อีกหนึ่งผู้กำกับคุณภาพที่เด่นไกลในระดับอินเตอร์ ตอนนี้ต้องยกให้ บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับฝีมือเฉียบ เจ้าของรางวัลมากมาย ล่าสุดได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ ผู้กำกับยอดเยี่ยม, หนังยอดเยี่ยมเรื่องฉลาดเกมส์โกง Bad Genius รออีกไม่นาน แว่วว่าบาสมีโอกาสดีมากๆ ได้ร่วมทำหนังกับผู้กำกับดังระดับโลก ล่าสุดบาสได้โพสต์ซึ้งๆ ลงไอจี ปลุกไฟฝันให้กับน้องๆ เด็กๆ รุ่นใหม่ได้มีพลังในการทำหนังดีมีคุณภาพต่อไป
"เมื่อ 15 ปีก่อน ตอนที่ผมยังเป็นนักศึกษามหา'ลัย ที่คลั่งไคล้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับหนัง แต่ดันโชคร้ายไม่ได้เรียนอะไรที่เกี่ยวกับการทำหนังเลยแม้แต่น้อย ภาพยนตร์ในดวงใจที่กระตุ้นต่อมความอยากเป็นคนทำหนังไทยให้พองโตยิ่งกว่าเดิมคือ 15 ค่ำเดือน 11 ของพี่เก้ง จิระ ชายชุดดำที่ท่านเห็นอยู่ในภาพนี้,
ความติ่งพี่เก้งสำแดงเดชของมัน ในวันที่ผมไปเจอพี่เก้งนั่งกินกาแฟอยู่เมเจอร์เอกมัยโดยบังเอิญ แล้วตัดสินใจอดข้าวเย็นเอาเงินทั้งหมดที่มี เดินไปซื้อ VCD หนังมาให้พี่เก้งเซ็นแบบงงๆ ปนเขินอาย
"อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจจะคิดในใจ ไอ้นี่ก็ขี้อวยเหลือเกิน ซึ่งใช่ครับ ก็อวยจริงๆ อะแหละ (หัวเราะ) วันนั้นต่อให้เปลี่ยนจากพี่เก้งเป็นผู้กำกับหนังไทยท่านอื่น เช่น พี่อุ๋ย นนทรีย์, พี่ต้อม เป็นเอก หรือพี่เจ้ย อภิชาติพงศ์ ผมก็คงพร้อมที่จะยอมอดข้าวเย็น เพื่อให้พวกพี่ๆ เค้าเซ็นลงกลางใจในแบบเดียวกัน
"ที่พูดมานั้น ประเด็นที่อยากบอกก็คือ ตัวอย่างการทำงานของบุคลากรหนังไทยเหล่านี้ คือเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้คนรุ่นใหม่ๆ ที่มีความฝัน ได้มีพลังและกำลังใจในการต่อสู้ หาหนทางตามแพชชั่นของตัวเองต่อไป, แม้กระทั่งคนที่ดูช่างอยู่ห่างไกลจากโอกาส ที่จะได้มาทำหนังไทยแบบผมในตอนนั้นก็ตาม
"เล่าแบบหนัง ตัดภาพมายัง 15 ปีข้างหน้า ในวันที่ผมได้มานั่งรวมกับเหล่าบรรดาคนทำหนังไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน, วันที่ได้เซลฟี่สี่แอ็กชั่นกับพี่เอก สรพงศ์, วันที่พี่เก้งคนดีคนเดิมประกาศก้องกับคนทั้งฮอล (ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยในงานประกาศผลรางวัลสุพรรณหงส์) ว่าก่อนหน้านี้ คุณนัฐวุฒินี่เค้าเคยทำหนังเจ๊งนะคร้าบ
...
"สำหรับตัวผมนั้น แม้จะเหนื่อยกับการเดินบนเส้นทางนี้มานานหลายปี และที่สำคัญคือผมเชื่อว่ามันยังไม่ใช่ปลายทางอย่างที่มันควรเป็นเสียด้วยซ้ำ, แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเครื่องการันตีว่า ไม่ว่าคุณจะมีที่มาแบบไหน ขอแค่คุณจริงใจในสิ่งที่ทำ เชื่อมั่นในทางที่เป็น สุดท้ายรางวัลที่ดีที่สุดที่คุณจะได้เห็น ก็คือการที่หนังเรื่องหนึ่งซึ่งคุณและทีมงานสร้างมันขึ้นมานั้น กลายมาเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ที่จะมาประกอบร่างรวมกับหนังเรื่องอื่นๆ ที่แตกต่างแต่สวยงามอีกนับร้อยนับพัน และช่วยกันเติมเต็มให้เราเห็นภาพรวมของหนังไทยที่จะผลิใบเติบใหญ่ในอนาคต
"เขียนจริงจังอย่างกับจะขึ้นรับรางวัลโนเบล, แต่ก็นั่นแหละครับ การที่วันนี้ได้มาเห็นพี่เก้งยืนส่งยิ้มหวานให้บนเวทีอีกครั้ง (พูดช่วงที่ไปรับสุพรรณหงส์หนังยอดเยี่ยม) ก็สามารถนำพาความรู้สึกสดชื่นตื้นตันให้กลับมายังชีวิตคนทำหนังวัย 37 อย่างตัวผมเอง จนรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กมหา'ลัยที่สุดตื่นเต้นและแสนดีใจ ในความโชคดีที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของวงการภาพยนตร์ไทย ที่เรารักในที่สุด ขอบคุณทุกคน และทุกสิ่งครับ 12 มีนาคม 61".
