ถูกจับตามองขึ้นมาอีกครั้งสำหรับนักแสดงสาวเซ็กซี่ แน๊ต เกศริน ชัยเฉลิมพล ล่าสุดเข้าไปคอมเมนต์ไอจีของ โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ทายาทอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร และมีการตอบกลับกันไปมาจนถูกจับตามองว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่รึเปล่า

เจอ แน๊ต ในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ "สายลับเกมส์โปมอน 008" ณ ร้านอาหาร Waterside ถ.เกษตร-นวมินทร์ เลยถามถึงเรื่องนี้ พร้อมทั้งถามถึงเรื่องเตรียมหย่ากับสามีฝรั่ง ฮาโรลด์ เจนนิ้งส์ เนสแลนด์ จูเนียร์ ว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว รวมถึงเรื่องของหนุ่มคนใหม่ที่แว่วว่ามีดีกรีเป็นคุณหมอด้วย

...

ถามถึงเรื่องโอ๊ค พานทองแท้ หลังจากไปคอมเมนต์ไอจี เราคิดไหมว่าจะกลายเป็นกระแสขนาดนี้?

“จริงๆ เราคุยกันอยู่แล้วค่ะ เพียงแต่แน๊ตไม่ได้ตามไอจีพี่เขา พี่เขาเพิ่งมาทักไอจีแน๊ตแต่เป็นข้อความมากกว่า เพราะเราไม่ได้ฟอลโลว์ซึ่งกันและกัน แต่พอพี่เขาทักมา เราก็เพิ่งไปฟอลโลว์พี่เขาค่ะ แต่เราคุยทางไลน์ปกติมากกว่า คุยกันปกติเหมือนคนรู้จักกัน ถามว่าตกใจไหม ไม่หรอก

แน๊ตคิดว่าด้วยความที่พี่เขาโสด ก็คุยกับเราแบบไม่คิดอะไรอยู่แล้ว แต่บังเอิญพี่เขาเป็นคนดัง แล้วเราเป็นคนที่พี่ๆ สื่อรู้จัก คงเป็นช่วงจังหวะมากกว่าค่ะ”

แต่ด้วยคำพูดเหมือนจะหยอดหวานหน่อยๆ เขาจีบรึเปล่า?

“แน๊ตว่าน่าจะเป็นสไตล์พี่เขานะคะ ถามว่ามีไปทานข้าวหลังจากนั้นไหม จริงๆ ตอนเป็นข่าวเราเจอกันแค่ครั้งเดียวค่ะ แต่ไม่ได้มีการสานสัมพันธ์ลึกซึ้ง เราเข้ามาคุยเรื่องข่าวที่มันเกิดขึ้นแค่นั้นเอง ตอนนั้นนั่งกันคนละมุมเลยค่ะ”

ซีเรียสไหมที่กลายเป็นข่าวขึ้นมา?

“หนูสงสารพี่เขาค่ะ ถามว่าเขาเครียดไหม เขามีเรื่องข่าวของเขาด้วยมากกว่าค่ะ เรื่องข่าวของเรา เขากลัวเราเสียหาย ส่วนนึงคือเขาไม่อยากให้ใช้คอมเมนต์ของเขาที่คุยกับเราเป็นบันไดให้สื่อเป็นข่าวได้มากกว่าค่ะ”

กลัวใครเข้ามาหาเราแล้วเข้าใจผิดไหม?

“คือตอนนี้เป็นกระแสทุกคนเลยค่ะ ใครเข้ามาอยู่ข้างแน๊ตโดนทุกคนเลย ถามว่ากลัวไหม จริงๆ แล้วเวลามีข่าวแน๊ตจะบอกคนที่เขาคุยอยู่ตลอด ไม่มีปิดบัง เพียงแต่ว่าบางทีข่าวมันก็แรงจนมีปัญหากันบ้างค่ะ แต่เราก็เคลียร์แล้วก็บอกทุกครั้งค่ะว่าเราไปไหน เขาก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง (หัวเราะ) มันก็ต้องมีหึงบ้างค่ะ”

ครอบครัวเราล่ะว่าไงบ้าง?

