อยู่ในวงการบันเทิงมานานกว่า 30 ปี สำหรับ ป๋าเทพ โพธิ์งาม เชื่อว่าถ้าพูดชื่อนี้ไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน แต่ด้วยความอิ่มตัวของตัวเอง อีกทั้งชื่นชอบในการทำธุรกิจ เจ้าตัวเลยได้ลองทำหลายอย่าง แม้จะล้มลุกคลุกคลานบ้าง แต่ก็ยังสู้ไม่เคยถอย แม้จะผิดหวังมาหลายอย่างก็ตามที
ล่าสุด เจ้าตัวได้ควงภรรยาคู่ชีวิต จุ๋ม ภัสราวรรณ และลูกๆ มาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ถึงการกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง หลังจากตัดสินใจเลิกรากันไป และเรื่องธุรกิจของป๋าเทพ ที่ยอมทิ้งเงินจากงานประจำกว่าครึ่งล้าน ด้วยเหตุผลง่ายๆ ที่เบื่อวงการบันเทิง!!
อยู่กันมากี่ปีแล้ว?
จุ๋ม “ตั้งแต่อายุ 25 จนมาทุกวันนี้น่าจะเข้าปีที่ 36 แล้วค่ะ”
เพราะอะไรถึงอยู่ด้วยกันนานขนาดนี้?
จุ๋ม “มันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ไม่ไหวแล้ว มันสุดๆ แล้ว คือเราเลิกกันไป แล้วต่างคนต่างไปได้ดี ก็ถือว่าเป็นบุญ แต่ถ้าเลิกกันไปแล้วกลับมาก็ถือว่าเป็นกรรม ก็ไปได้ 8-9 เดือน ทีนี้ก็อยู่กับลูก”
อะไรที่ทำให้ตัดสินใจกลับไปอยู่กับเค้า?
จุ๋ม “คือเราอะเฉยๆ นะ แต่หลายๆ คนก็เห็นว่าต่างคนต่างไม่ได้ตัดสินใจ แต่ลูกๆ เค้าเห็นพ่อมีข่าว ก็ไปหาพ่อ ทอฟฟี่ก็ร้องไห้ บอกว่า แม่มีความสุขมากใช่มั้ยที่ไม่ได้อยู่กับพ่อ พ่อเค้าก็ไม่ได้มีใคร ตอนนั้นอาจจะแบบว่าล้มเลิกร้านหมูกระทะมา กำลังทำร้านใหม่ แล้วก็ขายบ้านไปแล้ว เค้าก็เลยดูโทรม”
...
รู้สึกยังไงที่เห็นแม่จุ๋มกลับมา?
ป๋าเทพ “ก็ไม่รู้สึกอะไร มันอยากมา มันก็มาเอง”
จุ๋ม “คือเราก็รอให้เค้ามาง้อนั่นแหละ ก็แอบให้แม่แจ๊สมาดูร้าน เราก็แอบมาดู มาดูเค้าปั้นขนมเปี๊ยะ”
แสดงว่าที่กลับมาคืนดีนั้นแปลว่า ยังรัก และเป็นห่วงเค้า?
จุ๋ม “มันต้องใช่อะ ถ้าไม่ใช่คงไม่กลับมาแล้ว แล้วที่เรากลับมาไม่ใช่เพราะว่าป๋าตกอับ ซึ่งเรื่องตกอับป๋าก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เดี๋ยวมี เดี๋ยวตกอับ แต่ที่เรากลับมาเพราะลูก”
ทำไมป๋าถึงเป็นคนที่ลุยธุรกิจเยอะขนาดนี้?
