โดนจับตาโดนล้อชื่อพ่อตั้งแต่เด็ก เพราะมีคุณพ่อดังเด่นระดับประเทศ ตูน พัทธยศ ลิมปพัทธ์ ลูกชายของ เสี่ยพันล้านต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์ พิธีกรแถวหน้าของประเทศไทย มีรูปร่างหน้าตาและแววหล่อเข้มไม่แพ้พ่อต๋อย
ตอนนี้ตูนลาออกจากงานประจำที่แบงก์ เพื่อออกมาช่วยงานโน่น นั่น นี่ของพ่อต๋อยอย่างเต็มตัวแล้ว ทำไมต้องลาออกจากงานที่เคยทำมานาน พ่อต๋อยบังคับ หรือว่าตูนเต็มใจออกมาเอง บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปคุยชัดๆ กับหนุ่มอนาคตไกล ตูน พัทธยศ ลิปพัทธ์ กับหลายเรื่องราวที่น่าสนใจสุดๆ
คุณพ่อต๋อย ไตรภพ บอกให้ตูนลาออกมาช่วยงาน หรือว่าเราเต็มใจออกมาช่วยงานพ่อเอง? "เราออกมาเองครับ คุณพ่อบอกว่าไม่ต้องออก (ยิ้ม) แต่คุณพ่อบอกว่า ถ้าถึงเวลาจะเรียกเราออกมาเอง เรารู้สึกว่าถ้าไม่ออกมาสักที แล้วเมื่อไหร่มันจะพร้อมสักที ก็เลยไปลาออกเองเลย แล้วมาบอกกับคุณพ่อว่า ลาออกจากงานแล้วนะ"
"จริงๆ เคยคุยกับพ่อตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่เรียนจบแล้วครับ พ่อมีอะไรให้ช่วยมั้ย จะได้ไม่ต้องไปหางาน จะได้มาช่วยงาน พ่อบอกเลยว่า ไม่ต้องๆๆๆ พ่อบอกแค่ว่าถ้าพร้อมเมื่อไหร่ ถ้ามีอะไรให้ทำ พ่อจะบอกเอง ผมก็ไปหางานทำข้างนอกมาเกือบสิบปี"
ช่วงนั้นไม่ได้เข้ามายุ่ง หรือเข้ามาทำงานช่วยพ่อต๋อยเลย? "ไม่ได้ยุ่ง ไม่ได้เข้ามาอะไรเลย พอเราทำงานแบงก์มากขึ้น ทำมานานกว่า 4 ปีครับ เห็นอะไรมากขึ้น เราก็ เอ๊ะ จริงๆ เราน่าจะมาช่วยพ่อนะ มาช่วยดูตรงโน้นตรงนี้ ก็เลยออกมาเลย เพิ่งลาออกจากงานแบงก์มาได้ 9 เดือนครับ"
"จริงๆ ในส่วนของการผลิตรายการทีวี ผมไม่ได้ยุ่งเลย ตอนนี้ผมมาดูเรื่องทำอีเวนต์ งานเอ็กซ์โปครัวคุณต๋อย แล้วมาดูเรื่องออนไลน์ อาจจะมีรายการใหม่ที่ออนแอร์เฉพาะทางออนไลน์ กำลังคุยๆ กันอยู่ ก็ต้องดูด้วยว่าในแง่ของธุรกิจ ตรงไหนตอบโจทย์ในสถานการณ์ตอนนี้มากที่สุด เดี๋ยวจะมีโปรเจกต์ใหม่ๆ เราก็จะช่วยดู พูดง่ายๆ อะไรที่ไม่ได้เกี่ยวกับการผลิต ก็จะช่วยดูด้วย"
...
