส่งเสริมได้มากกว่าเรา
...
ครอบครัวอาจจะไม่สนับสนุน เราก็พยายามทำให้เวิร์ค แต่ครอบครัวเค้าคงไม่โอเค ก็เลยจบกัน ผ่านไป ซึ่งมันเสียใจที่สุดในชีวิต เหมือนเราถล่มทลาย เค้าเป็นพี่เรา ก็เหมือนว่าเราต้องตามเค้าตลอด ต้องอยู่ใต้เค้า
ตัดสังคมออกหมดเลย เค้าก็ขี้หึง ตอนที่เลือกที่จะจบกัน เค้าเป็นคนเลือกที่จะจบค่ะ มาวันนี้เราดีใจที่มีวันนั้น ไม่งั้นวันนี้เราอาจจะทุกข์มากก็ได้ค่ะ”
ถือว่าเป็นการอกหักที่พังสุดในชีวิตมั้ย? “ตอนนั้นคิดว่าที่สุดแล้ว แต่มาตอนนี้มันมีอะไรให้ทำอีกเยอะ คือตอนนั้นหลุดมาก แปรงฟันอาบน้ำยังน้ำตาไหล จนสุดท้ายเค้ามาง้อ เราก็กลับไปเหมือนเดิม แต่สุดท้ายแล้วมันเหมือนเดิม”
ไปจากกันจริงๆได้จากอะไร? “ส่วนหนึ่งเรามีคนใหม่ มีคนเข้ามามากขึ้น ซึ่งอันนี้มันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราเริ่มมองคนอื่นมากขึ้น”
"ไปคบกับเด็กกว่า 3 ปี เค้าเป็นคนในวงการค่ะ ตอนนั้นเรา 24-25 ปีค่ะ ตอนนี้เจอกันก็เป็นมิตรภาพที่ดีค่ะ ตอนนั้นที่เลิกกันมันไม่ดีหรอก ซึ่งตอนที่เราคบกันมันดีมากค่ะ เค้าเอาใจ รักเรา ตามเราตลอด พอวันหนึ่งมันเริ่มจะไปกันแบบลึกขึ้นเรื่อยๆ
บังเอิญเราอาจจะโตมาไม่เหมือนกัน นานาโตมาในครอบครัวที่ดูแลครอบครัว แต่เค้าโชคดีกว่านานานิดหนึ่ง คือเพิ่งมาเริ่มทำงาน เพิ่งมาเร่ิมทำอะไร แล้วเหมือนเราอยากมีคนต่อยอด ไม่ได้มองแค่ว่าจะป๊อบปี้เลิฟไปแค่นี้ ไม่ได้คิดอยากมีสามีร่ำรวย อยากได้แค่คนที่มาช่วยทำงาน เราคบกันประมาณ 5-6 เดือนก็เลิกกันค่ะ”
ได้ให้โอกาสในการปรับตัวมั้ย? “นานามองว่าเรื่องนี้มันเป็นแค่ประสบการณ์ เค้าอาจจะยังเด็ก เราก็เลยตัดสินใจบอกเค้า ว่าเราจะไม่รอ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทั้งเค้าและเรา เราตัดสินใจบอกเลิกเค้า รู้เลยว่าเค้าต้องแย่ ถ้าเรารักตัวเราเอง เราก็ต้องรักเค้าด้วย”
“พอหลังจากเลิกกันไป เราก็มีคนคุยเยอะแยะเลย มีเพื่อนแนะนำบ้าง ตอนแรกก็รู้สึกผิด แต่เพื่อนบอกว่า ไม่ผิดหรอก คุยๆ ไปเลย ยอมรับว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตตอนอายุ 27 ที่เราคุยกันไปทุกคน แต่ไม่ได้คบใครจริงจัง”