ป๋าเทพ “เพราะตั้งแต่เด็กอยากเป็นนักธุรกิจ ไม่เคยคิดอยากเป็นนักแสดงอะไรเลย ถ้าเราเอาความท้อมาเปรียบเทียบในการทำงาน มันไม่สำเร็จหรอก ถึงจะล้มเราก็ต้องทำให้ได้ แม้ว่าจะคลานก็ตามที มันก็มีท้อบ้าง แต่เราจะท้อ 100% ไม่ได้ เราท้อแค่ 50 พอ
ส่วนที่เหลือเอาไว้เป็นกำลังใจให้เดินต่อไป ป๋าลุยมาตั้งแต่เด็กแล้ว เราไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เพราะเจอมาหมดแล้ว แม้กระทั่งอดข้าว ลำบากยากเข็ญขนาดไหนก็เจอมาแล้ว”
“คือตอนนี้เราคิดว่าจะประสบความสำเร็จแน่นอน แต่ไม่ถึงกับรวยหรอก แต่สำเร็จแน่นอน ส่วนธุรกิจขนมเปี๊ยะตอนนี้เราก็ทำไปเพื่อประคอง เราทำไปขายตลาดนัด เรามีลูกจ้าง 7-8 คน เราก็ทำไปเพื่อประคองให้มันอยู่รอด”
หลายคนมองว่า อาชีพของป๋าคือตลก ทำไมถึงไม่ใช้อาชีพนี้สร้างงานในวงการต่อไป?
ป๋าเทพ “คือในวงการบันเทิงนี้นะ ป๋าเห็นมาหลายคนแล้ว ดาราส่วนมากจะเป็นอย่างนี้ว่ารอเมื่อไหร่จะมีงานเข้ามานะ ตั้งหน้าตั้งตารอ ซึ่งป๋ามองว่ามันผิดนะแบบนี้ อาชีพเรามันเปลี่ยนได้หลายๆ อย่าง ไม่จำเป็นว่าจะต้องมารองานวงการอย่างเดียว เราสามารถไปรวยทางอื่นได้อีกเยอะ ถ้าเรากล้าฉีก กล้าออกบ้าง”
...
รู้มาว่า ป๋าเป็นพิธีกร อัดเทปนึงได้เงินประมาณ 1-2 แสน ซึ่งมันก็พอแล้วนะ?
ป๋าเทพ “รู้เหรอว่าพอ ไหนจะต้องเลี้ยงสัตว์กว่าพันชีวิตอีก เราจะไปนั่งรอละครเรื่องหนึ่งกว่าจะมาเหรอ ไหนจะลูกหลานเราอีก”
แล้วรายการทีวีล่ะ เราหมดสัญญาเหรอ?
ป๋าเทพ “ไม่เคยมีสัญญา แค่ไม่ชอบเรื่องไหน รายการไหน เราก็เดินออกมาเฉยๆ แต่ถ้าอยู่ต่อไปก็อยู่ได้”
นี่ไงเลยเป็นสาเหตุ ถ้าอยู่ต่อไปก็เดือนละครึ่งล้านเลยนะ?
ป๋าเทพ “ครึ่งล้านมันจะพออะไร เพราะป๋าต้องใช้เดือนละล้านห้าเลยนะ”
ถ้าอยู่ในวงการต่อไป มันจะได้แบ่งเบาภาระเรา?
ป๋าเทพ “เห็นมั้ย วงการบันเทิงแก่ตัวมาเคยมีอะไรเหลือมั้ย ดาราเป็นพระเอกเลย สุดท้ายจะอยู่ยังไง เคยนึกกันบ้างมั้ย โอกาสป๋ามีเลยต้องฉีกออกก่อน ฉีกเพื่อไม่ให้ไปซ้ำรอยพวกที่เป็นๆ มาแล้ว
ป๋าไม่ได้เอาแต่ใจนะ แต่ป๋าฉีกออกมาเพื่อจะได้ไม่ไปซ้ำรอยเค้า ก่อนที่เราจะมาอยู่ เราก็คิดแล้วเพื่อให้ลูกหลานอาศัยได้ เราก็ต้องมองอนาคตตัวเอง”
...
เห็นว่าป๋าลงทุนขับรถไปขายต่างจังหวัดเอง ทำไมต้องลงทุนขนาดนั้น?
ป่าเทพ “ช่วงนี้เมื่อเราไม่รับอะไรแล้ว เราอยู่เฉยๆ ก็ลำบากเหมือนกัน ก็ต้องออกเพื่อรอเวลาอะไรบางอย่างที่ต่อจากขนมเปี๊ยะเท่านั้นเอง”.