โปรเจกต์ใหม่ที่จะทำคืออะไร? "ก็คิดว่าจะมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับครัวคุณต๋อยออกมาขาย อาจจะเป็นเครื่องครัว หรือสินค้าที่ทำให้แฟนรายการเรา ได้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น จริงๆ ตอนนี้คิดไว้หลายแบบ อาจจะสร้างแบรนด์เอง หรือว่าไปคัดเลือกสินค้าดีๆ ของคนอื่นเอามาขาย ก็กำลังจะพัฒนาตรงนี้อยู่"
"เพิ่งไปเมืองกวางโจว จีน มากับคุณพ่อครับ ไปดูเรื่องงานแฟร์ (Fair) ไปดูเขาขายของว่า ขายอะไรกันบ้างนะ พอไปดูจริงๆ โอ้โห!!! งานแฟร์ที่จีนใหญ่มากๆ เราไปเห็น โห!!! อึ้งเลย!!! เราก็คิดว่ามันใหญ่แหละ แต่เราไม่คิดว่ามันจะใหญ่ขนาดนั้น ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ก็มาช่วยเรื่องการวางแผนบริษัทให้พ่อครับ มาช่วยเป็นตัวเสริมให้คุณพ่อมากกว่า มาทำช่วยก็สนุกๆ ดีครับ (ยิ้ม)
ตอนนี้ก็เปิดบริษัทเล็กๆ ชื่อ บอร์นโปรเจกต์ เราก็ตั้งใจทำ อย่างเรื่องการทำออนไลน์ เราบอกกับลูกน้องเลยว่า คุณไม่ต้องไปทำตามกระแส คุณไม่ต้องสนยอดไลค์เลยนะ ไม่ต้อง! ยอดไลค์ยอดแชร์ที่เราเห็นตามที่ต่างๆ จะอยู่ได้กี่ปี แต่ถ้าคุณทำงานให้ดี สร้างความน่าเชื่อถือ ทำออกมาแล้วภูมิใจกับงาน นี่แหละอยากให้ทำงานแบบนี้ แล้วค่อยๆ สร้างฐานเรื่อยๆ จะดีกว่า ถ้าเราทำดีสักวันคนจะต้องเห็น ไม่ใช่ทำงานเอาแต่ยอดไลค์ เอาแต่กระแส เพราะตอนนี้กระแสมาเร็วมาก แล้วมันก็ไปเร็วมาก"
กำไรที่ผ่านมาของบริษัทคุณพ่อต๋อย? "พูดจริงๆ กำไรไม่ได้เยอะมาก พูดจริงๆ อย่างงานครัวคุณต๋อยเอ็กซ์โป เราเลือกจัดที่สถานที่ใหญ่ๆ หน่อย อยากให้คนที่มางานได้เห็นร้านเยอะๆ ซึ่งค่าสถานที่มันก็แพง ค่าโปรโมชั่นก็จัดเต็มหมด ซึ่งเศรษฐกิจมันไม่ได้อยู่ในยุคเฟื่องฟู เพราะฉะนั้นตรงนี้ที่ทำก็เหมือนตอบแทนแฟนๆ รายการ บรรดาพันธมิตรของเราที่เป็นร้านค้าที่เป็นแฟมิลี่เรา ให้มีกิจกรรมทำ"
ดูจากบุคลิกท่าทาง การพูดจาของตูนแล้ว น่าจะเป็นพิธีกรที่เก่งต่อไปได้เหมือนพ่อต๋อย ไตรภพ ได้อยู่นะ? "โห!!! ขอบคุณครับ ยากครับ" ไม่ชอบการเป็นพิธีกร? "จริงๆ ไม่ใช่ไม่ชอบหรอกครับ แต่ว่าเรามีความรู้สึกว่า เรายังไม่รู้ว่าอะไรที่อยากทำหรือว่าอยากนำเสนอ" เป็นพิธีกรรายการของพ่อต๋อยไปเลย จะได้ประหยัดค่าพิธีกร? "โห!!! ยากครับ ต้องใช้พิธีกรมืออาชีพครับ"
ต่อไปตูนอยากจะทำรายการของตัวเอง? "ก็เฉยๆ นะครับ ตูนไม่ได้มีหัวถนัดในด้านการผลิตรายการเลย คือตั้งแต่ตูนเรียนแล้ว ทำเรื่องสายการเงินมาตลอด เรียนการเงิน จบมาก็ทำการเงินการลงทุนอะไรงี้ครับ เมื่อก่อนงานที่ทำล่าสุดคือ ปล่อยเงินกู้โรงไฟฟ้าถ่านหิน คือโรงไฟฟ้าถ่านหินมันขึ้นยาก ก็เลยไม่ได้ปล่อยเงินกู้ หรือพวกพลังงานลม พลังชีวมวล พลังงานจากขยะ ฯลฯ"
...
ส่วนตัวจริงๆ ชอบอะไรมากที่สุด? "ตูนไม่ค่อยชอบดูทีวีนะ ดูแต่ถ่ายทอดฟุตบอล เพราะเรารู้สึกว่าช่วงนี้มีแต่รายการร้องเพลง ก็ชอบดูหนังสารคดี ชอบอะไรที่มันลึกซึ้ง ไม่ชอบอะไรที่ฉาบฉวย อย่างหนังสารคดีที่เกี่ยวกับเรื่องซูชิ (Jiro Dreams of Sushi จิโระ เทพเจ้าซูชิ) ชอบอะไรที่คิดเยอะๆ ก่อนที่จะไปถ่ายทำ เฮ้ย มันลึกซึ้งนะ อย่างร้านลับมีด มันไม่ใช่แค่ว่าเราลับมีดยังไง แต่มันคือเขามีเป้าหมายอะไร ทำไมเขาถึงทำแต่การลับมีด มันต้องมี!"