เจอกับเวย์? “คือเราทำงานในคลื่นวิทยุ แล้วนานากับเวย์ก็เจอกันเรื่อยๆ มาสัมภาษณ์เค้า เราปลื้มเค้ามาก แล้วก็ร้องเพลงเค้าได้ทุกเพลง ไปอ่านประวัติเค้า เลยรู้หมดเลย วันหนึ่งเข้าปีที่สอง นานาอยู่หลังเวทีกับดีเจอีกคน แล้วทุกคนเค้าจะรู้ว่านานากรี๊ดเวย์มาก เราก็บอกพี่อีกคนว่า เมื่อกี้หนูเจอเวย์ หล่อมาก ตัวหอมมาก
ซึ่งพี่ดีเจอีกคนก็ไม่กล้าพูด เพราะว่าเวย์ยืนอยู่ข้างหลัง ก็ไม่กล้าบอกเรา แล้วเวย์ก็เดินมาสะกิดข้างหลัง หน้าเราก็เจื่อนลง เสียเซลฟ์มาก แล้วเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก เพราะเค้าก็มีแฟนค่ะ”
“พอปีที่สามที่เจอกัน หน้านานาก็ไม่ยิ้ม ไม่ได้เหมือมเดินกับใจตอนแรก เพราะเรามีความเครียดกับสถานการณ์ที่เราเจออยู่ หลังจากนั้นเค้าเสร็จงานก็ไปให้ผู้จัดการหาเบอร์นานามา จากนั้นก็ได้คุยกัน แล้วเค้าก็ส่งข้อความมาเลยค่ะ ซึ่งเบอร์นั้นเป็นเบอร์ติดต่องานเรา ให้พี่สาวถือไว้ พอพี่สาวเห็นเค้าก็ตื่นเต้นมาก
เราก็ช็อค คิดอยู่สักประมาณ 2 อาทิตย์ ตอนนั้นเป็นช่วงที่เราปิดตัวเองแล้ว แล้วเค้าก็ส่งข้อความมาอีกอัน บอกว่า เผื่อเราจะเจอกันในงานต่อไป ผมไม่รู้ว่าข้อความผมไปทำให้คุณกลัวรึเปล่า ขอโทษแล้วกันนะ ถ้าไม่งั้นก็ไม่เป็นไร คุณก็ลืมมันไปแล้วกันที่ผมส่งไปให้ เราก็รู้สึก เออเค้ายังรู้สึกว่าเราเป็นอะไรรึเปล่า เราไม่ตอบ ก็เลยเผื่อไปเจอกันที่คลื่นอีก ก็ทักเค้าไปหน่อยแล้วกัน ก็เลยส่งข้อความไปว่า เบอร์ที่คุณส่งไปนั้นไม่ใช่เบอร์เรา
...
แล้วเค้าก็โทรมา เสียงนุ่มมาก ตอนนั้นเค้าพูดช้าเพราะภาษาไทยยังไม่เก่ง และเราก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษ แต่ก็คุยกันตั้งแต่ 1ทุ่ม-ตี2 ถามประวัติของกันและกัน ก็คุยกันยาว 6 ชม. แต่จบลงด้วยไม่ได้นัดเจอกันนะคะ แรกๆ ก็กรี๊ดที่เค้าโทรมา แต่หลังๆ ก็เริ่มสบายๆ เพราะมันมีเรื่องคุยกันต่อ”
เพื่อนว่ายังไงบ้าง? “ไม่มีใครสนับสนุนเลย เพราะไลฟ์สไตล์มันไม่ตรงกัน นานาเป็นคนไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ดื่ม แต่ตรงข้ามกับเค้า เจนี่บอกเลยว่า เราเอาไม่อยู่หรอก หยุดๆ อย่าคิดจะไปต่อ ทุกคนก็คิดแบบนี้กันหมด ให้ลองคุยกับคนอื่น”