“ครอบครัวแน๊ตเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่เราก็อธิบายให้ฟัง พอมีข่าวเยอะๆ ทางบ้านก็เริ่มไม่ถามแล้ว เข้าใจแล้วค่ะ ถามว่าเรื่องนี้มีอธิบายไหม ครอบครัวแน๊ตทราบค่ะ ไม่ได้อธิบายอะไร ครอบครัวแน๊ตรู้อยู่แล้วว่าแน๊ตรู้จักพี่เขามานานมากตั้งแต่เลิกกับแฟนทอมค่ะ ตอนนั้นอายุ 20 กว่าๆ จนตอนนี้อายุ 30 กว่าแล้วค่ะ”

สรุปความสัมพันธ์?

“ไม่มีอะไรค่ะ และไม่มีทางจะพัฒนาไปมากกว่านี้ค่ะ”

ถามถึงเรื่องหย่า ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

“ตอนนี้เราส่งข้อความไปให้เขาและรอให้เขาส่งเอกสารมาเพื่อให้สำนักงานแปลเอกสารจากภาษาอังกฤษให้เป็นภาษาไทย เพื่อที่ยื่นเรื่องให้ทางอำเภอและเรียกพยานคนไทย 2 คนตอนจดทะเบียนไปเซ็นยินยอมและรับทราบด้วย มันไม่ได้หย่าง่ายๆ คือเอกสารภาษาอังกฤษทางเขตก็ไม่รับค่ะ ต้องยื่นทั้งหมดเหมือนตอนจดทะเบียน เขาก็ต้องไปขอเอกสารทางสถานทูตมาและต้องแปลทั้งหมดเป็นภาษาไทยก่อนค่ะ

...

ถามว่าเมื่อไหร่จะได้เอกสารครบ คือตอนนี้เขาอยู่ในช่วงทำใจที่จะต้องหย่า เพราะเขาไม่ได้อยากหย่า แต่เขาก็พูดแล้วว่าจะหย่าค่ะ ถ้ายังไม่ส่งเอกสารมา เขามาเมืองไทยเขาก็ต้องรอเอกสารแปล 3-5 วัน จริงๆ วันเดียวก็ได้แต่คงไม่ทันเพราะเอกสารเยอะค่ะ แล้วเราต้องนัดพยานซึ่งคิวของทั้งสองคนใช่ว่าจะหาง่าย ต้องเป็นคนที่รู้จักตอนเริ่มจดทะเบียน แล้วเราต้องไปบอกคิวเขาว่าจะมาเมื่อไหร่ เขาถึงจะไปให้พร้อมกัน

เราจดทะเบียนสมรสตั้งแต่ปี 2555 คือจดทะเบียนแล้วต่างคนต่างอยู่เลย ไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมหอลงโรงหรืออยู่ด้วยกัน ไปๆ มาๆ ค่ะ ที่ห่างกันเป็นเพราะเขามีครอบครัวอยู่ทางโน้น ซึ่งมีลูกหลานและมีคุณแม่ที่ป่วยด้วย แล้วเราทำเรื่องที่จะไปอเมริกาหลายครั้ง แต่บังเอิญเราพลาดตรงที่เราจดทะเบียนก่อน เรายังไม่ได้ทำวีซ่าฐานะนักท่องเที่ยว

ฉะนั้นการที่เราจะไปในฐานะนักท่องเที่ยวค่อนข้างยาก เพราะเราจะไม่ได้วีซ่าท่องเที่ยว เราต้องได้กรีนการ์ดเท่านั้นถึงจะเข้าประเทศเขาได้เพราะเราจดทะเบียนแล้วค่ะ แต่ถ้าเราไปที่โน่นในฐานะนักท่องเที่ยวก่อนแล้วค่อยไปจดทะเบียนที่โน่น เปอร์เซ็นต์ที่เราจะได้วีซ่าหรือกรีนการ์ดก็ง่ายขึ้นค่ะ ก็เลยไม่ได้อยู่ด้วยกันค่ะ”

...

แต่เขาก็บินมาหาเราที่เมืองไทยใช่ไหม?

“ช่วงที่คุณย่าป่วย เขาจะบินมาบ่อย แต่พอคุณย่าเสียไม่ได้บินกลับมาค่ะ ปีนึงบินมาทีนึงหรือ 2 ครั้ง แต่ปีที่แล้วยังไม่ได้บินมาจนถึงปัจจุบันค่ะ”

เป็นเพราะตรงนี้ด้วยรึเปล่า ความรักของเราเลยต้องจบ?

