เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในยุคทีวีดิจิตอลและยุคโซเชียล ทุกคนติดอกติดใจกับละครเรื่องบุพเพสันนิวาสตั้งแต่ตอนแรก มีกระแสออเจ้า และการแต่งชุดไทยเกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่รัฐบาลและหน่วยงานหลายหน่วยงานพยายามรณรงค์เรื่องการใส่ชุดไทยมานมนาน แต่ก็ยังไม่เฟื่องฟูเท่ากับกระแสฟีเวอร์ละครบุพเพสันนิวาส ถึงขนาดที่เราได้เห็นคนไทยใส่ชุดไทยไปเดินเที่ยวชมวัดวาอาราม โดยเฉพาะที่วัดไชยวัฒนาราม อาหารการกินที่อยู่ในละครก็เป็นที่นิยมอย่างเช่น มะม่วงน้ำปลาหวาน หมูกระทะ กุ้งเผาหัวมันเยิ้ม ล่าสุดหมูสร่งอาหารโบราณที่คนกลับมาพูดถึงอีกครั้ง และสร้างรายได้ให้กับหลายต่อหลายคนที่ทำขายตามกระแสละคร

และคงเป็นละครเรื่องแรกที่ตัวนักแสดงดังทุกคน ปกติแล้วละครที่ดังมากจะดังแต่พระเอกนางเอก หรือไม่ก็คนใดคนหนึ่ง จะมีบางเรื่องที่ตัวร้ายดังด้วย แต่ก็แค่นั้น ไม่ดังถึงคนใช้และบทบาทอื่นขนาดนี้ มีงานโชว์ตัว งานพรีเซ็นเตอร์มากมายเข้ามา และเมื่อความดังเข้ามาก็มีกระแสอื่นตามเข้ามาอีก เช่น บ้านของนักแสดงแต่ละคนเป็นยังไง? แฟนของแต่ละคนคือใคร? ผลงานของแต่ละคนตั้งแต่เข้าวงการคืออะไร? ความดังทำให้คนเริ่มขุดคุ้ยแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัว ที่แรงสุดคงจะหนีไม่พ้นเรื่องแชตหลุดของพระเอกคนดัง ที่ประหนึ่งว่ามีสาวหลายคนรวมตัวกันบ่นน้อยอกน้อยใจเรื่องที่คุณพี่ได้แล้วทิ้ง มีการตัดต่อภาพให้ดูเหมือนว่าตัวเองเป็นเหยื่อที่แท้จริง แต่ยังไม่ทันจะข้ามคืนให้สมกับยุคโซเชียล ก็มีการแฉกลับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเมคขึ้นมา บอกเลยว่ามันส์ยิ่งกว่าละครตบตี ส่วนพระเอกหนุ่มก็มีการให้สัมภาษณ์แบบเปิดเผยและขอชมในฐานะคนในวงการเดียวกันว่าตอบคำถามได้ดี จนสาวๆ อยากได้รับความเมตตาจากคุณพี่หมื่นกันเป็นแถว

นางเอกก็โดนเอาดวงไปให้หมอดูและมีคำเตือนออกมาว่า ระวังจะโดนแฉ ซึ่งอันเนี้ยก็แปลกใจว่าทำไมต้องเขียนข่าวแบบนี้ ทั้งๆ ที่มันยังไม่เกิดขึ้น และที่สำคัญนางเอกคนนี้ก็ไม่ได้เพิ่งมาดังเรื่องแรก น้องเค้าดังมาหลายรอบหลายเรื่องแล้ว เพียงแต่เรื่องนี้ที่ดังตูมตาม จนแม้แต่ผู้จัดละครหรือตัวนักแสดงเองยังแปลกใจเพราะถ่ายทำเสร็จไปนานมากแล้วและก็ไม่คิดว่ากระแสจะเปรี้ยงปร้างมากมายขนาดนี้ ยังมีอีกหนึ่งคนที่โดนคือ น้องเอิร์ธ ที่เล่นเป็นหลวงศรียศ ในกลุ่มเพศทางเลือกมีการกระจายภาพผู้ชายคนหนึ่งที่แก้ผ้าถ่ายรูปเซลฟี่ตัวเอง แต่มีการเบลอหน้าและอวัยวะเพศ ซึ่งพอสอบถามไปทางตัวน้องว่าเครียดไหมที่เจอคนทำร้ายแบบนี้ น้องก็มองโลกในแง่ดีแล้วตอบว่า “ผมไม่กลัวเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง คนในรูปผิวขาวมากนะครับ ผมยังอยากขาวแบบนั้นเลย” (ฮ่า)

...