“แม่นานาก็ไปสืบ เค้าก้ไม่ชอบ ไม่โอเค เราไม่ได้บอกหรอกว่าเพื่อนว่าไม่โอเค บอกแค่ว่าแม่ไม่โอเค เค้าก็เลยบอกให้เรานัดเจอแม่ให้เค้าหน่อย พอแม่เห็นเท่านั้นแหล่ะ เค้าก็พยายามที่จะพูดภาษาไทย สวัสดีแม่ ชวนแม่คุยโน่นนี่นั่น คือแม่ไม่มีอะไรที่จะมองในด้านที่เค้าเคยจินตนาการไว้ แม่นานามาบอกทีหลังว่า เค้ารู้สึกเอ็นดูมากกว่า”
“ก่อนที่จะไปถึงแก๊งเพื่อนๆ เราก็เจอเหตุการณ์หนึ่งก่อน วันหนึ่งมีโทรศัพท์โทรมา เป็นแม่ของผู้หญิงคนหนึ่ง น้ำเสียงน่ารักมาก เค้าโทรมาบอกว่า นานาไม่ใช่ผู้หญิงที่จะไปกับเวย์แน่นอน เค้าพูดประมาณว่า เวย์ทำให้ลูกสาวเค้าเสียใจ เค้าบอกว่าที่เค้าพูดมาเป็นเรื่องจริงนะ อยากให้เราเอาไปคิดนิดนึง
...
เย็นนี้เรามีนัดกินข้าวกับเวย์ เลยตัดสินใจจะบอกเวย์เลยว่ามีเหตุการณ์นี้ เวย์ก็ตอบแบบ I’m a badboy. เค้ารู้ว่าเค้าทำอะไรมาให้ผู้หญิงเสียใจ แต่คุณจะเลือกเอาอดีตมาตัดสินเค้าวันนี้ หรือจะเดินไปข้างหน้าแล้วค่อยตัดสินใจอีกทีหนึ่ง
ผ่านไปอีก 2 เดือนได้มั้ง เราเริ่มไม่อยากจะไปกินข้าวกับคนอื่นแล้ว อย่างที่นานาบอกว่าจะไม่รอ จะไม่เสียเวลา แต่มันเริ่มสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มคุยกับเค้าทุกวัน จนเราไม่อยากคุยกับคนอื่นแล้ว เค้าบอกว่า เริ่มจะชอบเราแล้ว วันไหนไม่ได้คุย เริ่มรู้สึกคิดถึง เราก็เริ่มที่จะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน
เริ่มชอบแล้ว เริ่มรู้สึกดีแล้ว ก็เริ่มคิดว่าอยากจริงจังด้วยแล้วนะ คบกันเพื่อนที่จะเห็นในวันแต่งงานเลยนะ แต่ถ้าคุณคิดว่า แค่ for fun เดี๋ยวจะ fun กันไป ก็จะได้จบกัน แต่ถ้าคุณคิดว่ามันโอเคแล้ว เราก็สามารถจะไปกันได้ เราตั้งใจจะไปถึงตรงนั้นเพื่อคบกัน เอามั้ย มีสิทธิ์ที่จะเอาหรือไม่เอาก็ได้ ซึ่งเราก็นั่งลุ้นอยู่ เค้าก็เงียบไปอยู่นาน
สุดท้ายแล้วเค้าก็บอกว่า เค้าคิดว่าแล้วความสัมพันธ์เรามันโอเคแล้ว คิดว่าน่าจะไปถึงวันนั้นได้ ขอบคุณที่ถามคำถามนี้กับเค้า เราจะได้เคลียร์กันและอยู่หน้าเดียวกัน และเดินกันไปด้วยกัน ซึ่งนานาตัดสินใจถาม เพราะเราชอบแล้ว จะเอายังไง เรารู้สึกดีแล้วอ่ะ แล้วเค้าก็บอกเราว่า ขออย่างหนึ่งคือ เค้าต้องไปเคลียร์ก่อนนะ ซึ่งเราก็โอเคที่จะเริ่มรู้แล้วว่าจะไปในทิศทางไหน ก็โอเคถึงมีมาวันนี้ค่ะ”.
...