“จริงๆ มันไม่เกี่ยว มันไม่ได้ทำให้ความรักของเขาไม่ได้น้อยลงไปจากเรา แต่ด้วยความที่เราไม่ได้อยู่กับเขาในจุดที่จะให้ใจเป็นเหมือนสามีภรรยา แต่แน๊ตดูแลเขาเหมือนลูกหลานคนนึงดูแลผู้ใหญ่ ญาติคนนึง เพราะเวลาเขาป่วยเข้าไอซียู แน๊ตดูแลเขาตั้งแต่เช้าจนห้องไอซียูสั่งห้ามเข้าแล้วค่ะ แม้กระทั่งถ่ายอุจจาระปัสสาวะแน๊ตก็เช็ดให้ทุกครั้ง

คือแน๊ตเหมือนเป็นลูกหลานที่สามารถฝากผีฝากไข้ได้ แต่ไม่ใช่จะมาอยู่ในฐานะภรรยา การที่เราไปขอหย่า เขาก็ทำใจอยู่ เขาถึงยังไม่อยากหย่าให้ ถ้าหย่าแล้วจะไปดูแลเขาได้ไหม แน๊ตคิดว่าเขาคงมีคนที่ดูแลเขาได้ดีนะคะ เพราะแน๊ตบอกเขาตลอดว่ายูน่าจะหาคนที่สามารถอยู่และดูแลยูได้ในทุกเรื่อง”

ดูๆ ไปแล้วเราก็ผูกพันกับเขาเหมือนกันนะ?

“เรามีความผูกพันเพราะเราดูแลเขาในเวลาเขาป่วย ไม่ได้เป็นความผูกพันแบบความรักหนุ่มสาวค่ะ”

เสียดายไหมเพราะชีวิตการแต่งงานมันน่าจะไปได้โอเค แต่สุดท้ายต้องจบแบบนี้?

“จริงๆ เหมือนแน๊ตพลาดไปด้วยซ้ำที่ไปจดทะเบียน แล้วพอมารู้ใจตัวเองว่าเราไม่ได้รักแบบนั้นแล้ว มันไม่ใช่ความรักแบบนั้น มันก็ยากที่จะให้คนคนนึงหย่าให้กับเรา ซึ่งเขารักเราไปแล้วค่ะ เหมือนมันเป็นความรักคนละแบบ”

ถ้าเราย้อนเวลากลับไปได้ เราอยากไปแก้ไขตรงนั้นไหม?

“ถ้าเป็นไปได้แน๊ตจะไม่จดทะเบียนค่ะ เพราะต่อให้จดหรือไม่จด มันก็คือความรักที่เด็กคนนึงมีให้ผู้ใหญ่ แน๊ตเคยคิดเหมือนกันว่าถ้าเขาไม่อยากทิ้งเราจริงๆ ให้จดรับเราเป็นบุตรบุญธรรมก็ได้ เพราะจริงๆ เขาอยากมีลูกสาว แล้วเขาเอ็นดูเมตตาเรา เพียงแต่เขาอาจจะยังไม่พร้อมในส่วนตรงนี้ค่ะ”

...

เรายังเป็นห่วงเขาไหม ถ้าวันนึงต้องหย่ากับเขาไปแล้ว?

“เอาจริงๆ เราไม่ได้ดูแลอะไรเขาเลย เพราะเขาไม่ได้มาให้เราดูแลด้วย นอกจากว่าเขามีงานแล้วบินมา เราถึงจะได้ดูแลค่ะ แต่ทุกครั้งที่เขามา หน้าที่เราก็ไม่เคยบกพร่องนะคะ แน๊ตทำในสิ่งที่ผู้หญิงคนนึงควรจะดูแลคนคนนึงให้ดีได้ เพียงแต่ว่าเรื่องบนเตียงไม่มีแค่นั้นเองค่ะ

ตอนนอนเขานอนบนเตียงส่วนแน๊ตนอนโซฟา ไม่ให้เขามานอนข้างๆ เพราะแน๊ตนอนไม่หลับค่ะ บางครั้งเขาก็มีน้อยใจบ้าง เราก็สงสารเขา เราก็บอกว่ายูมีโอกาสเจอคนที่ดีนะ เพียงแต่ใจเขายังไม่เปิดรับคนใหม่ค่ะ”

ถ้าหย่าเรียบร้อยแล้วเราเปิดใจหาคนใหม่เลยไหม?