เป็นคนลึกซึ้ง ชอบอะไรลึกๆ เพราะพ่อต๋อย ไตรภพ ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก? "ที่บ้านคุณพ่อจะเลี้ยงแบบไม่มีกรอบ เขาจะบอกแค่ว่าให้เป็นคนดี" กว้างเนอะแค่เป็นคนดี? "ใช่ครับ อยากจะเรียนอะไร อยากจะทำอะไรเรื่องของเรา ตั้งแต่ตูนเกิดมา เขาไม่เคยบังคับอะไรสักอย่าง (เน้นเสียงดังๆ) แล้วแต่เราเลย ไม่มีอะไรที่พ่อบอกว่า ต้องเป็นแบบนั้น ต้องเป็นแบบนี้" ให้ใช้ชีวิตไปตามใจเธอ แต่อย่าเอาปัญหามาให้นะ? "พ่อไม่ใช่คนสปอยล์ ไม่ตามใจเลย แต่ว่าอะไรที่เราทำได้หรือเราทำไม่ได้ ก็ไม่ว่าก็ปล่อยเรา จะเรียนอะไรเรื่องของเรา ไม่บังคับเรา (น้ำเสียงชิลมากๆ)"
ส่วนมากคนก็จะเข้ามาอวยๆ ชมเรา เพราะตูนเป็นลูกพ่อต๋อย ไตรภพ ถามตรงๆ เคยได้ยินพวกที่มานินทาว่าร้ายเราบ้างมั้ย? "เอาจริงๆ นะ มันจะมีตอนที่พ่อขึ้นสูงๆ กราฟพุ่งสูงๆ ตอนที่ไปทำไอทีวี itv กราฟจะพุ่งสูงเลย ก็จะมีคนมากระแนะกระแหนให้ได้ยินอยู่ แต่ตอนนี้โลว์โปรไฟล์อยู่นิ่งๆ จะไม่ค่อยได้ยินอะไรที่ไม่ดี แต่ตูนจะชินครับ เพราะตูนโดนเพื่อนๆ ล้อชื่อพ่อตั้งแต่เด็กๆ (ยิ้ม)"
"คนที่รู้จักเราครั้งแรกก็จะบอกว่า อ๋อ ลูกไตรภพๆๆๆ แต่เรารู้สึกว่าจะชิน แต่พอเขาได้รู้จักตัวตนเราจริงๆ คำว่าลูกไตรภพ ก็จะค่อยๆ หายไปช เขาจะรู้จักแค่เรา เพราะเราก็ทำตัวโลว์โปรไฟล์ เราก็ไม่ได้โอ้อวดว่าเราคือใคร" แสดงว่าตูนวางตัวดี? "(ยิ้ม) ก็ไม่รู้จะโอ้อวดอะไร เพราะเราไม่มีอะไรให้โอ้อวดครับ" อวยตัวเองบ้างก็ได้นะ? "(หัวเราะ) อวยตัวเองไม่เป็นครับ"
...
มองอนาคตของบริษัทคุณพ่อต๋อยต่อไปอย่างไร จะต้องยิ่งใหญ่กว่าเดิม? "ตูนเชื่อว่าทุกอย่างมันจะอยู่บนความเปลี่ยนแปลง มันไม่มีอะไรอยู่นิ่งเสมอไป รายการของคุณพ่อที่ทำมาหลายสิบปี ถ้าอยู่นิ่งมันไม่มีทางจะอยู่มาได้จนถึงวันนี้หรอก เราก็มองอนาคตแหละ จริงๆ ที่ผ่านมา 5 ปี โลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากมหาศาลจริงๆ ทั้งจากเรื่องดิจิตอลเรื่องสื่อออนไลน์โซเชียล
"โจทย์ของเราคือ ต้องปรับตัวให้เร็วที่สุด ต้องเข้าใจเรื่องออนไลน์ พฤติกรรมของคนที่เสพสื่อของเรา เพื่อที่เราจะอยู่ได้อยู่ไปอีก 5-10 ปี ต้องปรับตัวให้เร็ว ปรับตัวให้ได้ เราไม่วางแผนไกล วางแผน 3 เดือนว่า 3 เดือนต่อไปนี้ อยากจะทำอะไร อยากเห็นอะไร"
"บางทีเด็กๆ รุ่นใหม่ประสบความสำเร็จเร็ว อย่างเทรนด์มาเขาเกาะแล้วโตเร็ว ปัญหาหนึ่งคือเราไม่รู้หรอกว่าเขาจะโตและยั่งยืนต่อไปได้แค่ไหน เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปเร็วมากๆ อย่างตอนนี้เขาเป็นที่ 1 แต่ต่อไปอีก 5 ปี เราไม่รู้หรอกว่าจะเป็นอย่างไร เพราะทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วมาก"
ช่วงนี้ชีวิตครอบครัวของตูนเป็นอย่างไรบ้าง? "ก็แต่งงานมาแล้วครับ เข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว มีลูกผู้หญิงสองคนเป็นลูกแฝด เพิ่งขวบหนึ่ง คุณปู่ติดมาก (ลากเสียงยาวได้อีกๆ) ลูกเจอคนเยอะเลยมีพัฒนาการดี เป็นคุณพ่อมือใหม่ที่ไม่ทำอะไรเลย (ยิ้ม) คุณแม่ดูแลทุกอย่างครับ" ตูนมีหน้าที่แค่ส่งเงินอย่างเดียว? "(หัวเราะ) ไม่มีเงินครับ เงินนี่ได้จากคุณปู่ (ยิ้ม)".