สิ่งที่เกิดขึ้นสอนให้เรารู้ว่าความอิจฉาริษยามีเสมออยู่ในโลกใบนี้ เมื่อเห็นใครดังเกินหน้าเกินตาก็ย่อมจะมีคนดึงเราให้ร่วงเป็นธรรมดา แต่ก็นับถือคนทำนะต้องมานั่งตัดต่อ นั่งสร้างรูป นั่งเขียนเรื่องราวให้ดูสมจริงมากที่สุด ดูท่าจะว่างมากเนอะ หึหึหึ และเรื่องราวแบบนี้ก็เป็นการเตือนสติคนที่อยู่ในวงการและนอกวงการอย่างพวกเราที่ดูข่าวว่า ต่อจากนี้ไปฉันต้องระวังตัว เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะกลายเป็นคนดังคนเด่นหรือมีชื่อเสียงขึ้นมา แต่อย่างน้อยเมื่อชีวิตเราประสบความสำเร็จก็ไม่ควรที่จะมีเรื่องราวอะไรมาให้คนตามแฉ รูปที่เคยถ่ายกับใครหรือรูปที่ไม่เหมาะสมก็ไม่ควรมี ลบได้ก็ลบ! กับคนเก่าก่อนเคลียร์ได้ก็เคลียร์ อโหสิกรรมกันไป

แต่ที่น่าแปลกใจก็คือยังมี Pages หรือข่าวลวงที่สร้างประเด็นขึ้นมาเพื่อให้คนเข้าไปอ่านและด่าเพื่อที่จะเพิ่มแค่ยอดเข้าชมแล้วจากนั้นก็เปลี่ยนชื่อ Pages แล้วนำไปขายหรือขายของอีกทีนึง คำว่าจรรยาบรรณและความถูกต้องไม่เหลือแล้ว แต่ก็แค่อยากจะรู้ว่าคนที่ทำอะไรแบบนี้เค้าคำนึงแค่เรื่องเงิน แต่ไม่กลัวบาปกรรมเลยหรือไง แล้วชีวิตพวกเขาจะเป็นยังไงต่อไป จะประสบความสำเร็จในชีวิตไหม ถ้าให้บุ๋มเดา พวกเขาก็คงมีชีวิตที่เดือดร้อนและก็จะเป็นอย่างนั้นต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีทางมีความสุข และพวกเขาก็คิดได้เพียงแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองรอดพ้น ได้เงินได้ทองมาเพื่อประทังชีวิตโดยไม่สนว่ามันถูกหรือผิด ณ บัดนี้ก็คงถึงเวลาแล้วที่พวกเราคงต้องรู้เท่าทัน ถ้าเรารักใคร ชื่นชมผลงานของเค้า ก็คงไม่ต้องเข้าไปแม้กระทั่งอ่านข่าวพวกนี้ให้มันเพิ่มยอดวิวยอดคอมเม้นต์ สิ่งที่ต้องทำก็คือเชื่อมั่นว่ามันไม่เป็นจริง และแจ้งลบเพจนั้นก็พอ อย่าไปคิดว่าฉันจะเข้าไปด่าเพื่อปกป้องศิลปินของฉัน มันเป็นการเข้าทางพวกมัน ที่ต้องการเพิ่มยอดวิว สู้เอาเวลาไปให้กำลังใจและติดตามผลงานของศิลปินที่เราชอบดีกว่า เพราะดาราก็เป็นคน มีถูกผิดที่ทำมาบ้าง แต่เราจะเลือกที่จะติดตามและชื่นชมส่วนไหนของเค้า นั่นคือสิ่งที่เราต้องเลือกเอง ขอแสดงความยินดีและเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุพเพสันนิวาสทุกท่าน ขอให้ตั้งมั่นทำสิ่งที่ดีต่อไปนะคะ