“จริงๆ แน๊ตเปิดใจมาตลอดนะคะ ไม่ได้ปิดเลย เพียงแต่แน๊ตไม่ได้เอามาเปิดเผยให้ใครทราบเป็นตัวตนค่ะ แน๊ตไม่เคยบอกว่าไม่มีใคร แน๊ตไม่ได้หลอกใคร ทุกคนรู้ว่าเรามีพันธะ และทางโน้นก็ทราบอยู่แล้วว่าเราอยู่ที่นี่มันก็ต้องมีบ้าง เพียงแต่เราไม่เปิดให้ใครทราบ

ถามว่ารักครั้งต่อไปเป็นคนไทยหรือต่างชาติ จริงๆ แน๊ตชอบคนไทยค่ะ เพราะคุยกันรู้เรื่อง แต่บางส่วนเราเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนไทย นิสัยแน๊ตเหมือนฝรั่ง เราเป็นคนตรง มีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา แน๊ตก็อยากได้คนที่มีวุฒิภาวะด้านความคิดมากพอสมควร เป็นผู้ใหญ่กว่าเรา”

อีกนานไหมกว่าจะเปิดตัว?

“ตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่เลยค่ะ มันหลายเรื่องค่ะ ที่แน๊ตไม่เปิดตัวเพราะคนของเราไม่หย่าให้เรา เราก็ควรให้เกียรติเขาไหม แต่เราก็ไม่ได้ปิดกั้นคนของเรา ไม่ปิดกั้นตัวเราเอง แต่ถ้าสมมติคนของเราหย่าให้ แน๊ตก็พร้อมที่จะเปิด ไม่ใช่แน๊ตไม่ให้เกียรติคนของเรานะคะ ในเมื่อแน๊ตขอหย่าแล้วแต่เขาไม่ให้ จะให้แน๊ตเปิดเพื่อประชดเขามันก็ไม่ใช่ เราก็มีคนที่เราคบ แต่เราให้เกียรติเขาในฐานะที่ไม่ยอมหย่าให้เรา

สมมติเขาไม่หย่า เขาจะอยู่กับแน๊ตจนตาย แล้วถ้าวันนึงเขาตายไปแล้ว แล้วแน๊ตแก่แล้วล่ะ และเขาทิ้งให้เราอยู่ที่นี่คนเดียว ซึ่งเขาต้องดูแลครอบครัวเขาที่โน่น จะให้แน๊ตใช้ชีวิตอยู่ยังไงคะ ทุกคนมองในแง่แน๊ตคบคนอื่น ทุกคนไม่เห็นใจแน๊ตเลยเพราะไม่รู้เบื้องหลังในครอบครัวแน๊ตค่ะ แต่เขาก็คงหย่าเพราะเขาพูดมาเองว่าอยากเปิดโอกาสให้แน๊ตเจอคนใหม่ เพราะเขาแก่แล้ว เขาก็มีลูกมีหลานดูแลค่ะ”

ถ้าบอกอะไรได้ เราอยากบอกอะไรเขา?

“ก็อยากขอบคุณเขา จริงๆ แน๊ตส่งข้อความบอกเขาว่าฉันซาบซึ้งมากตลอด 6 ปีที่ผ่านมา คุณได้ดูแลฉัน เพียงแต่ว่าความฝันในการใช้ชีวิตคู่มันไปไม่ถึงฝัน ฉะนั้นมันไปในสิ่งที่คุณวางเป้าหมายไม่ได้ เราก็ตกลงคุยกันในสถานะที่เป็นเพื่อน เขาก็อยากเป็นเพื่อนกับเราไปตลอด นี่คือสิ่งที่เขาพูดกับแน๊ต

แน๊ตก็เห็นว่าเขามีบุญคุณที่ช่วยเหลืออุปการะครอบครัวแน๊ตมาตลอด เงินอาจไม่มากไม่น้อย โอเคเขาทำในหน้าที่สามีเรา แต่พอเราเห็นว่าเขามีภาระและอายุเยอะแล้ว เราไม่ได้คิดจะเอาเปรียบเขาด้วยการเอาเงินเดือนเต็มหลักแสน เราก็บอกเขาว่าลดลงมาก็ได้ เพื่อที่จะเอาเงินไปเลี้ยงลูกหลานของคุณ

เราพร้อมที่จะทำงานดูแลตัวเอง เพียงแต่เขาอยากทำหน้าที่ที่เขาอยากทำให้เรา เขาก็บอกว่าไม่ต้อง มันเป็นหน้าที่ของเขา เขาก็บอกว่าขอบคุณมากที่ช่วยสนับสนุนเขาค่ะ”.